ข่าว

"วันชัย"​ แจงเคลียร์ปมถือหุ้นสื่อฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วันชัย"​ แจงเคลียร์ปมถือหุ้นสื่อฯ ก่อนรับตำแหน่งส.ว. จ่อฟ้องกลับ "เรืองไกร" ยอมรับนักการเมืองนำปมหุ้นฟ้อง เป็นเรื่องการเมือง เห็นดีให้ศาลรธน. วินิจฉัย

 

"วันชัย"​ แจงเคลียร์ปมถือหุ้นกิจการสื่อฯ ก่อนรับตำแหน่งส.ว. จ่อฟ้องกลับ "เรืองไกร" ยอมรับนักการเมืองนำปมหุ้นฟ้อง เป็นเรื่องการเมือง เห็นดีให้ศาลรธน. วินิจฉัย เพื่อเป็นข้อยุติ ประเมิน กรณี ส.ส.-ส.ว. จะปรากฎผลต่างจากบรรทัดฐานของ "ธนาธร" เพราะข้อเท็จจริงต่างกัน ด้าน "ส.ว." เตรียมรวมกลุ่ม สู้คำฟ้องทิศทางเดียวกัน

 

"วันชัย"​ แจงเคลียร์ปมถือหุ้นสื่อฯ

 

          วันที่ 24 มิ.ย. 62 - นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มีรายชื่อว่าเป็น 1 ใน 21 ส.ว. ที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง​(กกต.) ให้ตรวจสอบคุณสมบัติ ที่เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากถือหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน ตามรัฐธรรมนูญ​มาตรา 98 (3) ว่าด้วยการเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ให้สัมภาษณ์ว่า หากตนมีชื่อตามที่นายเรืองไกรยื่นต่อกกต. จริง ตนพร้อมฟ้องคดีกลับทั้งทางแพ่งและทางอาญา เนื่องจากตนไม่ใช่เจ้าของหรือบุคคลที่ถือหุ้นในบริษัทแคน นู ไฮเรอร์ จำกัด ในปัจจุบัน และตนได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าว และมีผลทางกฎหมายตามที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าแจ้งเป็นเอกสาร คือ วันที่ 25 เม.ย. ซึ่งก่อนวันที่ตนจะได้รับตำแหน่งเป็นส.ว. เมื่อเดือนพฤษภาคม ดังนั้นกรณีดังกล่าวถือเป็นการแจ้งข้อมูลเท็จและทำให้ตนเสียหาย


          "ผมเห็นด้วยที่ทุกฝ่ายจะร่วมตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่กรณีตรวจสอบต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริง ไม่ใช่นำความเท็จสร้างประเด็นทางการเมือง ซึ่งคุณเรืองไกรพยายามสร้างความเสียหายให้กับผม ดังนั้นผมจะไม่ปล่อยให้ลอยนวลแน่นอน อย่างไรก็ตามในส่วนของ ส.ว. อีก 20 คนที่มีชื่อปรากฏตามข่าวของนายเรืองไกรว่าจะถูกยื่นร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัตินั้น เบื้องต้นได้หารืออย่างไม่เป็นทางการ โดยส่วนใหญ่ไม่มีความกังวล และเมื่อนายเรืองไกรยื่นเรื่องต่อ กกต. แล้ว คณะทำงานของส.ว.จะหารือเรื่องดังกล่าวอีกครั้งเพื่อให้การต่อสู้คดีเป็นไปในทิศทางเดียวกัน" นายวันชัย กล่าว


          ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชน เมื่อถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้วจะมีบรรทัดฐานเหมือนกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกศาลสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราวหรือไม่ นายวันชัย กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ หากมีข้อเท็จจริงที่เป็นลักษณะเดียวกันคือ เอกสารการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นของนายธนาธรที่แจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เกิดขึ้นภายหลังอย่างล่าช้าหลังมีการประชุมกรรมการบริหารบริษัทฯ ขณะที่กรณีของส.ส. หรือ ส.ว.​นั้นเป็นคนละข้อเท็จจริงเมื่อเทียบกับกรณีของนายธนาธร

 

          นายวันชัย กล่าวอีกว่า ส่วนที่ก่อนหน้านั้นมีคำพิพากษาของศาลฏีกาในพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีบรรทัดฐานพิจารณาตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งนั้น เป็นสิ่งที่มีข้อแตกต่างในแต่ละพื้นที่ แต่สิ่งที่จะเป็นข้อยุติในเรื่องดังกล่าว คือให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งตนเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาโดยยึดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ไม่ต้องการให้ฝ่ายการเมืองเข้าใช้อิทธิพลครอบงำหรือแทรกแซงสื่อมวลชน ไม่ใช่พิจารณาเพียงวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งบริษัทหรือเอกสารบริคณห์สนธิเท่านั้น

 

           ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กรณีฟ้องปมถือหุ้นกิจการสื่อมวลชน ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลรวมถึง ส.ว. จะทำให้กลายเป็นปัญหาการเมืองหรือไม่ นายวันชัย กล่าวยอมรับว่า กรณีดังกล่าวกลายเป็นเรื่องทางการเมือง ที่ควรมีข้อยุติโดยการวางบรรทัดฐานจากศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้การยื่นเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเสียหายที่พรรคฝ่ายค้านหรือพรรคซีกรัฐบาลจะดำเนินการเพื่อให้กรณีดังกล่าวได้ข้อยุติ ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นถือว่ามีผลผูกพันกับทุกองค์กร

 

          ขณะที่ส.ว. ที่มีชื่อว่าจะถูกยื่นให้ตรวจสอบ อาทิ นายกูรดิสถ์ จันทร์ศรีชวาลา ส.ว. ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ระบุเพียงว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และเรื่องที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามเมื่อมีข่าวว่านายเรืองไกรจะยื่นให้ตรวจสอบคุณสมบัตินั้น ได้พูดคุยผ่านทางไลน์ต่อประเด็นดังกล่าว โดยหลายคนไม่กังวลต่อประเด็นที่เกิดขึ้น เพราะสามารถต่อสู้ได้ด้วยข้อเท็จจริง เบื้องต้นเตรียมรวมกลุ่มเพื่อต่อสู้กับคำร้องดังกล่าวด้วย.

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ