ชพน. จี้ พปชร.รักษาคำพูดมอบเก้าอี้ 1 รมต.

          ที่ทำการพรรคชาติพัฒนา นางสาวเยาวภา บุรพลชัย โฆษกพรรคขาติพัฒนา เปิดเผยความคืบหน้าในการร่วมรัฐบาล และตำแหน่งรัฐมนตรีในส่วนของพรรตชาติพัฒนา ว่า พรรคชาติพัฒนาก็รอคำตอบอยู่ เราไม่ได้ไปเรียกร้องหรือสร้างเงื่อนไขใดๆที่จะไปกระทบการจัดตั้งรัฐบาล เราสนับสนุนท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้มาเป็นผู้นำของพวกเราในการเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้เรียบร้อย การเมืองถ้ายึดถือการเคารพ กฎ กติกา ข้อตกลง และสปิริตร่วมกันแบบกีฬา ก็จะเรียบร้อย ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ประเทศชาติก็เดินไปข้างหน้าได้ เรามีข้อตกลงอะไรกันก็อยากให้ช่วยกันรักษา เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีว่าการเมืองไทยเชื่อถือได้ ก็จะเป็นอีกปัจจัยที่ส่งเสริมความเชื่อมั่นให้กับประเทศได้

          โฆษกพรรคชาติพัฒนา กล่าวต่อไปว่า การที่มีข้อตกลงในระดับผู้ใหญ่ของทั้ง 2 พรรค ที่จะมอบตำแหน่งรัฐมนตรีให้พรรคชาติพัฒนา 1 ตำแหน่งนั้น นอกจากข้อตกลงที่มีต่อกันที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นพันธมิตรในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันแล้ว ก็ยังเป็นไปตามตัวเลขคณิตศาสตร์ทางการเมืองของการจัดตั้งรัฐบาลอีกด้วย จะเห็นได้ว่า รัฐบาลมี 254 เสียง ประกอบด้วย ครม. 36 คน เท่ากับค่าเฉลี่ยที่ประมาณ 7 เสียงต่อ 1 รมต. ตามที่ปรากฎเป็นข่าวในการจัดสรรตำแหน่งนั้น พรรคประชาธิปัตย์มี 53 เสียง และพรรคภูมิใจไทยมี 51 เสียง เมื่อหารด้วย 7 ก็ได้ไปพรรคล่ะ 7 รมต. ก็ถูกต้องเหมาะสม แต่เมื่อพิจารณาในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนามี 10 เสียง เมื่อหารด้วย 7 ก็จะได้ 1 รมต. บวกกับเศษอีก 3 ก็มีการปัดเศษเพิ่มให้ ทำให้ได้ รมต.เพิ่มไปอีก 1 ตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วย รวมเป็น 2 รมต. ก็จะเห็นตัวเลขได้ชัดเจนว่า 3 เสียงก็ได้รับการปัดเศษให้ตำแหน่ง รมต.ต่อกัน ถือว่าเป็นมาตรฐานการคำนวณในการจัดสรรตำแหน่ง รมต. และเป็นน้ำใจไมตรีที่ดีที่พรรคแกนนำมีต่อพรรคขนาดเล็ก ที่มาช่วยในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลราบรื่นเรียบร้อย

          โฆษกพรรคชาติพัฒนา กล่าวอีกว่า ดังนั้นเมื่อพิจารณาในส่วนของพรรคชาติพัฒนาซึ่งมี 3 เสียง ก็ควรที่จะต้องได้รับการพิจารณาให้ได้รับ 1 ตำแหน่ง รมต. เพื่อความทัดเทียมและเป็นธรรม ประกอบกับข้อตกลงที่มีต่อกันด้วยแล้ว ตนยิ่งมีความเชื่อมั่นว่าพรรคชาติพัฒนาจะได้รับตำแหน่ง 1 รมต. ตามที่ผู้ใหญ่ของ 2 พรรค ได้พูดคุยกันไว้   ขณะนี้พรรคชาติพัฒนาและสมาชิกทุกคนก็รอคำตอบจากพรรคพลังประชารัฐ เราพร้อมที่จะเข้าไปร่วมทำงานผลักดันนโยบายตามที่หาเสียงไว้ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน เหมือนนักกีฬาวอร์มอัพไว้แล้ว พร้อมลงสนาม รอกรรม
การเป่านกหวีด คนดูรอชมอยู่.