ข่าว

บิ๊กตู่ ชี้ ชวดรมต.ไม่ต้องห่วงชวดงบฯมีจัดสรรลงทุกพื้นที่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กตู่" ลั่นให้ทุกคนเป็น "รมต." ชี้ ถึงไม่ได้เป็น ก็ไม่ต้องห่วงงบฯจะไม่ได้ ระบุ จัดสรรจากส่วนกลางลงทุกพื้นที่ มอบ ฝ่ายกม.ช่วยดู เหมาะ นั่ง "หน.พปชร." หรือไม่



          18 มิ.ย.62-“บิ๊กตู่” ลั่น ให้ทุกคนเป็น “รมต.” ชี้ ถึงไม่ได้เป็น ก็ไม่ต้องห่วงงบฯจะไม่ได้ ระบุ จัดสรรจากส่วนกลางลงทุกพื้นที่ มอบ ฝ่ายกฎหมายช่วยดูเหมาะ นั่ง ”หัวหน้าพปชร.”หรือไม่  ย้อน ไร้ “ม.44” ทำไมจะอยู่ไม่ได้ 

          ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยก่อนตอบคำถามเรื่องการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ ได้บ่นว่าคำถามของนักข่าวส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับของเดิม แต่จะทำอย่างไรได้เป็นนายกฯก็ต้องตอบ แต่จะตอบเท่าที่ตอบได้

         ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ดูรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีพอไปไหวหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามกลับก่อน ว่าส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาก็เป็นการเลือกมาจากประชาชน และเมื่อเลือกเข้ามาแล้วก็เป็นหน้าที่ของตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาลที่จะมีการตรวจสอบ หลังที่มีการเสนอรายชื่อเข้ามาและที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าหลายคนมีปัญหา ก็ต้องไปถามฝ่ายกฎหมายว่ามีการติดขัดตรงไหนจะเป็นรัฐมนตรีได้หรือไม่ผิดกฎหมายหรือเปล่า แล้วถ้าไม่ผิดจะให้ตนทำอย่างไรในเมื่อประชาชนเลือกกันมาทั้งหมดขึ้นอยู่ว่า เราจะร่วมมือกันอย่างไรในอนาคต และกฎหมายก็มีบรรทัดฐานไว้อยู่แล้วว่าอย่างไรถึงจะเรียกว่าผิด หรือยังไม่ผิดอะไร หรืออยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบ ขอร้องว่าอย่าเพิ่งเอาอะไรมาตีกันเยอะแยะจนวุ่นไปหมด
     

 

บิ๊กตู่ ชี้ ชวดรมต.ไม่ต้องห่วงชวดงบฯมีจัดสรรลงทุกพื้นที่

          ผู้สื่อข่าวถามถึงความลงตัวของเก้าอี้รัฐมนตรีในขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไรหรอกก็เรียกมาคุยกันตลอด มีการหารือพูดคุยให้เข้าใจซึ่งกันและกัน แต่จะให้ทุกคนเป็นรัฐมนตรีหมดเป็นไปไม่ได้ เพราะมีเรื่องของพรรค และแต่ละพรรคก็มีเรื่องของภาคก็ต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ตนเข้าใจดีที่ประชาชนเลือกเข้ามาในแต่ละพื้นที่ห่วงกันเรื่องงบประมาณ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องห่วงเรามีการบริหารจัดการจากส่วนกลางลงสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น มีนายกฯ มี ครม.และมีคนกลางกำกับดูแล ดังนั้นงบประมาณต้องลงทุกพื้นที่ทุกจังหวัด ทุกกลุ่มจังหวัดและทุกภาค ดังนั้น ดังนั้นส.ส.ทุกคนก็มีส่วนร่วมในการพิจารณาตามความต้องการของประชาชน อีกทั้งยังมีเวทีของคณะกรรมการรัฐร่วมเอกชน(กรอ.) กนจ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รัฐบาลก็มีหน้าที่จัดสรรงบประมาณลงไป ซึ่งบางกลุ่มจังหวัดได้มากกว่าเดิมจาก 1-2 ร้อยล้านบาท ได้เพิ่มเป็น 3-4 ร้อยล้านบาท ทั้งหมดต้องสอดคล้องกับแผนแม่บทและแผนการปฏิรูปแห่งชาติรวมทั้งความต้องการของประชาชนในพื้นที่ทุกอย่างต้องสอดประสานกัน
         “จึงไม่ต้องกังวลว่าถ้าไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้วงบประมาณจะไม่ได้ ผมยืนยันว่ามันต้องได้เพราะผมทำมา 5 ปีแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นมาเยอะแยะมากพอสมควรแต่ยอมรับว่าอาจตอบสนองกับกลุ่มเล็กๆ ไม่ได้ทั้งหมด เพราะเราต้องทำภาพใหญ่ให้สมบูรณ์ก่อน คิดว่าอีก 5 ปีต่อไปทุกอย่างจะดีขึ้นกว่าเดิมเยอะพอสมควร” นายกฯ กล่าว
         ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอจากพรรคพลังประชารัฐที่ให้ที่ให้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคได้มีการพิจารณาแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็ปรึกษาฝ่ายกฎหมายดูอยู่ขอให้ใจเย็นๆ กำลังให้รู้ว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมอย่างไร เมื่อถามว่า ที่ผ่านมานายกฯที่มาจากทหารถูกมองว่าไม่สันทัดงานด้านการเมืองอย่างถ่องแท้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผมทำมาทั้งหมด5ปีก็เป็นงานการเมือง นั่นคืองานบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องการเมือง ไม่ใช่การทหารตนต้องประชุมครม.รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน กฎหมายทุกตัวต้องฟังความคิดเห็นจากประชาชนก่อนหลายอย่างที่ต้องใช้อำนาจคสช. ก็เป็นเพราะต้องการเปิดเวทีให้เห็นว่าอะไรเกิดขึ้นในประเทศไทย เมื่อเปิดขึ้นมาแล้วก็เข้าไปแก้ไขปัญหาด้วยกฏหมายปกติหรือใช้งบประมาณพิเศษเพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้ หลายอย่างก็ต้องปลดล็อกสิ่งต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ถ้าไม่มีก็ไปไม่ได้ แต่คิดว่าในอนาคตข้างหน้าไม่จำเป็นแล้ว เพราะเราได้ทำกฎหมายขึ้นมาแทนไปแล้วหลายเรื่อง แต่บางอันก็ยังมีความจำเป็นต้องใช้อยู่ ล้วนแต่เป็นประโยชน์ของประชาชน อย่าไปล้มทุกอันเลย แต่ไม่ใช่ว่าพอยกเลิกแล้วก็จะกลับไปเป็นแบบเก่าทั้งหมดประเทศชาติก็เดินต่อไปไม่ได้
         “การที่มองผมว่าไม่สันทัดทางการเมืองนั้น ผมก็ทำงานมาแล้ว 5 ปีอาจจะมีดีบ้างไม่ดีบ้างซึ่งผมก็ยอมรับ แต่ผมก็ต้องดำเนินการต่อไปจากที่ผมได้เป็นนายกฯครั้งที่สอง อยากเรียนว่าไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิด ทุกอย่างต้องอาศัยการเรียนรู้การเอาใจใส่ ผมก็ไม่เคยเป็นนายกฯ มาก่อน แต่วันนี้ก็พูดไม่ได้แล้วเพราะเป็นมา 5 ปีแล้วและใช่ว่าจะมาจากพลเรือนหรือทหารก็ใช่ว่าจะแก้ปัญหาทั้งหมดได้สักเมื่อไหร่ แต่วันนี้ผมถือว่าผมเองก็แก้ได้เยอะและถ้าเราร่วมมือกันต่อไปไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล หัวหน้ารัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรี ถ้าเราร่วมมือกันทุกอย่างก็ไปได้หมด ด้วยความรัก ความสามัคคี แต่ถ้าเรามัวแต่บ่อนทำลายกัน คิดแต่ผลประโยชน์ทางการเมืองกันอย่างเดียวก็ไม่ได้ ขณะที่ประชาชนอ่อนแอเราจะทำอย่างไร วันนี้ผมยอมรับฟังความคิดเห็นของทุกคนขอบคุณ” นายกฯ กล่าว
         วันนี้ต้องขอบคุณนิสิตนักศึกษาที่ให้ความสนใจ แต่เราควรมาคิดร่วมกันว่าจะร่วมมือกันอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผมเคารพในความคิดของทุกคน ลูกหลานผมก็จบมหาวิทยาลัย วันนี้ผมยังต้องฟังความคิดเห็นของลูกที่หลายอย่างมีความคิดไม่ตรงกันแต่เราต้องร่วมกันสร้างบรรทัดฐานไม่ให้เกิดผลกระทบ จึงอยากจะขอร้องทุกคน การทำอะไรที่ทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น ไม่มีผลดีกับประเทศเลย เราอย่าสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นอีก นายกฯฟังทุกคน แต่ไม่สามารถตำหนิใครได้ เพราะถือว่าเป็นโลกแห่งประชาธิปไตย โลกปัจจุบันและโลกาภิวัตน์ แต่ทุกอย่างต้องมีพื้นฐาน เด็กนักเรียนต้องรู้ว่ามีหน้าที่อะไร การแสดงความคิดเห็นจะเอาการเมืองใส่ไปมากๆไม่ได้ เราต้องมีพื้นฐานของตัวเองให้แน่นก่อน และเมื่อโตขึ้นเป็นนิสิตนักศึกษาก็สามารถแสดงออกได้หลายโอกาส แต่ถ้าขัดแย้งทุกอย่างก็ไปไม่ได้ แล้วประเทศก็จะล้มทั้งหมด วันนี้ผมไม่ได้ปิดกั้นใคร และถ้าถามว่าเหนื่อยไหมต้องยอมรับว่าเหนื่อยในการทำความเข้าใจ อย่างอื่นผมไม่เหนื่อย
          นายกฯ กล่าวว่า การทำงานที่ผ่านมาก็ได้มีการหารือร่วมกับครม.และ คสช.ไม่ได้ใช้อำนาจสั่งการอย่างเดียวแม้แต่คำสั่งมาตรา 44 ก็ต้องเรียกประชุมคสช. และฟังความคิดเห็นจากรัฐบาล ไม่ได้สั่งการอย่างเดียวต้องรับฟังความคิดเห็นทั้งจากครม.และฝ่ายปฏิบัติ ทุกอย่างมีการร้องขอขึ้นมาปัญหาที่มีอยู่หลายอย่างต้องแคะแกะเกา หลายคนวิจารณ์ว่าวันข้างหน้าเพราะไม่มีคำสั่งมาตรา 44 แล้วจะอยู่ไม่ได้ ขอถามกลับว่าแล้วทำไมรัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ ถ้าอยู่ด้วยความรัก ความสามัคคี มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน เคารพกฎหมาย ทุกอย่างทำตามเพื่อชาติบ้านเมือง 
          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เราปิดกั้นใครไม่ได้ เพราะทุกคนบอกว่าประชาธิปไตยมาจากการเลือกตั้งในเมื่อวันนี้ส.ส.มาจากการเลือกตั้งเราจะไปทำอะไรเขาได้ นอกจากมาตรการทางกฎหมายและตรวจสอบคุณสมบัติอย่าลืมว่า ครม.สามารถปรับได้ตลอดเวลา ถ้าทำไม่ดีขึ้นมา หากมีการร้องเรียนร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ก็ต้องใช้กลไกในการตรวจสอบต่อไปแม้แต่ตัวของผมเองก็ต้องระมัดระวัง เพราะหลายเรื่องทุกคนก็บอกว่าเป็นหน้าที่ของนายกฯตัดสินใจ 
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ