"พท.-ประชาชาติ" เสนอหาช่องสื่อสาร ปชช.รับรู้การทำงานฝ่ายค้านถ่วงดุลตรวจสอบรัฐบาล ทำงานร่วมภาค ปชช.ตรวจสอบใน-นอกสภา
"พท.-ประชาชาติ" เสนอหาช่องสื่อสาร ปชช.รับรู้การทำงานฝ่ายค้านถ่วงดุลตรวจสอบรัฐบาล ทำงานร่วมภาค ปชช.ตรวจสอบใน-นอกสภา หัวใจสำคัญแก้ รธน.ตัวอุปสรรคปัญหา ขณะที่พรรคร่วมมั่นใจฝ่ายค้านแกร่งทึ่สุด
17 มิ.ย.62 - ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เมื่อเวลา 13.30 น. พรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคอนาคตใหม่ (อ.น.ค.) พรรคประชาชาติ (ปช.) พรรคเสรีรวมไทย (สร.) พรรคเพื่อชาติ (พช.) พรรคเศรษฐกิจใหม่ (ศม.) พรรคพลังปวงชนไทย ร่วมประชุมเพื่อหารือแนวทางการทำงานในฐานะ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ภายหลังจากเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา 7 พรรคร่วมได้ประชุมกันครั้งแรก พร้อมแถลงจะจับมือกันร่วมทำวิปฝ่ายค้าน 30 คน โดยกำหนดประชุม 7 พรรคร่วมครั้งที่ 2 ในวันนี้
โดยการประชุม 7 พรรคร่วมครั้งนี้ พรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าภาพและมี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ซึ่งช่วงเริ่มประชุม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวเสนอว่า อยากให้มีศูนย์ประสานงานของพรรคการเมืองสื่อสารให้ประชาชนรับทราบและเข้าใจเรื่องการทำงานของพรรคการเมืองเพราะแต่พรรคก็มีบุคลากรมีคุณภาพและได้ทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์ก็น่าจะสื่อสารกับประชาชนได้
ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันความจำเป็นที่จะให้คนในสังคมทั้งหมดได้รับรู้เรื่องราวที่เราได้ทำหน้าที่และทำงาน ในฐานะฝ่ายค้านในสภา เราจะทำหน้าที่ให้มีคุณภาพอย่างดีที่สุดทั้งการตรวจสอบ ถ่วงดุลต่างๆ และการทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของพี่น้องในสภาอย่างเต็มที่ นอกจากนั้นในฐานะฝ่ายค้านควรจะประสานร่วมมือกันอย่างมีทิศทางและมีประสิทธิภาพ เพื่อสามารถนำเรื่องราวที่เราได้ทำงานอย่างมีเหตุมีผลและอย่างมีประสิทธิภาพสื่อสารให้พี่น้องข้างนอกรับรู้เพิ่มขึ้น จะทำให้การทำงานตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลไม่ใช่เฉพาะหน้าที่นักการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการทำงานร่วมกับผู้นำประชาชน และประชาชน เรื่องสำคัญที่สุดอีกประการที่เป็นหัวใจของการร่วมมือ 7 พรรคร่วมที่ผ่านมาคือ จะต้องแก้ไขกฎ กติกาที่จะเป็นอุปสรรคทำให้ปัญหาการเมืองทุกวันนี้บั่นทอนประสิทธิภาพของสถาบันทางการเมืองและไร้ประสิทธิภาพที่จะแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน โดยจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาของประชาชน
นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ (พช.) กล่าวว่า ส่วนตัวก็คิดตรงกับเรื่องที่เสนอมา หาก 7 พรรคร่วมกันแม้มีความเห็นหรือแนวคิดไม่ตรงกัน แต่ถ้าเราได้มาพูดคุยทำงานร่วมกัน จูนกันได้ก็จะมีพลัง โดยที่ผ่านมาตนไม่เคยเห็นพรรคฝ่ายค้านมาร่วมแนวความคิดกันขนาดนี้ ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่าพรรคนั้นพรรคนี้จะถูกเจาะ สุดท้ายแล้วเราก็นิ่งและมาทำงานร่วมกันได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม 7 พรรคร่วมดังกล่าวเป็นการประชุมภายใน ซึ่งมีตัวแทนแต่ละพรรคร่วมประชุมพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ นายภูมิธรรม เลขาธิการพรรค พท. กล่าวในที่ประชุมว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังไม่จำเป็นต้องรีบลาออกเพื่อเปิดทางให้มีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพราะขั้นตอนการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ จะเกิดขึ้นหลังจากที่มีการโปรดเกล้าฯคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว คาดว่าจะเริ่มมีความชัดเจนในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิ.ย.นี้ โดยพรรคเพื่อไทยได้ร่างระเบียบพรรค กำหนดให้มีกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด 29 คน และเตรียมจะให้แกนนำของพรรคซึ่งไม่ได้เป็น ส.ส. ดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ ประธานพรรค ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ประธานที่ปรึกษาพรรค ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และผลักดันคนรุ่นใหม่ให้มาเป็นกรรมการบริหารพรรคมากขึ้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง