ข่าว

"พลังปวงชนไทย" จี้ กกต. ถอดถอน "นิคม" พ้น ส.ส.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อดีตผู้สมัคร ส.ส. "พลังปวงชนไทย" ร้องยุบพรรคตัวเอง แฉ "นิคม" เบี้ยวเงินหาเสียง ส่งผู้สมัครสังกัดพรรคไม่ครบ 90 วัน ซ้ำมีหุ้นสื่อ

 

               สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 31 พ.ค. 62  อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังปวงชนไทย ประกอบด้วย นายสุทัศน์ สัตย์แสง นายสุบัน สุวรรณรัตน์ พ.ต.ท.หญิง ศิวนาถ พวงแก้ว และนายชัยพร ชัยฤทธิ์ ในฐานะเป็นตัวแทนอดีตผู้สมัคร 269 คน ยื่น กกต. ขอให้ยุบพรรคพลังปวงชนไทย และเพิกถอนการเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อของ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรค หลังหลอกลวงและจูงใจให้ลงสมัคร ส.ส. และสมาชิกพรรค โดยสัญญาจะให้เงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการกาเสียงเขตละ 2 ล้านบาท หากมีเสียงตอบรับดีจะได้รับเงินเพิ่มอีก จึงทำให้ผู้สมัครเร่งหาสมาชิกพรรคและจัดตั้งสาขาพรรค โดยสำรองค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งหมด แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับเงิน อีกทั้งยังถูกขับออกจากพรรค ถูกฟ้องคดีหมิ่นประมาท ดังนั้น เห็นว่านายนิคมไม่เหมาะสมที่จะเป็น ส.ส. ในฐานะตัวแทนของประชาชน เพราะเริ่มต้นก็มีพฤติกรรมบิดเบี้ยว ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งมั่นใจในหลักฐานที่ยื่นต่อ กกต. ว่าจะนำไปสู่การยุบพรรคได้

 

 

 

               น.ส.จีรนันท์ จันทวงษ์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 5 เชียงราย เปิดเผยว่า นอกจากตนเป็นเป็นผู้สมัครแล้ว ยังเป็นผู้จัดหาสมาชิกพรรคมาลงสมัครด้วย เนื่องจากเชื่อถือว่าชื่อ พล.อ.ชัยสิทธ์ ชินวัตร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค โดยเชื่อใจเพราะรักตระกูลชินวัตร แต่กลับถูกบางฝ่ายนำมาหลอกให้ประชาชนได้รับความเสียหาย พร้อมกันนี้ยังเปิดเผยกรรมการบริหารพรรคบางคนเรียกรับเงินค่าหัวคิวจาก นายชุติเดช นฤมิตสุวิมล จำนวน 50,000 บาท เพื่อแลกกับสิทธิ์กับการเป็นผู้สมัคร แต่นายชุติเดชมีปัญหาสุขภาพไม่สามารถลงสมัครได้ ก็ไปขอเงินคืน แต่กลับถูกปฎิเสธ จึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน

               นายสุบัน สุวรรณรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส. พื้นที่ภาคใต้ เปิดเผยว่า ตนเองมีหน้าที่จัดหาสมาชิกพรรคมาเป็นผู้สมัคร โดยบางคนสังกัดพรรคไม่ครบ 90 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.ป.ส.ส.

               นายสุทัศน์ สัตย์แสง ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า นายนิยมอ้างว่ามีบริษัทที่จะสนับสนุนทางการเงินพรรค 4,000 แห่ง สามารถของบสนับสนุนได้บริษัทละ 1 ล้านบาท เพื่อเป็นงบหาเสียง พร้อมอ้างว่าสนิทสนมกับ นายทักษิณ ชินวัตร นอกจากนี้ นายนิคมยังอาจเข้าข่ายมีความผิดเช่นเดียวกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เนื่องจากจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ขึ้นภายในสำนักงานใหญ่ของพรรค และบริษัทมีนายนิคมเป็นประธาน และมีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการด้านสื่อสารมวลชน จึงขอให้ กกต. ตรวจสอบว่านายนิคม เข้าข่ายเป็นเจ้าของสื่อหรือผู้ถือหุ้นสื่อหรือไม่

 

 

 

               พ.ต.ท.หญิง ศิวนาถ พวงแก้ว ระบุว่า ส่วนตัวเป็นผู้ออกค้าจ่ายในการดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรค หาสมาชิกพรรค และค่าใช้จ่ายหาเสียง เมื่อไปทวงถาม กลับถูกขับออกจากพรรค เพราะอ้างว่าทำให้พรรคเสียหาย นายนิคมมีวุฒิภาวะไม่เพียงพอจะเป็นหัวหน้าพรรค และไม่มีความเหมาะสมจะเป็น ส.ส. แค่ปัญหาสมาชิกพรรคก็ดูแลไม่ได้ จะไปบริหารประเทศและดูแลประชาชนได้อย่างไร บุคคลเหล่านี้หาสมาชิกพรรคให้ แต่ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือ แต่คะแนนเขตทั้งหมดไปรวมให้นายนิคมได้เป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ เพียงหนึ่งเดียว

 

 

 

"พลังปวงชนไทย" จี้ กกต. ถอดถอน "นิคม" พ้น ส.ส.

 

 

 

"พลังปวงชนไทย" จี้ กกต. ถอดถอน "นิคม" พ้น ส.ส.

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ