ข่าว

ปชป.วงแตก เลื่อนลงมติร่วมรัฐบาล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปชป.​วงแตก เลื่อนถกมติร่วม-ไม่ร่วม รบ. พปชร. อ้าง "อุตตม" ไม่ตอบกลับข้อหารือ

 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการนัดประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กับ ส.ส. ของพรรค ในเวลา 17.30 น. เพื่อหามติว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ว่า ไร้ข้อยุติ เนื่องจาก น.ต.สุธรรม ระหงษ์ ผู้อำนวยการพรรค ได้แจ้งกับ ส.ส. ที่รอการประชุมว่าขอเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากไม่ได้รับการตอบกลับจากแกนนำพรรคพลังประชารัฐ

 

     จากนั้นเวลา 18.45 น. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค แถลงยืนยันต่อการเลื่อนการประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารพรรคและส.ส. ออกไปโดยยังไม่มีกำหนดจะนัดประชุมอีกครั้งเมื่อใด หลังจากที่แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ไม่ตอบกลับการหารือต่อข้อเสนอและแนวทางการทำงานร่วมกัน ตามที่นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หารือกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม และระบุว่าจะให้ตอบกลับข้อมูลมายังพรรค ก่อนเวลา 17.00 น.ของวันที่ 28 พฤษภาคม

      "ประเด็นนี้เป็นปัญหาของพรรคพลังประชารัฐที่ต้องแก้ไข ไม่ใช่เป็นประเด็นของพรรคประชาธิปัตย์ตามที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าร้องขอกระทรวงหรือตำแหน่งที่พรรคพลังประชารัฐไม่สามารถให้ได้ อย่างไรก็ตามที่มีข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐไม่ยอมให้เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทาวงเกษตรและสหกรณ์กับพรรคประชาธิปัตย์จึงส่งผลไม่ส่งคำตอบตามเวลานัดนั้น ตนไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าผลการเจรจาเข้าร่วมรัฐบาลนั้นไม่มีประเด็นเรื่องข้อตกลงของเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงใด ทั้งนี้หากพรรคพลังประชารัฐตอบกลับข้อมูลผลหารือมายังพรรค กรรมการบริหารพรรคพร้อมเรียกประชุมส.ส.หารือเพื่อมีมติทันที ทั้งนี้พรรคขอให้ผู้บริหารและส.ส.เตรียมความพร้อมที่กรุงเทพแล้ว" นายราเมศ กล่าว

      ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีการเจรจาซึ่งไร้ข้อตกลงพรรคประชาธิปัตย์จะยอมลดโควต้ากระทรวงเพื่อให้เกิดการประนีประนอมหรือไม่ นายราเมศ กล่าวย้ำว่า พรรคยืนยันต่อนโยบายที่ต้องนำไปสู่ภาคปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จะยึดหลักการทำงานเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตามพรรคประชาธิปัตย์ยินดีที่จะพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่นที่มีอุดมการณ์เดียวกันและสามารถนำนโยบายของพรรคทีไ่ด้หาเสียงไว้กับประชาชนไปปฏิบัติ อย่างไรก็ตามตนตอบแทนที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและส.ส. ไม่ได้ว่า พร้อมจะพูดคุยหรือร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยหลังจากนี้หรือไม่

     เมื่อถามว่าปัญหาที่ตกลงร่วมรัฐบาลไม่ได้ กังวลว่าจะเป็นเหตุให้ล้มกระดานเลือกตั้งหรือไม่ นายราเมศ กล่าวว่า ตนเชื่อว่ากระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรอง ส.ส. ทั้ง 500 คนแล้ว กระบวนการต้องเดินหน้าตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ขณะเดียวกันกระบวนการทางฝ่ายนิติบัญญัติว่าด้วยการเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ได้เสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้นกระบวนการทางการเมืองต้องเดินหน้าไปตามรัฐธรรมนูญกำหนด

    เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)​ยังมีอำนาจ และใช้อำนาจได้เหนือกว่าฝ่ายนิติบัญญัติ นายราเมศ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าแม้ คสช. จะมีอำนาจ และสามารถใช้มาตรา 44 ต้องยึดหลักความถูกต้อง และไม่ควรคิดหรือนำปัญหาที่ว่าด้วยการรวมเสียงข้างมาก เป็นประเด็นที่นำไปสู่การล้มเลือกตั้ง หรือยุบสภา หากจะทำต้องมีคำตอบให้ประชาชน

       ถามย้ำว่า หากพล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ฐานะแคนนิเดตนายกฯ​ของพรรคพลังประชารัฐ ออกจากสมการทางการเมือง จะทำให้การรวมเสียงราบรื่นหรือไม่ นายราเมศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นบุคคลทางการเมืองที่ถูกพูดถีงบ่อยทั้งส่วนที่ดี และส่วนที่เป็นอุปสรรค อย่างไรก็ตามพรรคยังไม่ได้หารือต่อประเด็นดังกล่าว รวมถึงกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการโหวตนายกฯ

      ถามต่อว่า หากพรรคประชาธิปัตย์เสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นนายกฯ จะทำให้สถานการณ์การเมืองคลี่คลายหรือไม่ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ถือเป็นบุคคลที่พรรคสนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ แต่ประเด็นดังกล่าวพรรคยังไม่ได้หารือ อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าการเจรจาร่วมรัฐบาลจะมีข้อยุติก่อนการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติเลือกนายกฯแน่นอน. 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ