"อุตตม"."ยกขันหมาก สู่ขอ "ปชป.-ภท." เข้าร่วม "รบ." พรุ่งนี้

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรุ่งนี้ ( 27 พ.ค.) เวลา 11.00 น. นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพปชร. จะนำคณะผู้บริหารพรรค ไปเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้น เวลา 15.00 น. จะเดินทางไปเทียบเชิญพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย   

    ทั้งนี้ก่อนหน้านี้นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพรรคภายหลังการโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาฯ ว่า ตามกำหนดการเดิมมีการนัดประชุมส.ส. ในวันที่ 27 พ.ค. แต่ได้มีการยกเลิกไปแล้ว ส่วนการเทียบเชิญพรรคการเมืองต่างๆ ให้มาร่วมรัฐบาลนั้น ทางพรรคมีมติให้นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งตนจะไปเข้าพบและหารือกับทั้ง 2 คน เพื่อหารือในรายละเอียดก่อนกำหนดวันที่ชัดเจน 
      เมื่อถามว่า ผลการโหวตเลือกนายสุชาติ ตันเจริญ ว่าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 จากพรรคพปชร. ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าคู่แข่งได้เสียงสนับสนุนจากคนของพรรค พปชร.ไป นั้น นายณัฎฐพล กล่าวว่า ผลคะแนนถือว่าสูสี ส่วนคะแนนจะมาจากไหนเราไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นการลงคะแนนลับ อย่างไรก็ตาม มีหลายประเด็นที่เราต้องวิเคราะห์กันต่อว่าคะแนนที่หายไปเป็นเพราะอะไร แต่ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องกังวล เพราะเราสามารถแสดงให้เห็นว่าลงคะแนนได้ไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นห่วง เพียงแต่ต้องระมัดระวังมากขึ้น ต้องเพิ่มความเข้มข้นการลงคะแนน หากเรามีวินัยในการทำงานร่วมกัน  แม้ส.ส.จะมีเอกสิทธิ สามารถโหวตสวนมติพรรคได้ก็ตาม แต่เราก็เชื่อว่า จะมีเสถียรภาพ เพียงพอในการเดินหน้าในสภาไปได้ 
      นายณัฎฐพล กล่าวต่อว่า  ในส่วนการโหวตเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 2 จากพรรคภูมิใจไทย นั้นพรรคที่ประสงค์จะร่วมรัฐบาลได้รวมพลังกัน และตั้งใจให้ผลคะแนนออกมาอย่างชัดเจน ว่าพรรคที่จะร่วมรัฐบาลกันมีเสถียรภาพ มีความมั่นคง และคะแนนเสียงที่พอเพียง ในการเดินหน้าในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ยืนยันว่าในอนาคตผลคะแนนเหล่านี้จะไม่มีผลในเรื่องของเสถียรภาพรัฐบาล 

“พปชร.” เคลียร์ “พรรคร่วม” เกลี่ยเก้าอี้ “กระทรวง” ต่อเนื่อง จ่อ นำ “โผครม.” ชง “บิ๊กตู่” เคาะคนเหมาะสม หึ่ง ดึงคนนอก เป็นงานร่วม

      ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังมีการเจรจาพูดคุยกับพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาลต่อเนื่อง แม้จะตกลงกันในเบื้องต้นบ้างแล้ว แต่ยังมีความพยายามที่จะต่อรองในบางกระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มองว่าควรจะเป็นโควต้าของคนในพรรคพปชร. ที่หวังขับเคลื่อนนโยบายด้านเกษตรฯ ของพรรค และต้องการขอคืนจากพรรคประชาธิปัตย์ จึงต้องมาพูดคุยหลังจบการเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง และหลังจากโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะนำข้อเสนอของแต่ละพรรคมาจัดทำเป็นผังรายชื่อเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พิจารณาร่วมกับแกนนำพรรคร่วม เพื่อให้ได้บุคคลที่เหมาะสมมาเป็นรัฐมนตรี ขณะเดียวกันในบางกระทรวงที่ต้องใช้ความสามารถและความชำนาญเฉพาะด้าน อาจมีการพิจารณาบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมด้วยซึ่งมีจำนวนไม่มาก โดยนายกฯจะเป็นผู้พิจารณาเอง