มติ กกต. เชือดผู้สมัครประชาชาติ 6 คน เหตุเป็นสมาชิกซ้ำซ้อน 2 พรรค มีลักษณะต้องห้ามลงสมัคร สั่งไม่ให้นำคะแนนคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ยังต้องลุ้นอาจโดนใบส้ม
สำนักงานคณะกรรมกการการเลือกตั้ง (กกต.) -1 พ.ค.62 เวลา 17.30 น. นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. แถลงผลการประชุมคณะกรรมกสน กกต. ว่า ที่ประชุมมีมติสั่งไม่ให้ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ของพรรคประชาชาติ จำนวน 6 คน เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นสมาชิกพรรคการเมืองซ้ำซ้อน จึงขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และมิให้นำคะแนนที่ผู้สมัครได้รับ ไปคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตาม ม.128 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
ทั้งนี้ผู้สมัครทั้ง 6 รายดังกล่าว เคยถูกผอ.กกต.เขตตรวจสอบเบื้องต้นแล้วไม่พบว่าขาดคุณสมบัติ แต่ผอ.กกต.เขต เพิ่งมาตรวจสอบพบหลังการเลือกตั้งผ่านไปแล้วจึงรีบแจ้งมายังสำนักงานกกต. อย่างไรก็ตาม ในชั้นนี้ยังไม่พิจารณาเรื่องใบส้ม เพราะต้องดูที่ข้อเท็จจริง หากตรวจสอบแล้วพบว่ารู้ทั้งรู้ว่าเป็นสมาชิกซ้ำซ้อนก็จะเข้าข่าย ม.53 วรรค 3 และ ม.138 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ต้องส่งเรื่องไปศาลฎีกาฯ
รองเลขาธิการ กกต. กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่ถูกตัดสิทธิสมัคร ประกอบด้วย นางทัศนีย์ ชลายนเดชะ พรรคประชาชาติ หมายเลข 11 เขตเลือกตั้งที่ 15 กรุงเทพมหานคร, นายวิโรจน์ วัฒนากลาง พรรคประชาชาติ หมายเลข 5 เขตเลือกตั้งที่ 6 จ.นครราชสีมา, นายอิทธิศักดิ์ ปาทาน พรรคประชาชาติ หมายเลข 1 เขตเลือกตั้งที่ 5 จ.บุรีรัมย์, นายเกริกชัย พลชา พรรคประชาชาติ หมายเลข 23 เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.บึงกาฬ, นายประหยัด พิมพา พรรคประชาชาติ หมายเลข 14 เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.อุดรธานี และนายอฤเดช แพงอะมะ พรรคประชาชาติ หมายเลข 25 เขตเลือกตั้งที่ 3 จ.อุดรธานี
อย่างไรก็ตาม การตัดสิทธิสมัครดังกล่าวไม่มีผลต่อจำนวน ส.ส.ของพรรคประชาชาติ เพราะไม่ได้มีการตัดสิทธิว่าที่ ส.ส.เขตของพรรค จำนวน 6 คน ขณะที่ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์พรรคประชาชาติจะไม่ได้รับการจัดสรรอยู่แล้ว เนื่องจากได้ส.ส.เท่ากับจำนวนพึงได้แล้ว และการถูกตัดคะแนนดังกล่าวก็แทบจะไม่มีผลกับคะแนนรวมทั้งประเทศของพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่จะนำมาใช้ในการคำนวณจัดสรร ส.ส.ให้กับพรรคการเมือง โดยผู้สมัคร ทั้ง 6 คน มีคะแนนรวมกัน 3,520 คะแนน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง