ข่าว

"วีระกานต์" ปัดเกาเหลา "จตุพร"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทนายวิญญัติ มั่นใจคดีซักค้านพยานอัยการได้เต็มที่ "จตุพร" ลั่นนปช.ผ่านศึกรักษาแผลยาวนาน มีหลายคดีต้องสะสางคงขึ้นศาลจนวันตาย คาดไม่นานรู้คำตอบเลือกตั้งโมฆะหรือไม่

 

               วันที่ 26 เม.ย.62 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังเสร็จสิ้น การสืบพยานจำเลยนัดสุดท้าย คดีแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อการร้ายแล้วในเวลา 12.00 น. กลุ่มแกนนำและแนวร่วม นปช. ที่ตกเป็นจำเลยในคดี ได้เดินไปยังโรงอาหารเพื่อร่วมกันรับประทานอาหารกลางวันในช่วงบ่ายพร้อมกัน โดยนายจตุพรได้นั่งโต๊ะร่วมรับประทานอาหาร กับนายวีระกานต์ และกลุ่มแกนนำ นปช. ตามปกติ ซึ่งหลังรับประทานอาหารเสร็จสิ้น ก็ได้เดินมาร่วมกันถ่ายภาพหมู่หน้าศาลก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับ

 

 

               โดยระหว่างนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. ถึงกระแสข่าวว่ามีความขัดแย้งกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ซึ่ง นายวีระกานต์ ได้ปฏิเสธสั้นๆ เพียงว่าเป็นการ ยุแยงตะแคงรั่ว

               ด้าน นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.อีกคน ก็ได้ปฏิเสธกระแสข่าวความขัดแย้งเช่นกัน โดยยืนยันว่า นปช. ยังดำรงอยู่ เพียงแต่คงต้องจัดประชุมปรึกษาหารือกันว่าบทบาทของ นปช. จะดำเนินการอย่างไรกันต่อไป เรายังตั้งอยู่บนหลักการประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและสันติวิธี ตนเห็นว่าการยกระดับความตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนสำคัญที่สุด ถ้าความตื่นตัวของประชาชนสูงและเข้มข้นขึ้น โอกาสที่จะเกิดการรัฐประหารก้าวไปสู่เผด็จการจะน้อยลง ภารกิจยกระดับความตื่นตัวของประชาชนยังสำคัญที่สุด วันนี้ภาวะทางการเมืองยังสับสนมาก ไม่รู้ผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร จะเล่นงานพรรคอนาคตใหม่อย่างไร ขณะนี้ฝ่ายสืบทอดอำนาจก็พยายามที่จะทำให้พวกเขาจัดตั้งรัฐบาล ยังปั่นป่วนมากต้องดูอีกสักระยะ

               เมื่อถามถึงกรณี นายจตุพร ประธาน นปช. สมัครร่วมเป็นจิตอาสาพระราชพิธี นปช.แล้วจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่ นพ.เหวง กล่าวว่า เห็นด้วยอยู่แล้ว เรื่องจิตอาสาพระราชพิธีเป็นเรื่องสำคัญจำเป็นต่อประเทศชาติบ้านเมือง ยินดีสนับสนุนอยู่แล้ว

 

 

 

               ด้าน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายจตุพร และทีมทนายความ นปช. ให้สัมภาษณ์ถึงคดี นปช. ก่อการร้ายว่า ที่ผ่านมาทีมทนายความจำเลยได้ซักค้านพยานโจทก์อย่างเต็มที่ และให้ความร่วมมือในการพิจารณาคดีโดยตลอด ในคดีอาญานั้นศาลรับฟังพยานโจทก์เป็นสำคัญ ทนายจำเลยก็ไม่ละเลย ได้เสนอหลักฐานหักล้างโจทก์โดยตลอด โดยส่วนตัวเห็นว่าพยานโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้หนักแน่น เชื่อมั่นว่า นปช. ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลขณะนั้นยุบสภา เป็นไปภายในกรอบรัฐธรรมนูญ ส่วนการยื่นแถลงปิดคดีนั้น ได้หารือกันแล้วคงจะไม่ยื่นคำแถลงปิดคดีอีก

               ขณะที่ นายจตุพร ประธาน นปช. กล่าวถึงบทบาทและท่าทีของ นปช. ว่า นปช.เปรียบเหมือนพวกทหารผ่านศึก ที่ยังต้องรักษาแผลบาดเจ็บจากการกระทำ ในการต่อสู้มาอย่างยาวนานที่มีการบาดเจ็บล้มตายกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นภารกิจยึดแนวทางประชาธิปไตยก็ทำตามกรอบที่สามารถจะทำได้ เพราะมีภูมิต้านทานต่ำ ส่วนคนที่ไม่เคยมีเหตุในตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา ก็ยังสามารถทำอะไรได้มากมาย แต่พวกตนเองมีพื้นที่ที่จำกัด ดังนั้นในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง ก็เป็นช่วงที่อาศัยกฎหมายเลือกตั้งที่สามารถพูดในนามพรรคการเมือง แต่ในนามประชาชนนั้นต้องระมัดระวัง เพราะมีเงื่อนไขที่ไม่เท่ากับประชาชนทั่วไป ตนก็ถูกถอนประกันบ่อยมาก อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ก็คือทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทุกเรื่องได้แสดงความคิดเห็นไว้อย่างครบถ้วนอยู่แล้ว จึงไม่ใช่ว่าไม่ทำอะไร ในฐานะที่ตนมีบาดแผลที่ยับเยิน จึงเป็นเหตุที่ว่าบางเวลาทำได้ บางเวลาทำไม่ได้ภายใต้เงื่อนไขที่จำกัด และมีอีกหลายคดีที่จะต้องสะสาง ซึ่งตนเองคงจะขึ้นศาลไปจนถึงวันตาย

               โดย นายจตุพร ยังให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมือง กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตีความสูตรคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อด้วยว่า กกต. ไม่ควรยื่นศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้น ผู้ดูแลการเลือกตั้งควรรู้กติกาเป็นอย่างดี ควรมีความชัดเจนก่อนทำหน้าที่เป็นกรรมการ ไม่ใช่ปล่อยให้มีการเลือกตั้งแล้วจะไม่รู้กติกา และสุดท้ายมาสงสัยในกติกา จึงเห็นด้วยตามศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่รับคำร้องของ กกต. เนื่องจากศาลยึดหลักอยู่แล้วว่า หากไม่มีเหตุก็จะไม่มีการวินิจฉัย แต่หากมีปัญหาเกิดขึ้นเมื่อใด จึงสมควรที่จะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ แต่การยื่นคำร้องในครั้งนี้ยังไม่มีปัญหาใดๆ เลย เป็นเพียงความเชื่อของ กกต. เท่านั้น

               ส่วนกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยคำร้องของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งครังนี้เป็นโมฆะ นายจตุพร กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าติดตาม เพราะประเด็นการเลือกตั้งเป็นโมฆะในประเทศไทยไม่เคยเกิดจากเรื่องใหญ่ เช่นปี 2549 เป็นเพียงการหันหลังให้กับหน่วยเลือกตั้ง ต่อมาปี 2557 เป็นเรื่องของ กกต. ที่มีความเชื่อว่าสามารถจัดการเลือกตั้งได้ตามกรอบเวลา แต่ กปปส. กลับบอกว่าต้องจัดการเลือกตั้งภายในวันเดียว และในขณะนั้นศาลรัฐธรรมนูญก็เชื่อ กปปส. การเลือกตั้งจึงเป็นโมฆะ ดังนั้น ประเด็นนี้น่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้ แต่ประเทศไทยทุกเหตุการณ์ห้ามกระพริบตาแม้แต่วินาทีเดียว

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ