ข่าว

"อลงกรณ์"เผย ปชป.เตรียมตั้งคณะทำงานหยั่งเสียงเลือก หน.พรรค

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 "อลงกรณ์" เผย ปชป. เตรียมตั้งคณะทำงานหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค บอก กก.บห.ชุดใหม่ เคาะร่วม-ไม่ร่วมรบ. วอนให้ใช้ระบบรัฐสภาแก้ปัญหา

        18 เมษายน 2562  นายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวก่อนเข้าร่วมประชุม ถึงกรณีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในวันนี้ว่า มีอยู่ 3 วาระในการหารือ คือ 1. เรื่องการจัดประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี ในวันที่ 24 เมษายนที่จะถึงนี้เพื่อรับรองงบดุลรายงานผลการดำเนินการปี 2561 2. เรื่องการเตรียมการเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค และ 3. เรื่องข้อเสนอการปฏิรูปพรรคบางส่วน เช่น การจัดตั้งสำนักงานวิจัยและพัฒนานโยบาย ฯ 


 

          เมื่อถามถึงวิธีการ และแนวทางในการคัดเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการหารือในเรื่องนี้ แต่ว่ามีแนวโน้มที่จะมีการเสนอให้ตั้งคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคขึ้นมาหนึ่งคณะ เพื่อดูแลรับผิดชอบเรื่องของการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค โดยมีข้อบังคับกำหนดไว้ชัดเจนว่า จะต้องคำนึงถึงการหยั่งเสียง หมายความว่า จะต้องมีระบบ primary เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่อาจจะใช้วิธีการที่แตกต่างจากคราวที่แล้ว เนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลา และสถานการณ์บ้านเมือง ก็เป็นหน้าที่ที่กรรมการบริหารจะต้องพิจารณาว่า จะให้มีคณะกรรมการขึ้นมาดูแลเหมือนกับ กกต. ครั้งที่แล้วหรือไม่ ถ้าหากว่ามี ก็เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะต้องจัดการเลือกตั้ง เหมือนคราวที่แล้วที่มีการกำหนดวันรับสมัคร คุณสมบัติอะไรต่างๆ และพยายามทำให้เป็นการเลือกตั้งที่เปิดกว้างที่สุด ให้เป็นพื้นฐานตัวอย่างของสถาบันทางการเมือง 

         นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า  ในการจัดตั้งคณะทำงานจัดการหยั่งเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์การหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค อาทิ ขั้นตอนการรับสมัครหัวหน้าพรรค การเปิดให้แสดงวิสัยทัศน์ และการให้สมาชิกพรรคหยั่งเสียงผ่านระบบอินเทอร์เน็ตนั้น จะต้องแล้วเสร็จก่อนวันที่ 9 พฤษภาคม โดยมั่นใจว่ากระบวนการหยั่งเสียงรวมถึงการให้ผู้สมัครหัวหน้าพรรคแสดงวิสัยทัศน์จะไม่ทำให้พรรคเกิดความแตกแยก แต่เป็นจุดแข็งในความเป็นสถาบันการเมืองที่พรรคได้เริ่มต้นเอาไว้และต้องเดินหน้าต่อ ซึ่งเชื่อว่าทุกฝ่ายยอมรับในกติกา

      เมื่อถามว่า ในวันนี้จะมีข้อสรุปเรื่องการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อจัดการเลือกตั้ง รวมถึงวิธีการและหลักเกณฑ์การเลือกหัวหน้าพรรคด้วยใช่หรือไม่ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า  ในเบื้องต้นตนขอตอบว่า ใช่ ในการพิจารณาว่าจะให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งหรือไม่ ส่วนกฎกติกาต้องให้ทางคณะกรรมการบริหารพรรคนัดประชุมและกำหนด แต่ว่ากรรมการบริหารก็คงจะให้แนวทาง ให้ความเห็นประกอบถ้าหากว่า จะมีการตั้งกรรมการชุดดังกล่าวขึ้น 

       "และเป็นไปได้อย่างมากว่า ในการประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะเกิดขึ้นภายในไม่เกิน 7 วัน หลังจากมีการรับรองผลในวันที่ 9 พ.ค.  ซึ่งข้อบังคับพรรคกำหนดให้การลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรค จะต้องคำนึงถึงผลการหยั่งเสียงด้วย ซึ่งตนจะไม่ลงสมัครหัวหน้าพรรคในครั้งนี้ เนื่องจากครั้งที่ผ่านมาได้คะแนนเสียงเพียง 2 พันกว่าคะแนนเท่านั้น โดยกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และ ส.ส.ที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว จะเป็นผู้ตัดสินใจทางการเมืองว่า จะร่วมรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้าน โดยในขณะนี้การให้ความเห็นไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด รวมถึงข้อเสนอเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ ล้วนเป็นความเห็นส่วนตัวทั้งสิ้น เพราะการตัดสินใจขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ กับ ส.ส. ซึ่งไม่ว่าจะมีมติออกมาเช่นไร ต้องเคารพมติพรรค จะมีงูเห่าไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หากมีงูเห่าเกิดขึ้น พรรคก็มีมาตรการในการจัดการตามข้อบังคับของพรรค" นายอลงกรณ์ กล่าว

         เมื่อถามถึงกรณีที่อาจมีข้ออ้างว่าการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นเอกสิทธิของ ส.ส.ที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญนั้น นายอลงกรณ์ กล่าวว่า จะอ้างรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ปฏิบัติตามมติพรรคไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้กว้างๆ เท่านั้น อีกทั้งการเป็น ส.ส.ต้องสังกัดพรรค ไม่ได้เป็น ส.ส.โดยอิสระ ดังนั้น จึงต้องปฏิบัติตามมติพรรคในเรื่องที่มีความสำคัญทางการเมือง ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าการแก้ปัญหาการเมืองควรแก้ในระบบรัฐสภา และในขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นขั้วการเมืองใดก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้จำนวนเท่าไหร่ เนื่องจากยังไม่มีการรับรอง ส.ส. จึงอยากให้ทุกฝ่ายรอผลการเลือกตั้งก่อน และขอให้เคารพเสียงประชาชน หากเสียงไม่พอก็เป็นฝ่ายค้าน และหากเกิดปัญหาก็กลับไปให้ประชาชนตัดสินใจใหม่ อย่าใช้วิชามาร หรือวิธีพิสดารจนทำให้การเมืองต้องกลับไปสู่วังวนเดิมๆ อีก

        "นอกจากนี้ ตนยังไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ที่จะให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตั้งรัฐบาลโดยใช้เสียง ส.ว.มาร่วมพิจารณากฎหมายงบประมาณ ด้วยการอ้างถึงมาตรา 270 เพราะเป็นการคิดแผลงๆ ที่ไม่เป็นไปตามระบบรัฐสภา ซึ่งจะสร้างปัญหามากขึ้น"

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ