"สุวัจน์-ชพน."ลงพื้นที่เรือต่อราง หาเสียงพญาไท-ราชเทวี

                17 มีนาคม 2562  ที่โรงแรมปรินซ์ พาเลซ ย่านโบ๊เบ๊  เมื่อเวลา 09.30 น. "นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ" ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) พร้อมด้วยคณะผู้สมัคร ส.ส.กทม.  

 

 

 

                "นายณัฏฐปิยะ กุลจิรารวีนิภา" หมายเลข 6 เขตพญาไท  ราชเทวี จรุจักร ลงพื้นที่หาเสียงในชุมชนบ้านครัว (เหนือ) และชุมชน บ้านครัว (ตะวันตก) เขตราชเทวี ซึ่ประชากรที่พักอาศัยส่วนใหญ่เป็นมุสลิม ซึ่งการบงพื้นที่วันนี้ใช้ชื่อกิจกรรม "เรือ ต่อ ราง" เขต 6 ราชเทวี พญาไท จตุจักร 

 

                โดยการลงพื้นที่พบปะประชาชนในชุมชนได้ "นายสุวัจน์" ประธานที่ปรึกษาพรรค ชพน. พร้อมด้วย "นายณัฏฐปิยะ" ผู้สมัคร ส.ส.กทม. นำคณะขึ้น "เรือโดยสารสาธารณะคลองแสนแสบ" จากท่าโบ๊เบ๊ ไปยังลงยัง ท่าชุมชนบ้านครัวเหนือ

 

 

                การเดินทางลงพื้นที่กิจกรรมหาเสียงและรับฟังปัญหาจากประชาชนครั้งนี้ ก็มีกลุ่มนักกีฬาผู้พิการวีลแชร์บาสเกตบอล 4-5 คนที่นำโดย "นายภัทรพันธ์ุ หรือบี กฤษณา" นายกสมาคมกีฬาวีลแชร์บาสเกตบอล มาพบ "นายสุวัจน์" และคณะผู้สมัคร ส.ส.พรรค ชพน. เพิ่อร่วมสะท้อนปัญหาการคมนาคม ของผู้พิการด้วย นอกจากนี้ยังมีนักร้องผู้พิการทางสายตาเสียงดี ซึ่งเป็นที่รู้จักสังคมอย่าง "น้องเบิร์ด" นายพงษ์ศักดิ์ หมื่นไฉน ก็มาร่วมกินกรรมด้วย โดยระหว่างทางก็ได้ร้องเพลงประจำโรงเรียนอัสัมชัญที่นายสุวัจน์ เคยศึกษาให้ฟังด้วย

 

                ขณะที่ "นายภัทรพันธ์ุ หรือบี กฤษณา" นายกสมาคมกีฬาวีลแชร์บาสเกตบอล ได้เปิดเผยวันนี้ที่คณะเดินทางมาร่วมกิจกรรมกับนายสุวัจน์ และ พรรค ชพน.เพื่อจะสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความไม่สะดวก ความปลอดภัยในระบบคมนาคมการขนส่งในพื้นที่ กทม.เมืองหลวง ทั้งระบบโดยสารทางเรือ และรถไฟฟ้า BTS 

 

 

                ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เข้าไปพบปะประชาชนในชุมชนบ้านครัวเหนือ ซึ่ง "นางกานดา สุขสมบูรณ์ " ประธานชุมชนบ้านครัวเหนือ ให้การต้อนรับ นายสุวัจน์ได้แสดงความประสงค์ขอให้พาไปดูลานกีฬาด้วย โดยบริเวณชุมชนบ้านครัว จะมี "ลานกีฬาพัฒน์ 2 " ที่ตั้งอยู่ใต้ทางพิเศษศรีรัช บริเวณแยกอุรุพงษ์ ราชเทวี ซึ่งเป็นโครงการตามพระราชดำริในรัชกาลที่ 9 โดยประธานชุมชน ได้พาคณะพรรค ชพน.ไปยังอาคารเรือใบ และไปพบกับเด็ก-เยาวชน ที่มาเล่นกีฬาต่างๆ ในช่วงเช้า ทั้งบาสเกตบอล , เทควันโด , มวย โดย "นายสุวัจน์" และนักกีฬาวีลแชร์บาสเกตบอล ได้ร่วมเล่น (ชู้ต)บาสฯ กับเด็ก-และเยาวชนด้วย 

 

                จากนั้น "นายสุวัจน์" และคณะผู้สมัคร ส.ส.ได้พากันเดินจากชุมชน มาขึ้นรถไฟฟ้า BTS สถานีราชเทวี ลงสถานีปลายทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อมาพบประชาชนย่านการค้าที่ Voictory Mall และกลุ่มวัยรุ่นด้วย

 

 

                โดยระหว่างการลงพื้นที่หาเสียง "นายสุวัจน์" ระบุว่า วันนี้ได้ไปเยี่ยมพี่น้องประชาชน ชุมชนบ้านครัวโดยวันนี้ก็เดินทางมาพร้อมกับกลุ่มผู้พิการด้วย ก็มาดูเรื่องระบบขนส่งในพื้นที่ กทม. ซึ่งพรรคเองก็มีนโยบายที่จะการให้ระบบขนส่งมีความต่อเนื่อง ไร้รอยต่อแบบรถ-ราง-เรือ วันนี้ก็ได้มาดูระบบ ซึ่งพรรคเองก็มีนโยบายสร้าง Smart Mobility ให้กับคนเมืองหลวงที่จะใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้พิการได้เข้าถึงระบบคมนาคมมากขึ้น และก็ยังจะต้องมีการปรับปรุงในเรื่องของการออกแบบลักษณะของการเชื่อมต่อ โดยตัวอย่างเมื่อช่วงเช้าที่ได้พากลุ่มผู้พิการ ลงท่าเรือโดยสารสาธารณะ ก็ปรากฏว่ายังไม่มี Lamp ทางลาดขั้น-ลงสำหรับผู้พิการ

 

                นอกจากนี้ในส่วนที่คณะได้ไปเยี่ยมชมบริเวณลานกีฬาบริเวณใต้ทางด่วน ปัจจุบันนี้ก็มีวัยรุ่น-เยาวชน มาออกกำลังกายกันค่อนข้างเยอะ และได้รับเสียงสะท้อนว่า ลานการกีฬาคนค่อนข้างแน่นหากสร้างลานกีฬาเพิ่มก็จะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับสุขภาพและการแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วย 

 

 

                โดยในเรื่องของการสร้างลานกีฬานั้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพรรคชาติพัฒนาอยู่แล้วด้วย ในโครงการสร้าง Mini Sport Complex Mini Fitness และการเร่งแก้ไขปัญหายาเสพติดต่างๆ โดยสิ่งที่เราได้จากการลงพื้นที่เห็นวันนี้พรรคก็จะนำไปพิจารณาประกอบกับนโยบายของพรรคเพื่อขับเคลื่อนให้เป็นนโยบายแก้ไขปัญหาสำหรับพี่น้องประชาชนต่อไปหลังการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบตัั๋วร่วมระบบคมนาคม หรือการดูแลเรื่องการออกแบบอารยสถาปัตย์ให้ผู้พิการและผู้สูงอายุได้ใช้ด้วย และการสร้างสนามกีฬาให้ทั่วถึงเพื่อให้เยาวชนสามารถมีพื้นที่เล่นกีฬาได้มากขึ้น ก็จะเป็นการเสริมสร้าง Spirit อีกทางหนึ่งด้วยนอกจากสุขภาพร่างกายที่จะได้ความแข็งแรงแล้ว รวมทั้งการสร้างความสามัคคี ความรักความสุข และการแก้ปัญหายาเสพติดด้วย

 

                เมื่อถามถึงนโยบายที่จะทำให้เป็นรูปธรรมในการสร้างความสะดวกให้กับผู้พิการกับการเข้าถึงและใช้ระบบคมนาคม "นายสุวัจน์" ก็กล่าวว่า ที่เป็นกันตอนนี้ก็อาจเป็นเรื่องที่ยังเป็นลักษณะการเชิญชวนอาสาสมัคร แต่ตนคิดว่าต่อไปต้องสร้างให้เป็นมาตรฐานเลยที่จะกำหนดไว้ในกฎกระทรวง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบท่าเรือหรือการออกแบบตึกอะไรก็แล้วแต่ ก็จะต้องเริ่มต้นเพราะถึงเวลาแล้ว ซึ่งขณะนี้เราเป็นประเทศที่มีกลุ่มผู้สูงอายุ จำนวนมาก และมีจำนวนผู้พิการถึง 2 ล้านคน

 

 

                รวมทั้งยังมีกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้พิการในต่างประเทศที่ได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ดังนั้นก็จะต้องมีการปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ ที่จะกำหนดไว้ให้เป็นมาตรฐานในการออกแบบ มาตรฐานการควบคุม เหมือนเป็น minimum Standard ซึ่งหากเราทำได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีทำให้กลุ่มผู้สูงอายุ กบุ่มผู้พิการ และนักท่องเที่ยวรู้ว่าประเทศไทยมี minimum Standard มีมาตรฐานของการออกแบบ ห้องน้ำ , ลิฟท์ , ทางลาดขึ้น-ลง , ราวจับ เพื่อความสะดวก สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ  ซึ่งเรื่องราวนี้ก็จะรองรับลงทุนด้านการท่องเที่ยวได้ด้วย

 

                ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการลงพื้นที่ประเมินได้หรือไม่ว่าผู้สมัครของพรรคเราจะได้รับการสนับสนุนซึ่งวันนี้ก็มีผู้สมัครของพรรคอนาคตใหม่ได้มาลงพื้นที่เช่นเดียวกัน "นายสุวัจน์" กล่าวว่า ทุกคนก็ลงพื้นที่กันเยอะ ๆ เราคิดว่าเราได้รับความนิยม โดยเมื่อลงพื้นที่พี่น้องประชาชนก็ทักทายพวกเรา และก็บอกว่าชอบแนวนโยบาย Smart City กับชอบมากอีกเรื่อง ก็คือพรรคชาติพัฒนาของเราไม่มีปัญหาอะไรกับใคร เขาอยากเห็นการเมืองนิ่ง การเมืองเรียบร้อย เหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่เราได้ได้รับการตอบสนองจากประชาชน

 

 

                  ผู้สื่อข่าวถามว่าหากหลังการเลือกตั้งได้ร่วมในรัฐบาล ได้วางตัวบุคคลที่จะมาดูแลนโยบาย Smart City และนโยบายที่จะดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้พิการในด้านคมนาคม ไว้แล้วหรือไม่ อย่างไร "นายสุวัจน์" กล่าวพร้อมหัวเราะว่า ยังไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้น วันนี้คิดแค่การเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.นี้ ก่อน 

 

                  ต่อข้อถามที่ว่า ช่วงโค้งสุดท้ายนี้ พรรค ชพน.จะมีนโยบายใดออกมาเป็นหมัดเด็ด เพิ่มเติมอีกหรือไม่ "นายสุวัจน์ " ประธานที่ปรึกษาพรรค ชพน. กล่าวว่า เราก็จะตอกย้ำจุดยืนของเราว่าเราไม่สร้างปัญหาทางการเมือง ถ้าอยากส่งเสริมให้การเมืองนิ่ง มีเสถียรภาพ พรรคชาติพัฒนาคือคำตอบ และวันนี้ถ้าการเมืองนิ่งการเมืองมีเสถียรภาพตนก็คิดว่าเศรษฐกิจจะก้าวกระโดดก้าวไกล โดยตนเชื่อว่าหลังการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.นี้ บ้านเมืองเราจะอย่างไรก็น่าจะดีขึ้น พรรคการเมืองใดจะแพ้-ชนะไม่รู้ แต่ประเทศไทยชนะแน่เพราะมีการเลือกตั้งแล้ว ซึ่งการจัดเลือกตั้งถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ เศรษฐกิจต่างๆก็จะดีขึ้น

 

 

                   ส่วนมองอย่างไรที่การเลือกตั้งครั้งนี้มีคนคิดว่ารัฐบาล - สภาฯ จะอยู่ได้ไม่ครบวาระ 4 ปี "นายสุวัจน์" กล่าวว่า ไม่มีใครคาดการณ์ได้ โดยขึ้นอยู่กับการจัดรัฐบาล หากหลังการเลือกตั้งสามารถจัดรัฐบาลมีเสถียรภาพได้ มีเสียงในสภาเพียงพอ ก็น่าจะเป็นพื้นฐานที่ทำให้คุณมีโอกาสได้อยู่ครบเทอม โดยต่อไปก็จะเป็นของการ Performance เป็นเรื่องการทำงานของรัฐบาลแล้ว เรื่องเสถียรภาพต้องเป็นจุดเริ่มต้นซึ่งเสถียรภาพดีนั้นจากประสบการณ์ของตนที่ผ่านมา เห็นว่า ถ้าในสภา 500 ที่นั่ง ควรต้องมีเสียงในสภาอย่างน้อย 300 เสียงก็กำลังสวยมีเสถียรภาพ เมื่อมีเสถียรภาพต่างชาติก็จะมั่นใจเและชื่อมั่น โดยมีโอกาสจะอยู่ครบ 4 ปีและหากตลอดระยะเวลาถ้ารัฐบาลทำได้ดีอีก ไม่มีเรื่องเสียหาย เศรษฐกิจต่างๆดี ตนก็เชื่อว่าทุกคนอยากจะให้อยู่กันครบวาระ

 

                     อย่างไรก็ดี เมื่อถามถึงการวินิจฉัยคุณสมบัติ-สถานะ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ที่อีกเพียง 1 สัปดาห์จะถึงวันเลือกตั้งแล้ว กกต.ยังไม่ได้สรุปผล  "นายสุวัจน์" ก็ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยระบุเพียงว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ