"บิ๊กตู่" วอนอย่าล้มสิ่งที่ทำมา 5 ปี บอกคนเชียงรายให้ทนอีกนิด สัญญาจะสร้างอนาคตให้ ย้ำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อดูแลคนรุ่นใหม่
เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยวัยที่สาม นครเชียงราย ศูนย์กลางการเรียนรู้และจัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ตามแนวทางพลังประชารัฐ เพื่อติดตามการดำเนินการดูแลผู้สูงอายุของจังหวัดเชียงราย โดยมีประชาชนต้อนรับประมาณ 200 คน
ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวทักทายว่า สวัสดีนะ ขอกล่าวคำว่าสวัสดีเพื่อนๆทุกคน ดีใจที่ได้มาวันนี้ ขอบคุณในคำกล่าวของท่านประธานมหาวิทยาลัยสูงวัย วันนี้เราต้องให้ความรู้กับผู้สูงวัยเพื่อที่จะเป็นแนวทางในการจะแนะนำลูกในการเรียนหนังสือต่อไป เพราะถ้าเรียนตามใจชอบอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องตรวจดูเว็บไซต์ของกระทรวงแรงงานว่ามีงานสาขาใดบ้างที่เปิดรับ
นายกฯ กล่าวต่อว่า รัฐบาลนี้สร้างอนาคต สร้างโอกาส วันนี้มาดูเรื่องถนนหนทางคมนาคมจึงต้องเห็นใจจังหวัดเชียงรายเป็นพื้นที่ที่มีเขาเกิน 70% สร้างลำบาก ใช้งบประมาณสูง แต่มันก็ต้องทำอย่างต่อเนื่อง วันนี้จะเอารุ่นใหม่อย่างเดียวไม่ได้ ต้องเอาคนรุ่นปัจจุบันและอนาคตมาเชื่อมกันให้ได้ วันนี้ต้องดีกว่าอดีต
รัฐบาลนี้ทำมาหลายอย่าง ดังนั้นขอให้หาให้เจอว่ารัฐบาลทำอะไรไปบ้าง อยากจะได้มากขึ้นก็ต้องช่วยกันพัฒนาตัวเอง รัฐบาลอยากให้หมด แต่ถ้าให้ทั้งหมดคงไม่มีเงินเหลือไปทำอย่างอื่น ซึ่งต้องมีการลงทุนด้านสาธารณูปโภคอีก ซึ่งแต่ละจังหวัดจะต้องหาศักยภาพของตัวเองให้เจอทั้งเรื่องท่องเที่ยวและด้านอื่นๆ วันนี้รัฐบาลพยายามใช้เงินอย่างประหยัด เพราะเป็นเงินของคนทั้งประเทศ และตนไม่ใช่ไม่เสียภาษี ทหารก็เสียภาษีมาตลอดตั้งแต่เด็กยันโต เบี้ยวไม่ได้ หัก ณ ที่จ่าย อย่างไรก็ตาม อย่าแบ่งคนรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อต้องการดูแลคนรุ่นใหม่ สร้างอาชีพให้เขา ถ้าไม่มีพวกนี้ไปไม่ได้ทั้งหมด ตนจึงอยากฝากให้เรียนรู้ส่วนนี้ด้วย
นายกฯ กล่าวอีกว่า เราต้องมีแผนการใช้จ่ายงบประมาณ อย่าเหมือนที่ผ่านมาใช้โดยไม่วางแผน ส่วนสิ่งที่ตนทำมา 5 ปี อย่าให้มันล้มนะ สัญญาได้หรือไม่ ถ้าไม่สานต่อมันจะล้ม ตนก็มานั่งเสียใจอยู่ เสียดายโอกาสประเทศไทยมีเยอะขึ้น ต่างชาติสนใจการลงทุน วันหน้าก็จะขยายมากขึ้น
“พวกเราหัวใจนักสู้ อดทนมานานแล้ว ทนกับผมอีกนิดนึง ผมสัญญาจะทำอนาคตให้ท่าน ตอนนี้ผมยังมีเวลาอยู่” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 ในภาคเหนือมาจากการเผาป่า ทั้งในไทยและเมียนมา ในโอกาสที่จะได้เจอนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐสหภาพเมียนมา ระหว่างร่วมเปิดสะพานมิตรภาพไทยเมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย-ตองยิน แห่งที่ 2 ที่อ.แม่สอด จ.ตาก ตนจะบอกเขาให้ร่วมแก้ปัญหา เพราะการเผาป่าเพียงแค่ต้องการล่าหนูมันไม่คุ้ม
จากนั้น นายกฯได้เยี่ยมชมการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยวัยที่สาม โดยได้แนะนำให้ใช้โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการเปิดดูข้อมูลข่าวสารจากภาคราชการที่ขณะนี้แต่ละกระทรวงได้เปิดเว็บไซต์เพื่อประชาสัมพันธ์งานต่างๆ พร้อมกันนี้ นายกฯได้แนะนำให้สร้างอาชีพเสริม ก่อนร่วมถ่ายรูปกลุ่มชนเผ่าและได้สีซอ พร้อมกับบอกว่าอย่าดราม่านะ ทั้งนี้ นายกฯได้ทำท่าไอเลิฟยู ตบไปที่หัวใจแล้วเหวี่ยงให้ประชาชนตลอดทางที่เดินทักทาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง