"สุวัจน์" ปิ๊งไอเดียโคราช "อุทยานธรณีโลก"

               เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 62 ณ สนาม ที่ว่าการอำเภอชุมพวง จ.นครราชสีมา  พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงให้กับ นายนิรันดร ชัยศรี ผู้สมัคร ส.ส. เขต 7 เบอร์ 6 โดยคณะกรรมการบริหารพรรคมาร่วมให้กำลังใจอย่างคับคั่ง อาทิ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษา , นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค , พ.อ.วินัย สมพงษ์ ที่ปรึกษา และ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษา เป็นต้น

               นายสุวัจน์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนาอยากเสนอนโยบายใหม่ๆ คือ พร้อมสนับสนุนและผลักดันอุทยานธรณีโคราชให้เป็น "อุทยานธรณีโลก" บริเวณ อ.เฉลิมพระเกียรติ บริเวณลำน้ำชี และลำน้ำมูล ที่มีการขุดพบซากสัตว์ดึกดำบรรพ์ หรือต้นไม้แข็งเป็นหิน สิ่งต่างๆ เหล่านี้อายุนับล้านๆ ปี โดยจะผลักดันให้องค์การยูเนสโกรับรองบริเวณดังกล่าวเป็นอุทยานธรณีโลก ย่อมจะทำให้ต่างชาติเข้ามาเที่ยวโคราชจำนวนมาก ย่อมทำให้โคราชกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของอีสานอย่างแน่นอน

               นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 24 มี.ค. นี้ อยากให้พี่น้องประชาชนเลือกรัฐบาลดี ว่าที่นายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนเก่ง และ ส.ส. ที่ดีมีคุณภาพ เพื่อมาพัฒนาประเทศ เพราะวันนี้บ้านเมืองได้ก้าวข้ามความขัดแย้งมาแล้ว ไม่มีใครต้องการให้ประเทศไทยต้องกลับไปขัดแย้งทางการเมืองอีกเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อน เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ สิ่งที่ประชาชนอยากเห็น คือ เศรษฐกิจในภาคเกษตรต้องดีขึ้น โดยเฉพาะราคาพืชผลทางการเกษตร และการเมืองต้องนิ่ง เพราะ 10 กว่าปีที่ผ่านมา บ้านเมืองไม่สงบ คนไทยขัดแย้งกันเอง และนักการเมืองไม่บริหารบ้านเมืองในสภา แต่กลับออกมาเดินบนท้องถนน จนเป็นที่มาของการจัดนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 9 หน้า 9 ไกล ไร้ปัญหา และนโยบายการเมือง No Problem เพราะในยุค พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่มีความขัดแย้งทางการเมืองกับฝ่ายใด แม้แต่ม็อบเกษตรกร เพราะเศรษฐกิจยุค น้าชาติ ดีมากๆ จึงจะต่อยอดเป็นนโยบายน้าชาติ ภาค 2 ด้วยการแปรรูปสินค้าเกษตร โดยเฉพาะยางพาราต้องเกิดการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมและแปรรูปเป็นยางรถยนต์

               สำหรับภาคเกษตร ต้องมีระบบเทคโนโลยีมารองรับ เช่น ดาวเทียมพยากรณ์อากาศ การจัดพื้นที่ หรือการพัฒนาระบบชลประทาน และพันธุ์พืช ที่สำคัญที่สุดของนโยบาย จะสร้างหลักประกันคนไทยทั้งประเทศด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวกระจายตัวไปทุกส่วน ต่างจากรายได้จากภาคอุตสาหกรรมจะกระจุกตัวอยู่เฉพาะบางส่วนเท่านั้น ดังนั้น ต้องสนับสนุนและกระตุ้นการท่องเที่ยวตั้งแต่ระดับล่าง เช่น Street Food ตัดผม ขับรถ วินมอเตอร์ไซค์ สินค้าโอทอป แหล่งท่องเที่ยวชุมชน หรือหมู่บ้าน ถือเป็นความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและรายได้ของประชาชน