ข่าว

3 บก.ใหญ่เครือเนชั่น ทุบโต๊ะ เพื่อไทยอาจไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

3 บก.ใหญ่เกาะติด กรณียุบพรรคทษช. เมื่อกกต.ปลดล๊อคลุงตู่ แต่ลุงตู่ปฏิเสธที่จะขึ้นเวทีปราศรัย จะส่งผลลบหรือบวก จับตาเพื่อไทยอาจไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์

     เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 18.00 น. นายสมชาย มีเสน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Nation Group นายวีระศักดิ์ พงศ์อักษร บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนายบากบั่น บุญเลิศ บรรณาธิการอำนวยการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ได้จัดรายการ ผ่านทาง Facebook Live ที่แฟนเพจ"คมชัดลึก" วิเคราะห์ถึงกรณียุบพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เมื่อกกต.ปลดล๊อค"ลุงตู่"แต่"ลุงตู่"ปฏิเสธที่จะขึ้นเวทีปราศรัยจะส่งผลลบหรือบวก? และประเด็นที่เพื่อไทยอาจไม่ได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

      3 บก.ใหญ่ เครือเนชั่น ได้ทุบโต๊ะถกประเด็นแรกถึงการคาดการณ์จำนวนส.ส.ที่แต่ละพรรคจะได้ จากผลของ “เนชั่นวิเคราะห์” สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่จะมาถึง ที่เขตเลือกตั้งได้ลดลงเหลือ 350 เขต และจากการสำรวจในพื้นที่เลือกตั้งพบว่า  “พรรคเพื่อไทย” ยังมีชัยชนะเหนือคู่แข่ง กวาดที่นั่ง “ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง” ไปได้มากที่สุด 136 ที่นั่ง ลำดับที่สอง พรรคประชาธิปัตย์ 88 ที่นั่ง ลำดับสามพรรคพลังประชารัฐ 62 ที่นั่ง ลำดับสี่พรรคภูมิใจไทย 31 ที่นั่ง ลำดับที่ห้าพรรคชาติไทยพัฒนา 12 ,ไทยรักษาชาติ 7 ,ชาติพัฒนา 6 ,รวมพลังประชาชาติไทย 4, ประชาชาติ 2 , เพื่อชาติ 1 และรักษ์ผืนป่าประเทศไทย 1 ตามลำดับ ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลมาจากนักข่าวเนชั่นทั่วทุกพื้นที่ของไทย และที่ไม่มีพรรคอนาคตใหม่ เพราะคาดว่าพรรคอนาคตใหม่นั้นจะไม่ได้ส.ส.เขต แต่จะได้ส.ส.แบบบัญชีายชื่อมากถึง 5% หรือราว 25 ที่นั่งในสภา ทั้งนี้ต้องรอติดตามช่วงโค้งสุดท้ายด้วยว่า พรรคไทยรักษาชาติจะถูกยุบหรือไม่ เพราะ 7 ที่นั่งส.ส.พรรคทษช. จะกลายไปเป็นคะแนนของพรรคอื่นทันที 

3 บก.ใหญ่เครือเนชั่น ทุบโต๊ะ เพื่อไทยอาจไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์ 3 บก.ใหญ่เครือเนชั่น ทุบโต๊ะ เพื่อไทยอาจไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์       ซึ่งตัวแปรสำคัญที่จะทำให้เกิดการพลิกผันทางการเมือง มีอยู่ 3 ประการด้วยกัน คือ 1. วันที่ 7 มีนาคมนี้ พรรคไทยรักษาชาติจะถูกยุบหรือไม่ เพราะถ้ายุบจะมีผลต่อคะแนนของส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อที่ผันผวนไปจากเดิม 2. แคมเปญในช่วงโค้งสุดท้ายของแต่ละพรรค ที่เรียกได้ว่าเป็น “หมัดเด็ด” และ 3.ตัวของนายกฯที่ถูกแต่ละพรรคเสนอชื่อเข้ามา ว่าจะมีการเล่มเกมการเมืองอย่างไรก็เป็นตัวแปรที่สำคัญ

“เพื่อไทย” จะไม่ได้ ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ ?

      จากการคำนวณโดยอาศัยกลไกของรัฐธรรมนูญที่บอกว่าให้หารเป็นสัดส่วนผสม และวิเคาระห์ว่าจะต้องมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งราว 70%-80% ซึ่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีอยู่ทั้งหมด 51 ล้านเสียง หมายความว่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิจริงอยู่ที่ราวๆ 38 ล้านคน ที่ต้องนำมาหารกับ 500 เขต ก็จะได้เสียงอยู่ที่ 76,000 เสียง ที่แต่ละพรรคต้องทำคะแนนให้ได้เพราะจะเท่ากับจำนวนของส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ 1 คน

             และถ้าคำนวณจากผลของเนชั่นวิเคราะห์ พรรคเพื่อไทยที่ส่งส.ส.ลงไปแค่ 250 เขต จะต้องเอา 250 ไปหารกับคะแนนเสียงที่ได้จำนวน 10,200,000 เท่ากับว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องทำคะแนนให้ถึง 40,800 เสียงต่อเขตขึ้นไป ซึ่งสูงกว่าที่พรรคอื่นต้องทำค่อนข้างมาก ถึงแม้จะได้ส.ส.สูงถึง136เขตก็ตาม และเป็นไปได้ยากตามหลักความเป็นจริง 

              เมื่อเทียบกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่งส.ส.เขตลงครบทั้ง 350 เขต แล้วคาดว่าจะได้ ส.ส.เขต 88 คน พรรคประชาธิปัตย์จะต้องทำคะแนนต่อเขตอยู่ที่ 18,857 เสียงขึ้นไปเท่านั้น และพรรคพลังประชารัฐที่คาดว่าจะได้ส.ส. 62 เขตเลือกตั้ง ก็ส่งส.ส.ลงครบทุกเขตเช่นกัน ซึ่งคาดว่าพรรคจะได้คะแนนอยู่ที่ 4,650,000 เสียง จึงต้องทำคะแนนเฉลี่ยต่อเขตอยู่ที่ 13,285 เสียงขึ้นไปก็พอ ที่น้อยกว่าประชาธิปัตย์ เพราะต้องดูจากจำนวนส.ส.เขตที่คาดว่าจะได้ด้วย และถ้าแต่ละพรรคตั้งเป้าอยากได้ส.ส.เขต 150 คน ต้องทำคะแนนเสียงให้ได้ทั้งหมด 11,250,000 เสียง โดยเฉลี่ยต่อเขตต้องได้คะแนนอยู่ที่ 32,142 เสียงขึ้นไป เป็นต้น และจากการออกแบบของรัฐธรรมนูญที่มีอยู่ จึงได้ทำให้พรรคเพื่อไทยที่ส่งส.ส.ลงไม่ครบทุกเขต ลำบากมากที่จะได้ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมาเพิ่ม 

3 บก.ใหญ่เครือเนชั่น ทุบโต๊ะ เพื่อไทยอาจไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์

         เปิดรายชื่อ 10 อันดับ ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งจากการคาดการณ์ข้างต้น จะไม่มีใครได้เป็นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเลยสำหรับพรรคเพื่อไทย แม้แต่ 10 อันดับแรกของพรรคก็ไม่ได้ ซึ่งนี่อาจเป็นเหตุผลที่คุณชัชชาติ ไม่ลงส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพราะได้ทำการคณิตคิดเร็วไว้แล้ว จึงลงแค่บัญชีรายชื่อนายกฯของพรรคเพียงเท่านั้น เลยไม่ต้องกินแห้วยกปาร์ตี้ลิสต์ไปด้วย 

3 บก.ใหญ่เครือเนชั่น ทุบโต๊ะ เพื่อไทยอาจไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์ 3 บก.ใหญ่เครือเนชั่น ทุบโต๊ะ เพื่อไทยอาจไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่ง          หากเป็นจริงดังคาดการณ์ว่าเพื่อไทยจะได้ส.ส. 136 เขต และไม่ได้ส.ส.แบบปาร์ตี้ลิสต์หรือบัญชีรายชื่อเลย จะเป็นอย่างไร

       3 บก. ระบุว่า ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อก็ยังคงบริหารพรรค และเป็นที่ปรึกษาต่อไปได้ แต่ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวในสภาได้เท่านั้น หากจะเข้าสภาไปหาส.ส.พรรค ก็ต้องแลกบัตรเข้าไปไม่ต่างจากนักข่าว และจากตัวเลขที่ได้จากเนชั่นวิเคราะห์ พรรคพลังประชารัฐมีโอกาสที่จะได้ส.ส.ไม่ถึง 100 คนสูงมาก เพราะ ส.ส.เขตที่คาดว่าจะได้อยู่ที่ 62 คนเพียงเท่านั้น และหากจะไปหวังให้ได้ปาร์ตี้ลิสต์อีกสี่สิบกว่าคนก็คงยากด้วยเช่นกัน เพราะจากการคำนวณของนายสมชาย ที่ได้คำนวณดูด้วยตัวเองแล้ว พบว่า พลังประชารัฐจะได้ส.ส.ทั้งเขตรวมกับปาร์ตี้ลิสต์แล้วอยู่ที่ราวๆ 90 คน ทางพรรคจึงได้มีกลยุทธิ์มีแผนที่จะให้ “ลุงตู่” ไปช่วยปราศรัยหาเสียงเรียกคะแนนเกิดขึ้นมา เป็นการสร้างกระแสคววามนิยมที่อาจทำให้ตัวแปรต่างๆเปลี่ยนไปได้ แต่ “ลุงตู่” กลับล้มแผน ไม่ไปช่วยพลังประชารัฐหาเสียงปราศรัยเสียอย่างนั้น

3 บก.ใหญ่เครือเนชั่น ทุบโต๊ะ เพื่อไทยอาจไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์

ทำไม “ลุงตู่” ไม่ช่วย พลังประชารัฐ ปราศรัย

      อาจเป็นเพราะการถูกจับตามองจากหลายฝ่ายที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ ลุงตู่ ไม่ไปช่วยปราศรัย ซึ่งคนที่จับตาจ้องจับผิด “ลุงตู่” ก็มีอยู่หลายคน เช่น “ศรีสุวรรณ จรรยา” “เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” “จตุพร พรหมพันธุ์” “ธิดา ถาวรเศรษฐ” “วัฒนา เมืองสุข” และ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” อันเป็นบุคคลที่ได้ออกมาประกาศตนว่าจะจับผิด พล.อ.ประยุทธ์ และยังมีคนที่ไม่ได้ประกาศตนอีกมาก ซึ่งจะเป็นการสุ่มเสี่ยงเกินไปหากไปร่วมการปราศรัยดังกล่าว และจากกระแสที่จะให้ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ลาออกมาช่วยพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)หาเสียง จะช่วยให้กระแสของพปชร.ดีขึ้นได้หรือไม่

3 บก.ใหญ่เครือเนชั่น ทุบโต๊ะ เพื่อไทยอาจไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์

      3 บก. ระบุว่า เป็นไปไม่ได้ตั้งแต่จะให้ ดร.สมคิด ลาออกไปช่วยหาเสียงแล้ว เพราะว่าท่านไม่ได้เป็นผู้สมัคร เป็นคนนอกซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรค ไม่อาจไปช่วยหาเสียงได้อยู่แล้ว ซึ่งจากเหตุเหล่านี้พลังประชารัฐจึงมีโอกาสน้อยมากที่จะได้ส.ส.ถึง 100 คน แต่ทางพรรคก็ไม่ได้ยอมแพ้ เพราะได้ตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ได้ส.ส.เพิ่มขึ้นอีก จาก 62 เขตเป็น 80 เขต ภายใน 18 วัน และไปบวกเพิ่มกับปาร์ตี้ลิสต์อีก 30 คน ทำให้ได้ส.ส.โดยรวมถึง 110 ที่นั่ง

        และในวันที่ 7 มีนาคม ศาลรัฐธรรมนูญ ได้กำหนดการนัดหมาย อ่านคำวินิจฉัยตัดสินว่าจะยุบพรรคไทยรักษาชาติหรือไม่ ซึ่งต้องไปติดตามกันต่อไป โดยในเวลา 13.30 น. ศาลรัฐธรรมนูญจะเริ่มทำการประชุมเพื่อลงมติกันว่าจะยุบพรรคไทยรักษาชาติหรือไม่ และจะอ่านคำพิพากษากลางในเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ที่ห้องพิจาณาคดีชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ โดยศาลรัฐธรรมนูญมี 2 เรื่องที่จะวินิจฉัย คือ 1.ความผิดที่มีสมควรยุบพรรคตามที่กกต.ร้องมาหรือไม่ 2.ถ้ายุบแล้วจะตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรค ทั้ง 14 คนกี่ปี จะเป็น 5 ปี 10 ปี หรือว่าตลอดชีพ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะตัดสิทธิทางการเมืองกี่ปี เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนด ซึ่งหากให้วิเคราะห์ คาดว่าพรรคไทยรักษาชาติจะถูกยุบ และถูกตัดสิทธิทางการเมืองอย่างแน่นอน แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งถ้าหากพรรคไทยรักษาชาติโดนยุบจริงก็มีอีกหลายพรรคที่หวังจ้องจะฮุบคะแนนส.ส.ต่อ ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคอนาคตใหม่ และพรรคเพื่อชาติ

3 บก.ใหญ่เครือเนชั่น ทุบโต๊ะ เพื่อไทยอาจไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ