"ธนาธร - ปิยบุตร" จัด "ปิคนิค" พบคนกรุง

 

               วันที่ 23 ก.พ. 62 เวลา 16.30 น. ที่ ศาลาริมน้ำ สวนเบญจกิติ พรรคอนาคตใหม่ นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค จัดปิคนิคหัวข้อ "เพราะการเมืองเป็นเรื่องสนุกมาพบปะคนทำงานการเมืองที่กำลังจะเข้าไปเปลี่ยนประเทศ" พร้อมแถลงเปิดนโยบาย กทม. และนโยบายกัญชา รวม 5 ด้าน

 

 

 

               โดยภายในงานมีการเปิดรับ Futurista อาสาสมัครทีมอนาคตใหม่เข้าสังเกตการณ์วันเลือกตั้ง 24 มี.ค. 62 เพื่อป้องกันการทุจริตโดยไม่มีค่าตอบแทน และกลุ่มโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ ได้มาตั้งโต๊ะล่ารายชื่อ 1 หมื่นชื่อ ยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช. ที่เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพ 35 ฉบับ

               นายธนาธร กล่าวปราศัยตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยมีปัญหาเชิงโครงสร้าง 2 ด้าน ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ประชาชนระดับล่างของประเทศมีรายได้ต่ำลง และเศรษฐกิจเติบโต 3 - 4% อยู่ในกลุ่มทุนไม่กี่ตระกูล สิ่งที่ตนกังวล คือ การเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนจะนำมาซึ่งความขัดแย้ง ช่องว่างความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจนของประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ของโลก ภายใต้รัฐบาล คสช. ส่วนอีกปัญหา คือ ขีดความสามารถการแข่งขันประเทศไทยเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน

               นายปิยบุตร กล่าวว่า วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ซึ่งตรงกับการทำรัฐประหารของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ รสช. เมื่อปี 2534 โดยมี "บิ๊กจ๊อด" พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในขณะนั้นเข้าร่วม ตนเชื่อว่า การรัฐประหารนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอด หลังเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. 62 นี้ ก็อาจจะเกิดรัฐประหารอีกครั้ง ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่า ขณะนี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ บุตรชายของ พล.อ.สุนทร เป็นผู้บัญชาการทหารบก ก็ไม่รู้ว่าหนังม้วนเก่าจะย้อนกลับมาอีกหรือไม่

 

 

 

               นายปิยบุตร เชื่อว่า การรัฐประหารไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาของประเทศ แต่เป็นเครื่องมือเหนี่ยวรั้งไม่ให้ประชาธิปไตยเดินหน้าไปได้ ซึ่งถือเป็นวิธีคิดของกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่มองว่าคนไทยยังไม่พร้อมที่จะปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่ตนเชื่อว่าคนไทยทุกคนมีความพร้อมแล้วที่จะปกครองในระบอบประชาธิปไตย ยกเว้นแต่ชนชั้นนำกลุ่มอนุรักษ์นิยมเท่านั้นยังไม่พร้อม และจ้องจะยึดอำนาจ ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าการรัฐประหาร 2 ครั้งที่ผ่านมา คือ ปี 2549 และปี 2557 ไม่สามารถแก้ปัญหาประเทศได้

               นายปิยบุตร เรียกร้องว่า หากรู้สึกเบื่อหน่ายประชาธิปไตยแบบผู้แทนสภาราษฎร ขออย่าใช้วิธีทางลัดโดยการเรียกร้องอำนาจนอกระบบ แต่ควรเพิ่มพลังอำนาจของประชาชนเข้าไปแทนที่ นอกจากนี้อยากเรียกร้องให้คนรุ่นใหม่ออกไปประจันหน้ากับเผด็จการ ออกไปใช้สิทธิ์ในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ไปบอกให้เขารู้ว่าสังคมไม่ต้องการคนอายุ 70 ปี เข้ามาเขียนรัฐธรรมนูญ แผนปฏิรูปประเทศ หรือคัดเลือก ส.ว. อย่าส่งมอบสังคมลักษณะเช่นนี้ เราจะต้องเป็นผู้กำหนดสังคมเอง และการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม นี้ จะเป็นหมุดหมายแรกที่จะเปลี่ยนแปลงสังคม

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศกิจกรรมดังกล่าวมีประชาชนเดินทางร่วมกิจกรรมกันเป็นอย่างมาก โดยที่มีภรรยา บุตรชาย และบุตรสาวของนายธนาธรเดินทางมาร่วมกิจกรรมด้วย อย่างไรก็ตาม เวทียังได้เปิดโอกาสให้ประชาชนที่มาร่วมได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาของประเทศในด้านต่างๆ เช่น การแก้ปัญหาด้านคมนาคม โดยประเด็นที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ เรื่องของความหลากหลายทางเพศที่ต้องการให้มีการแต่งงานในเพศเดียวกัน การจดทะเบียนสมรส และมีสิทธิตามกฎหมาย

 

 

 

               รวมถึงประเด็นปฏิรูปกองทัพที่พรรคอนาคตใหม่มีนโยบายที่ชัดเจนในการเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ตัดงบกองทัพ 30 เปอร์เซ็นต์ ลดสัดส่วนกำลังพลให้ใกล้เคียงกับสหรัฐอเมริกา รวมถึงการเพิ่มงบวิจัยพัฒนากองทัพ โดยนำเงินมาจากการบริหารที่ดินของกองทัพและคลื่นวิทยุที่อยู่ภายใต้การกำกับกระทรวงกลาโหมมาใช้ นอกจากนี้ให้รัฐบาลพลเรือนมีอำนาจเหนือกองทัพโดยยกเลิกผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยให้เสนาธิการแต่ละเหล่าทัพให้คำเเนะนำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเชื่อว่าระยะใกล้นี้จะไม่มีการรัฐประหาร เพราะจะทำให้ประเทศล่มสลาย

               นอกจากนี้มีนโยบาย ปลดล็อกกัญชา นำกัญชามาแปรรูปทางการแพทย์แล้ว ในระยะกลาง จะต้องนำเงินที่ได้จากการเก็บภาษีกัญชามาสนับสนุนในเรื่องการศึกษา โดยเสนอให้มีปริญญาตรีหลักสูตรกัญชาศาสตร์ จะเป็นวิชาที่เรียนตั้งแต่การผลิต ควบคุมการทดลอง และให้ไทยเป็นศูนย์กลาง เคมิคอล ฮับ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยกำหนดส่งพื้นที่เหมือนคิวบา

               โดยการตอบคำถามนั้นทางพรรคจะให้ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ ที่รับผิดชอบในแต่ละด้านเป็นผู้ตอบคำถาม