ข่าว

เปิดข้อต่อสู้แก้คดียุบ"ไทยรักษาชาติ"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทนาย"ทษช."ยื่น 3 ประเด็นหลักแก้ข้อกล่าวหายุบพรรค ยันเสนอชื่อแคนดิเนตนายกฯด้วยความบริสุทธิ์ใจ มั่นใจไม่เป็น"ปฎิปักษ์"ยื่นบัญชีพยานบุคคล 19 ปาก

 

                  20 กุมภาาพันธ์ 2562 ที่ศาลรัฐธรรมนูญ  นายสุรชัย ชินชัย ทนายความพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ให้สัมภาษณ์หลังจากยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดียุบพรรคตามกำหนดเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญ 

 

                  ให้ยื่นคำชี้แจงภายใน 7 วันนับแต่วันได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ว่า ประเด็นหลักที่กำหนดยื่นแก้ข้อกล่าวหามี 3 ประเด็น ประเด็นแรก เรายืนยันเจตนาบริสุทธิ์ และไม่มีเจตนาพิเศษใด ๆ ที่มุ่งหวังให้เป็นอย่างอื่น โดยเราเชื่อว่าจะสามารถทำได้อย่างบริสุทธิ์ใจ อีกทั้งยังทำไปตามความประสงค์และความยินยอมจากผู้ได้รับการเสนอชื่อ ประเด็นที่ 2 ข้อกล่าวหาถึงการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในพจนานุกรมให้ความหมายของคำว่าปฏิปักษ์ ว่าเป็นศัตรู เป็นฝ่ายตรงข้าม น่าจะหมายถึงการนำระบอบคอมมิวนิสต์ มาใช้ปกครองในประเทศไทยหรือการเป็นกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113  ทั้งนี้คำร้องยุบพรรคทษช.ยังขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครของกรรมการบริหารพรรค เราก็ถือว่าคำร้องยุบพรรคเป็นคำร้องประเภทเดียวกับคดีอาญาการเพิกถอนสิทธิสมัครตลอดชีวิตไม่ต่างจากการประหารชีวิตในทางการเมือง


                  นายสุรชัย กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่ 3 ต่อสู้ว่าการที่ กกต.มีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่มีการสืบสวนสอบสวนก่อน โดยมติที่ส่งศาลจึงเป็นการข้ามขั้นตอน การเสนอคำร้องของกกต. จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้พรรคได้ยื่นบัญชีพยานบุคคล รวม 19 ปาก เป็นกรรมการบริหารพรรค 14 คน และพยานคนกลางซึ่งเป็นบุคคลภายนอก 5 ปาก  

 

เปิดข้อต่อสู้แก้คดียุบ"ไทยรักษาชาติ"


                  ต่อขอถามที่ว่าพยานที่เป็นบุคคลภายนอกเป็นบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯก่อนหน้านี้หรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า เป็นรายละเอียดที่นำเสนอต่อศาลไม่สามารถเปิดเผยได้ และเมื่อถามต่อว่ามองว่าการตัดสินคดีของศาลรัฐธรรมนูญควรเสร็จก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า ถ้ามีโอกาสควรให้ประชาชนได้ลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.ก่อน. ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อความยุติธรรมซึ่งตนเชื่อมั่นในความยุติธรรมที่ศาลจะเมตตาต่อเรา             

 

                  ทั้งนี้มีรายงานว่า พยานบุคคลภายนอก 5 ปากที่พรรคนำเสนอไม่มีรายชื่อของบุคคลที่พรรคเสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯ ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ในข้อต่อสู้ 3 ประเด็นหลักของพรรคยังได้แยกย่อยออกเป็น 8 ประเด็น  ดังนี้ 1. การดำเนินกิจการของพรรคไทยรักษาชาติ เป็นไปตามประกาศอุดมการณ์ นโยบายในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
 
 

เปิดข้อต่อสู้แก้คดียุบ"ไทยรักษาชาติ"

 

                 2. พรรคฯ ทำตามประสงค์และความยินยอมของทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ภายใต้รัฐธรรมนูญ กฎหมาย ประกาศพระบรมราชโองการ พ.ศ. 2515 และข้อบังคับพรรค ไม่มีกฎหมายใดบัญญัติเป็นข้อห้ามมิให้ ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในฐานะนายกรัฐมนตรี
 
 
                 3. พรรคฯ เข้าใจโดยสุจริตว่าการเสนอชื่อทูลกระหม่อมฯ ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นการกระทำตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 88, 89 และ พรป. เลือกตั้งส.ส. มาตรา 13 และ 14 ไม่ใช่เป็นการกระทำที่อาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  4. เมื่อมีพระราชโองการวันที่ 8 ก.พ.2562 เวลา 23.00 น. ภายหลังที่พรรคได้แจ้งรายชื่อบัญชีนายกฯ ไปแล้วพรรคฯจึงได้แถลงโดยทันทีในวันรุ่งขึ้น เพื่อน้อมรับพระราชโองการไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ด้วยความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ทุกพระองค์ เป็นการแสดงเจตนารมณ์โดยชัดเจนว่าพรรคฯไม่ติดใจในการเสนอชื่อนายกฯ
 

เปิดข้อต่อสู้แก้คดียุบ"ไทยรักษาชาติ"


 
                  5. การกระทำตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 88 และมาตรา 89 ประกอบมาตรา 87 และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 13 และ มาตรา 14 ให้ถือว่าการเสนอชื่อบุคคลใดที่มิได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายดังกล่าวให้ถือว่าไม่มีการเสนอชื่อบุคคลนั้น จึงไม่เป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามมาตรา 92 แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดให้ผู้ร้องกล่าวหาผู้ถูกร้องในทางใดๆ ต่อศาลได้

 
                 ข้อ 6. พรรคฯ เห็นว่าคำว่า "ปฏิปักษ์" ให้ความหมายว่า ฝ่ายตรงกันข้าม ข้าศึก ศัตรู แต่การกระทำของผู้ถูกร้อง ได้กระทำการเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเป็นความประสงค์ของทูลกระหม่อมฯ ที่อาสา และยินยอมให้ผู้ถูกร้องเสนอชื่อ มิใช่เป็นการแอบอ้างโดยพละการ

 

เปิดข้อต่อสู้แก้คดียุบ"ไทยรักษาชาติ"


                 ข้อ 7. กกต. ไม่มีอำนาจหน้าที่นำพระราชโองการมาขยายความกล่าวหาพรรคฯว่ากระทำผิดตามมาตรา 92 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560คำขอให้พิจารณาวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคนั้น เป็นการขยายความของพระราชโองการที่เป็นโทษ เป็นเรื่องที่มิบังควร และไม่ถูกต้องอย่างยิ่งอันเป็นการนำพระราชโองการมาแอบอ้างใช้อย่างมีเจตนาไม่สุจริตเป็นการกล่าวหาโดยสร้างฐานความผิดใหม่ซึ่งไม่มีฐานกฎหมายใดๆบัญญัติไว้

 
                  ข้อ 8. มติในการประชุมครั้งที่ 18/2562 เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2562 ของกกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคไม่เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจาก กกต.จงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย ตามมาตรา 41 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560ประกอบระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และมีพฤติกรรมไม่สุจริต ซึ่งพรรคฯมีหลักฐานนำเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญและพรรคฯจะใช้สิทธิตามกฎหมายดำเนินการที่พรรคฯ ไม่ได้รับความเป็นธรรมต่อไป
 
 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ