ข่าว

"วัฒนา" โอดทุกวันนี้แค่หายใจยังผิด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อัยการยื่นเพิ่มคำขอริบทรัพย์ 1.4 พันล้าน ตามกฎหมายใหม่ ป.ป.ช.- วิ อม. ศาลให้ไต่สวนพยานทั้งหมด 82 ปาก "วัฒนา" บอกดียังมีเวลาหาเสียง ลั่นคดีหน่วยงานรัฐไม่เสียหาย

 

               ที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันที่ 15 ก.พ.62 เมื่อเวลา 14.30 น. องค์คณะทั้ง 9 คน นัดตรวจพยานหลักฐานคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ หมายเลขดำ อม.42/2561 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวัฒนา เมืองสุข อายุ 61 ปี อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ยุครัฐบาลทักษิณ 2 และแกนนำพรรคเพื่อไทย, นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ อดีตกรรมการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และอดีตประธานอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการปี 2548-2549, นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจก่อสร้างที่พักอาศัย, นายอภิชาติ หรือ เสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่, นายอริสมันต์ หรือกี้ร์ พงษ์เรืองรอง อายุ 55 ปี อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย และพวกรวม 14 คน เป็นจำเลย ในความผิดเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 157, ฐานเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6, 11 และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 91

 

               วันนี้นายวัฒนา, นายอริสมันต์ กับจำเลยอื่นที่ได้รับการประกันตัวเดินทางมาศาล ส่วนเสี่ยเปี๋ยงกับลูกน้อง จำเลยที่ 4-5 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัวจากเรือนจำมาศาล ขณะที่จำเลยที่ 6, 7, 11 และ 12 ไม่มาศาล ศาลได้ออกหมายจับไว้ก่อนหน้านี้เป็นเวลาครบ 3 เดือนแล้ว แต่ยังไม่สามารถติดตามตัวจำเลยมาเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีของศาลได้ จึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 (วิ อม.) มาตรา 28 ให้ศาลพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ โดยก่อนหน้านี้ ที่โจทก์และจำเลยได้ร่วมกันตรวจบัญชีพยานหลักฐานตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา จำเลยได้นำเสนอบัญชีพยานขึ้นไต่สวนรวมทั้งสิ้น 57 ปาก ซึ่งศาลเห็นว่าคดีนี้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจก่อสร้างบ้านเอื้ออาทร ควรมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมมาเป็นพยานด้วย จึงให้หมายเรียก นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ มาเป็นพยานของศาล ทั้งนี้เมื่อพิจารณาบัญชีพยานทั้งหมดแล้ว ศาลเห็นควรให้นำพยานขึ้นไต่สวนทั้งหมด 82 ปาก ส่วนพยานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ทรงคุณวุฒิ หากโจทก์-จำเลย ประสงค์ที่จะนำผู้เชี่ยวชาญของฝ่ายตนเองมาให้ไต่สวนด้วย ก็ให้ยื่นคำร้องต่อศาลภายใน 30 วันนับแต่วันนี้ โดยการไต่สวนพยานนั้น ศาลกำหนดวันนัดไต่สวนพยานโจทก์วันที่ 3 , 10 มิ.ย.นี้ , วันที่ 8, 12, 15, 19 ก.ค. และวันที่ 5, 16, 19, 26 ส.ค. รวม 10 นัด และกำหนดไต่สวนพยานจำเลยวันที่ 4, 13, 20, 27 ก.ย. รวม 4 นัด

               สำหรับกรณีที่ นายวัฒนา จำเลยที่ 1 ขอศาลแถลงเปิดคดีด้วยวาจา ศาลให้นายวัฒนา ยื่นคำร้องต่อศาล โดยศาลจะมีคำสั่งในวันนัดไต่สวนพยานโจทก์ครั้งแรก

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการซึ่งรับมอบอำนาจจากอัยการสูงสุด โจทก์ ได้ยื่นเพิ่มเติมคำฟ้องเกี่ยวกับมาตรการร้องขอให้ริบทรัพย์สิน หรือการใช้เงิน หรือทรัพย์สินอื่น ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกว่า 1,400 ล้านบาท ด้วย ซึ่งเป็นการยื่น ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 83 ประกอบ วิ อม. มาตรา 42 , 43 โดยศาลก็ได้มีคำสั่งให้จำเลยทั้งหมดยื่นคำให้การในประเด็นดังกล่าวต่อศาลภายใน 30 วัน นับจากวันที่ 12 ก.พ.

 

 

 

               ภายหลังเสร็จสิ้นการพิจารณา นายวัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลนัดไต่สวนพยานในเดือน มิ.ย.นี้ ว่า เป็นเรื่องที่ดี จะได้มีโอกาสหาเสียงก่อน คดีนี้ศาลให้ไต่สวนพยานจำเลยเพียง 4 นัด ตนก็ไม่มั่นใจว่าจะไต่สวนได้ทันหรือไม่ เพราะพยานของตนก็มี 10 กว่าคน แต่ตนก็จะพยายามทำให้เต็มที่เพื่อให้เสร็จทัน ทั้งนี้ วันนี้ตนก็ได้ขออนุญาตศาลแถลงเปิดคดีด้วยวาจา เพื่อทำความเข้าใจให้เห็นภาพความเป็นมาอย่างไร เพราะคดีนี้ประเด็นคือ ไม่มีเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติลงมากระทำผิดเลย ผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติโครงการไม่มีใครขาดทุน ทุกคนทำถูกต้องตามระเบียบ คณะกรรมการการเคหะฯ ทั้ง 10 คน ถูกแจ้งข้อหาเพียงคนเดียว และผู้ประกอบการที่ถูกอ้างว่ามีการจ่ายสินบน 11 ราย แต่เอามาฟ้องแค่ 3 ราย อีก 8 รายไม่ฟ้อง ก็ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด และเรื่องนี้ทางการเคหะฯ และราชการ ไม่มีใครได้รับความเสียหาย ทุกอย่างประสบความสำเร็จหมด ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนไม่มีใครทำผิด ตรงนี้คือข้อเท็จจริง ตนจึงต้องขอศาลแถลงด้วยวาจา เพื่อให้ได้เห็นภาพว่าคดีนี้มันมีอะไรที่เป็นพิรุธบ้าง มีที่ไหนคดีที่ปกติธรรมดา ป.ป.ช. ใช้เวลาไต่สวน 12 ปี แล้วก็มาถึงศาลในช่วงที่ตนทะเลาะกับ คสช. ที่ผ่านมาก็เห็นว่าตนนั้นโดนอะไรมาบ้าง ทุกวันนี้หายใจแรงยังผิดเลย

               นายวัฒนา กล่าวต่อไปว่า ในเรื่องนี้ยังมีความพิสดารที่สุดอีก คือว่าการส่งสำนวนมาศาลของ ป.ป.ช. จะต้องมีแถลงและอยู่ในเว็บไซต์ แต่คดีนี้ปิดเงียบไม่ให้ใครรู้ จนวันหนึ่งมีนักข่าวเข้าไปถามเจ้าของสำนวน มีการแจ้งนักข่าวคนนั้นว่าถ้าหากมีการเผยแพร่ข้อมูลให้รู้ เดี๋ยวเกิดจำเลยมาขอความเป็นธรรมก็จะทำให้ส่งสำนวนไม่ได้ ตรงนี้แปลว่า ป.ป.ช. กลัวการร้องขอความเป็นธรรมอย่างนั้นหรือ จึงแอบส่งสำนวนมา คดีที่ควรจะเป็นเรื่องปกติธรรมดามากๆ ทำไมถึงต้องใช้เวลาขนาดนั้นถึงจะมาศาล และที่มาศาลได้ก็เพราะว่าเป็น ป.ป.ช. ที่ถูกตั้งขึ้นโดยคณะรัฐประหาร แต่วันนี้ก็เป็นโอกาสดีที่มันจะได้จบสิ้น คดีนี้เป็นคดีสุดท้ายของ คตส. ซึ่งขณะนั้นในการไต่สวนพยานของ คตส. มีการข่มขู่พยานถึงขนาดที่ว่าใครให้การไม่เป็นประโยชน์ก็จะโดนเอาเข้าคุก เรื่องนี้มีหลักฐานทั้งหมด เพราะฉะนั้นคดีนี้ตนจึงจำเป็นต้องแถลงให้เห็นภาพ อย่างเรื่องที่นายแก้วสรร อติโพธิ ซึ่งเป็นประธานกรรมการไต่สวนตน พอไต่สวนเสร็จก็ไปสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องนี้อเมซิ่งมาก 

               เมื่อถามว่า หากชนะคดีนี้จะฟ้องกลับ ป.ป.ช. หรือไม่ นายวัฒนา กล่าวว่า ตนยังไม่มีเวลาคิดเรื่องนั้น เนื่องจากขณะนี้ ป.ป.ช. มีกฎหมายคุ้มครองจนใครไม่สามารถแตะต้องได้ การที่จะฟ้องได้จะต้องได้เสียงในสภา 1 ใน 5 หรือประชาชนเข้าชื่อ 2 หมื่นชื่อ ตรงนี้ถือเป็นจุดบกพร่องของกฎหมายที่ทำให้องค์กรอิสระเหล่านี้ใช้อำนาจตามอำเภอใจ เรื่องนี้ควรจะต้องนำไปสู่การแก้ไข เพื่อให้องค์กรอิสระมีความรับผิดชอบมากขึ้น หลายๆ เรื่องมันออกมาค้านกับสายตาประชาชน อยากฝากไปถาม ป.ป.ช.ว่าหานาฬิกาเจอหรือยัง เรื่องง่ายขนาดนั้นยังหาไม่เจอ ชาวบ้านเขาเจอตั้งนานแล้ว

               "ผมเห็นว่าวันนี้ความยุติธรรมมันไม่ได้อยู่ข้างผม ผมหายใจยังผิด ผมแถลงข่าวที่พรรคผมยังเป็นภัยต่อความมั่นคง เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นมาแล้ว เรื่องอะไรก็เกิดขึ้นได้ หากวันที่อำนาจกลับคืนมาเป็นของประชาชน ผมก็คิดว่าองค์กรที่ทำหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมจะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เราต้องรอให้อำนาจกลับมาเป็นของประชาชน วันที่ 24 มี.ค.นี้ ผมขอให้ประชาชนไปใช้สิทธิเยอะๆ"

               ส่วนเรื่องที่อัยการ ยื่นคำร้องเพิ่มตามมาตรการริบทรัพย์นั้น นายวัฒนา กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากในคดีอาญามีความเสียหาย 2 ประเภท ประเภทแรกถ้าเราก่อความเสียหายให้เกิดขึ้น จะมี พ.ร.บ.เจ้าหน้าที่รัฐฯ ที่ทำละเมิดเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหาย แต่คดีนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะมันไม่มีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้น แต่มันมีเรื่องหากว่ามีการกล่าวหาความผิดตามมาตรา 157 ก็ให้ริบทรัพย์เป็นของแผ่นดิน จึงเป็นที่มาของการร้อง แต่หากว่าศาลพิพากษาว่าตนไม่ผิด ก็จะไม่มีเรื่องการยึดทรัพย์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ถ้าศาลพิพากษาว่าตนผิด ตนก็ไม่สนใจยังไงก็ติดคุกอยู่แล้ว ไม่ต้องไปดูอีกว่าจะยึดทรัพย์หรือไม่ ตนอยากขอว่าหากศาลอนุญาตก็ให้มาฟังการแถลงเปิดสำนวนในคดีนี้ มันจะเห็นข้อเท็จจริงในคดี

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ