"สุเทพ" เสียดาย "สุริยะใส" ผู้สมัคร รปช.หมดโอกาสทำหน้าที่ตัวแทนปชช. หลังถูกคุก 6 เดือนตัดสิทธิการเมือง 10 ปี ยันพรรคพร้อมดูแลครอบครัว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาธิปไตย (รปช.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีศาลฎีกาได้พิพากษายืนจำคุก 6 แกนนำพันธมิตรฯ 8 เดือน กรณีบุกยึดทำเนียบ ปี 51 ว่า สวัสดีครับพี่น้องมวลมหาประชาชนที่เคารพรักทุกท่าน...
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาศาลฎีกา ได้พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ลงโทษจำคุกคนละ 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ทั้ง 6 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และหนึ่งในนั้นก็คือ คุณสุริยะใส กตะศิลา ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออันดับ 7 ของพรรครวมพลังประชาชาติไทยด้วย ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ คุณสุริยะใส จะหมดโอกาสเข้าไปทำหน้าที่ตัวแทนพี่น้องประชาชนในสภา รวมทั้งจะถูกตัดสิทธิทางการเมืองทันทีนานถึง 10 ปี
ผมยอมรับตรงๆ ครับว่า มีความเสียดายคนหนุ่มอนาคตไกลคนนี้ เพราะจากการที่ได้รู้จักและสัมผัสการทำงาน ผมเห็นว่าคุณสุริยะใสเป็นลูกอีสานที่มีเลือดนักสู้อยู่เต็มเปี่ยม นับตั้งแต่ก้าวเข้ามาเป็นเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนนท. ก่อนผันตัวเองมาเป็น NGO จนก้าวมาเป็นหนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยืนหยัดต่อสู้กับระบอบทักษิณอย่างไม่ลดละ โดยยึดหลักความถูกต้องชอบธรรมบนผลประโยชน์ของบ้านเมืองมาโดยตลอด
ที่น่าสนใจคือหัวข้อดุษฎีนิพนธ์ ในช่วงที่ทำปริญญาเอกของคุณสุริยะใส ได้เลือกเรื่อง “อุดมการณ์ทางการเมืองของมวลมหาประชาชน ในวิกฤติประชาธิปไตย” เมื่ออ่านแล้วพบว่ามีเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อชาติบ้านเมือง จนทราบว่าได้เข้ามาสอนหนังสือจนมีลูกศิษย์ลูกหาทั่วบ้านทั่วเมือง เนื่องจากเป็นคนที่พูดจาปราศรัยมีความเป็นเหตุเป็นผลน่าฟัง มีจุดยืนชัดเจน และโดยส่วนตัวก็เป็นคนที่สุภาพเรียบร้อยนอบน้อมถ่อมตน น่ารักมากครับ
จนวันหนึ่งผมได้มาพบว่าคุณสุริยะใส เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ที่ก่อตั้งพรรคร่วมพลังประชาชาติไทยด้วย ทำให้ผมยิ่งมั่นใจว่าหลักการที่จะยืนเคียงข้างประชาชน ของพรรคการเมืองที่แท้จริงของประชาชน จะมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน ทั้งนี้ทราบว่าทางพรรคได้เร่งเข้าไปดูแลครอบครัวของคุณสุริยะใสเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทันที
การเลือกที่จะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด โดยไม่คิดจะหลบหนีเหมือนนักการเมืองบางคน
ผมจึงขอยกเอาคำพูดสุดท้ายของคุณสุริยะใสที่พูดในเช้าวันนี้ว่า “ตำแหน่งจะอยู่กับเราไม่นาน แต่ตำนานจะคงอยู่กับเราตลอดไป” ซึ่งผมภูมิใจในตัวชายหนุ่มนักสู้คนนี้มาก ขอน้อมคารวะด้วยใจจริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง