เลขา กกต.เผยยอดสมัคร ส.ส.รวม 2 วัน ทะลุ 6,474 คนสูงกว่าปี 54 กว่า 3 เท่า เตือนผู้สมัครสำรวจป้ายหาเสียงขวางกีดขวาง อย่ามองเป็นเรื่องจุกจิกอาจทำให้เสียคะแนน
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) - 5 ก.พ.62 พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต.แถลงภาพรวมการเปิดรับสมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ ช่วงครึ่งวันเช้าของวันที่สอง ว่า ได้รับรายงานการรับสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จากทั่วประเทศว่า มีผู้สมัครเพิ่มขึ้นจากวันแรก 546 คน มีพรรคการเมืองที่ยื่นสมัครรวม 60 พรรค รวมมีผู้สมัคร 6,474 คน สูงขึ้นกว่าการเลือกตั้งปี 54 ถึง 3 เท่า สำหรับการรับสมัครระบบบัญชีรายชื่อของวันนี้ มีพรรคการเมืองยื่นสมัครจำนวน 4 พรรคประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย ไทยรักษาชาติ เสรีรวมไทย และพรรคพลังธรรมใหม่ รวมการสมัคร 2 วัน ยื่นสมัครแล้ว 6 พรรคการเมือง ส่วนเงินค่าสมัครส.ส.กกต.จะนำเข้ากองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองใช้สำหรับกิจกรรมของพรรคการเมืองตามกฎหมาย ทั้งนี้อยากให้พรรคตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะส่งสมัครให้ครบถ้วน เพราะเมื่อจ่ายค่าสมัครแล้วไม่สามารถขอค่าสมัครคืนได้ รวมทั้งการยื่นสมัครก็ไม่ควรแห่กันมาในวันสุดท้ายพร้อมกันวันเดียวเพราะถ้าตรวจเอกสารให้ไม่ทันเวลา 16.30 น.ของวันสุดท้าย คือวันที่ 8 ก.พ. กกต.ก็จะไม่สามารถรับสมัครได้ ไม่สามารถทดหรือต่อเวลาให้ได้
เลขาธิการกกต. กล่าวอีกว่า ขอย้ำเตือนเรื่องของการติดตั้งป้ายหาเสียง โดยให้พรรคการเมืองและผู้สมัครปฏิบัติตามกฎหมาย สำรวจป้ายของตนเองว่ามีการติดตั้งกีดขวางทางเท้าหรือการจราจรหรือไม่ เพราะมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาว่ามีผู้สมัครติดตั้งป้ายบริเวณทางเท้าทำให้ต้องลงมาเดินบนถนน จนเกรงจะเกิดอันตรายจึงขอให้เร่งแก้ไข อย่ามองว่ากฎหมายเป็นเรื่องจุกจิก ขอให้มองที่ความรับผิดชอบต่อสังคม การติดป้ายขวางทางแทนที่คนจะเลือกอาจไม่เลือกเลย เรื่องเล็กน้อยอาจเป็นจุดเปลี่ยนในการตัดสินเพราะประชาชนอาจมองว่าผู้สมัครไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ขณะนี้ผู้ตรวจการเลือกตั้งได้ลงพื้นที่และมีการแจ้งเตือนไปยังผู้สมัครแล้ว ส่วนที่ผู้สมัครพบว่าป้ายหาเสียงชองตนถูกเผา หรือโดนกรีด ก็ให้พรรคการเมืองหรือผู้สมัครในฐานะเจ้าทุกข์ไปแจ้งความดำเนินคดีอาญาที่สถานีตำรวจในพื้นที่
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ว่าวันนี้กกต.จะรอฟังมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องการวางตัวเป็นกลางทางการเมืองเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าอะไรทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ส่วนเรื่องการจัดรายการศาสตร์พระราชาถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ปกติ สามารถทำได้ ส่วนกรณีที่บางพรรคนำคำสอนของพระพุทธเจ้า มาใช้หาเสียง สามารถทำได้เพราะเป็นการนำเสนอสิ่งดีๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง