"เสรีพิศุทธ์" บอกถ้านั่งบริหารประเทศ จะรื้อระบบการศึกษา

 

          10 มกราคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ปัตตานีว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย  ลงพื้นที่เป็นประธานเปิดงานโครงการมหกรรมตลาดนัดวิชาการ สังสรรค์วันเด็กสู่ 4.0 ประจำปีการศึกษา 2561 ณ โรงเรียนส่งเสริมอิสลามศึกษา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี   

 

          หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับเกียรติจากทางโรงเรียนให้เป็นประธานเปิดงาน รู้ยินดีที่ทางโรงเรียนเข้าใจ พัฒนาระบบการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาให้เด็ก ๆ ก้าวหน้าต่อไปในอนาคต ให้เด็กทุกคนที่เป็นเยาวชนของชาติ สร้างสรรค์ประเทศชาติของเรา ให้มีความรุ่งเรืองขึ้นไป”  

        

         “ผมขอฝากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานไว้เกี่ยวกับการศึกษาเพื่อเป็นแนวทางที่จะพัฒนาลูกหลานของเรา ให้ป็นคนดี เป็นคนเก่ง เป็นคนที่สามารถพัฒนาประเทศชาติ นำความเจริญก้าวหน้าต่อไปได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ท่านพระราชทานว่า การที่จะทำงานให้เกิดประสิทธิภาพได้ จะต้องพัฒนาคนให้มีความพร้อม ทั้งทางด้านร่างกาย ความคิด และจิตใจ เรากำลังพัฒนาคนอยู่ ต้องมีการฝึกปฏิบัติที่แท้จริง ให้ความรู้ทางวิชาการเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ 

            ตัวผมเองเมื่ออาสาเข้ามาพัฒนาบ้านเมืองต่อไปในอนาคต ก็มีความคิด ที่จะต้องเปลี่ยนหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ให้พัฒนาคนพร้อมๆ ทั้งสามส่วนดังที่ได้กล่าวมา ที่ผ่านมาทางกระทรวงศึกษาธิการจะเน้นในเรื่องความรู้ เพียงอย่างเดียว ซึ่งไม่เพียงพอ เราต้องเปลี่ยนแปลง ให้เด็ก ๆ ของเรา มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

            ต่อมาที่จ. ยะลา หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยลงพื้นที่เปิดศูนย์ประสานงานพรรคจ.ยะลา   เเละเเสดงความเชื่อมั่นว่านโนยบายของพรรคสามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับพี่น้องภาคใต้ ได้

            พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า “วันนี้ผมมีโอกาสลงพื้นที่เขต 2 ปัตตานี และเขต 1 ยะลา ได้ทราบถึงปัญหาของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นราคาปาล์ม ราคายาง ราคาพืชผลทางการเกษตร การประมง เรื่องของการทำมาหากิน และเรื่องความไม่สงบเรียบร้อยของภาคใต้ที่ยืดเยื้อมายาวนาน ทำให้พรรคได้มีโอกาสอธิบายนโยบาย ให้พี่น้องได้เข้าใจ ว่าเรามีวิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆ  ให้พี่น้องประชาชน  นโยบายของเราเป็นนโยบายที่ทำได้จริงๆ และคนอย่างผม ที่รับราชการมานาน ทุกท่านคงจะเห็นว่า เป็นคนพูดจริง ทำจริง เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผมได้กล่าวกับประขาชนในวันนี้ เพราะว่าเราคิดว่า เราทำได้” 

            ต่อข้อซักถามในเรื่องของป้ายหาเสียงที่กกต.กำหนดไว้ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้ความเห็นว่า “เรื่องของป้ายหาเสียง ตามหลักการแล้ว ก็จะมีกฎหมาย ระเบียบต่างๆ  แต่ก็มีคนกล่าวไว้ว่า รัฐธรรมนูญนี้เลวที่สุดตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญมา  เพราะเขียนมาเพื่อจะโกง เพราะฉะนั้นกฎหมายต่างๆ ที่ออกมาโดยรัฐบาล หรือคำสั่งต่างๆ ออกมา ก็มุ่งเป้าไปที่การสืบทอดอำนาจ เมื่อมีกฎหมายออกมา และต้องมีระเบียบต่างๆ เพื่อรองรับกฎหมาย  ระเบียบต่าง ๆ จะตรงได้อย่างไร มันก็ต้องโกงไปโกงมา

             บางทีกกต. อาจจะไม่ได้คิดอะไรมากมาย แต่เมื่อกฎหมาย หรือคำสั่ง เป็นแบบนี้แล้ว มันก็ต้องออกมาเป็นแบบนั้น มันใช้ไม่ได้ ดูไม่ดี ยกตัวอย่างเช่น เมื่อกกต. กำหนดค่าใช้จ่าย ให้กับพรรคการเมือง กับผู้สมัคร แล้ว ก็ไม่ควรที่จะลงลึกถึงรายละเอียดมากมาย ทำให้สับสนวุ่นวาย บางทีอ่านภาษาไทย แปลก็ยังจะไม่ตรงกัน พอเราแปลความผิดไม่ตรงกับเขา มันไม่ถูกต้อง “

            หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยกล่าวว่า“เพราะฉะนั้นในเรื่องของการบริหารงาน ใครเป็นผู้บริหาร ควรจะเข้าใจกันว่า เมื่อกำหนดงบประมาณเข้าไปแล้ว พรรคการเมือง ผู้สมัครจะทำอย่างไร ก็เรื่องของเขา ขออย่าให้เกินก็พอแล้ว เช่น ให้พรรคการเมืองใช้ 35 ล้านบาท ก็ปล่อยพรรคการเมืองให้ใช้ ทำกิจกรรมไป ก็ตรวจสอบเอา เพราะฉะนั้น กกต. ไม่ควรออกกฎระเบียบให้ยุ่งยาก 

           เช่น กำหนดขนาดป้ายหาเสียง ให้ทำขนาดโน้น ขนาดนี้ มีรูปหัวหน้าพรรคบ้าง ไม่มีบ้าง มีรูปผู้สมัครบ้าง มันเป็นความสับสน วุ่นวายไปหมด แม้กระทั่งหมายเลขผู้สมัคร ที่ไปเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ให้ผู้สมัครทุกพรรค ทุกเขต จับสลากกันเอาเอง เพราะฉะนั้นผู้สมัครทุกคนในเขตจังหวัดเดียวกัน มันยังคนละเบอร์ ไม่เหมือนกัน ประชาชนสับสน กกต.ก็สับสน เป็นเหตุให้หลงผิด ลงคะแนนผิด  หรือโกงได้ง่าย ทำแบบนี้ทำไม สิ่งที่ดีไม่คิดจะทำ”