ข่าว

อัยการ แจ้ง อคส.-อ.ต.ก.ส่งเอกสารเอกชนชดใช้ค่าข้าวเพิ่ม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"รองโฆษกอัยการ" เผยมหากาพย์ค่าเสียหายจำนำข้าว-ระบายข้าว แยกบังคับคดีปกครองอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์-กลุ่มบุญทรง นับแสนล้าน ส่วนเอกชนกว่า 300 ราย

 

          วันที่ 10 ม.ค.62 - นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีทางแพ่งเรียกค่าเสียหาย จากผู้ที่เกี่ยวข้องในโครงการจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ทั้งนักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐ และเอกชน ภายหลังที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาตัดสินจำคุก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ รวมทั้งนักการเมืองในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ กับเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐสังกัดกรมการค้าต่างประเทศ และกลุ่มเอกชนไปเมื่อปี 2560 ว่า เมื่อมีการดำเนินคดีอาญาโดยฟ้องอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องในโครงการจำนำข้าวและระบายข้าวจนศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาแล้ว ภายหลังก็ได้มีการดำเนินคดีทางแพ่งเพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทน ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน

 

          ส่วนแรก คือที่ กระทรวงการคลัง มีคำสั่งทางปกครองบังคับคดีให้ อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ , นายบุญทรง อดีต รมว.พาณิชย์ , นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ , นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ , นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็น ผอ.สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ , นายอัครพงศ์ (หรืออัฐฐิติพงศ์) ช่วยเกลี้ยงหรือทีปวัชระ อดีต ผอ.สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ มูลค่านับแสนล้านบาท

 

         ต่อมาผู้ได้รับคำสั่งทางปกครองให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนทางละเมิด ทั้ง 6 รายดังกล่าวก็ได้ยื่นฟ้อง รมว.คลัง และกระทรวงการคลัง เป็นคดีปกครอง ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าว พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี ซึ่งส่วนนี้พนักงานอัยการสำนักงานคดีปกครองได้ดำเนินการแก้ต่างให้ รมว.คลังและหน่วยงานรัฐคือกระทรวงการคลังแล้ว สำหรับคำขอทุเลาการบังคับคดีศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งยกคำร้องทั้งหมด แต่บางรายขอยื่นทุเลาการบังคับคดีเข้ามาอีก ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของศาล ส่วนคำฟ้องที่ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งทางปกครองให้ชดใช้ค่าสินไหนทดแทนนั้นขณะนี้คดีอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลปกครองกลาง 

 

          ส่วนกรณีองค์การคลังสินค้า (อคส.) และ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก) ได้ส่งคดีให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปกครอง เพื่อให้ดำเนินการพิจารณาฟ้องเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับ อคส. และ อ.ต.ก ที่ผิดสัญญาฝากเก็บรักษาข้าวสารและสัญญาตรวจสอบคุณภาพข้าวสาร รวมมูลค่าหลายแสนล้านบาทนั้น โดยคดีในส่วนนี้ทางสำนักงานอัยการคดีปกครอง ได้รับสำนวนคดีจาก อคส. จำนวน 246 คดี และจาก อ.ต.ก จำนวน 89 คดี ทั้งหมดเป็นเรื่องต่อเนื่องจากโครงการรับจำนำข้าวดังกล่าว

 

          ซึ่งหลังจากได้รับเรื่องแล้วทางสำนักงานคดีปกครองโดย นายเทพสิทธิ์ รักไตรรงค์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครอง ได้ตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา ซึ่งคณะทำงานได้พิจารณาเบื้องต้นแล้วเห็นว่า ทางคดียังขาดเอกสารและพยานหลักฐาน โดยคดีมีเอกสารและพยานหลักฐานยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ คณะทำงานจึงมีมีมติให้ อคส. และ อ.ต.ก รวบรวมเอกสารและพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้พนักงานอัยการ โดย นายเทพสิทธิ์ อธ.อัยการสำนักงานคดีปกครอง ได้มีคำสั่งแจ้งทั้ง 2 หน่วยงานไปเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.61 ที่ผ่านมาว่าให้ส่งเอกสารเพิ่มเติมมาภายใน 16 ม.ค.นี้ ทั้งนี้หากเอกสารครบถ้วนแล้ว คณะทำงานอัยการคดีปกครองจะพิจารณามีความเห็นและคำสั่งต่อไป

 

          เมื่อถามว่า การฟ้องเรียกค่าเสียหายให้กับ อคส. และ อ.ต.ก. นี้ จะไม่มีปัญหาเรื่องอายุความดำเนินคดีใช่หรือไม่ อย่างไร นายประยุทธ กล่าวว่า ประเด็นข้อนี้ทางคณะทำงานถือเป็นเรื่องสำคัญและได้ตระหนักอยู่แล้ว ขอให้สบายใจได้ว่าไม่เกิดความเสียหายเพราะเรื่องนี้ ในชั้นพนักงานอัยการแน่นอน.


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ