ข่าว

แบ่งเขตจบ !! มุ่งหน้าสู่การเลือกตั้ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองเลขากกต.แจง "แบ่งเขต" งานละเอียด คล้ายตัดเสื้อตามรูปแบบจังหวัด ยึดประชาชนเป็นหลัก นักการเมืองต้องยอมรับผลกระทบ

 

         สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) -29 พ.ย.61-รองเลขากกต.แจง "แบ่งเขต" งานละเอียด คล้ายตัดเสื้อตามรูปแบบจังหวัด ยึดประชาชนเป็นหลัก นักการเมืองต้องยอมรับผลกระทบ เดินหน้าเปิดรับสมัครผอ.-กกต.ประจำเขตเลือกตั้ง รองรับการหารือแม่น้ำ 5 สาย เพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ย้ำไม่ตรวจสอบมือปล่อยเอกสารเขตเลือกตั้งหลุด มั่นใจไม่ใช่ฝีมือคนกกต.

          นายณัฐฎ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการกกต. แถลงชี้แจงกรณีการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งของกกต.ว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งรอบแรกกกต.ดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13/2561 แต่ระหว่างรอการประกาศราชกิจจานุเบกษาหัวหน้าคสช.ก็มีคำสั่งที่ 16/2561 จึงมีการเปิดรับฟังข้อร้องเรียน ซึ่งก็พบว่า มีการร้องเรียนเข้ามาใน 33 จังหวัด 98 คำร้อง แบ่งเป็นภาคกลาง 19 คำร้อง ภาคเหนือ 21 คำร้อง ภาคอีสาน 52 คำร้อง ภาคใต้6 คำร้อง โดยได้มีการพิจารณาคำร้องแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 27 พ.ย. และเห็นชอบให้มีการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งในวันที่ 28 พ.ย. และประกาศราชกิจจาฯมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 พ.ย. อย่างไรก็ตามการพิจารณาของกกต.เป็นไปตามมาตรา 27 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ที่ให้รวมพื้นที่อำเภอเป็นเขตเลือกตั้ง คำนึงพื้นที่ติดต่อใกล้ชิดกัน คมนาคมสะดวก และการเคยอยู่ในเขตเลือกตั้งเดียวกัน และหลังสิ้นสุดการรับคำร้องในวันที่ 25 พ.ย.ก็ข้อร้องเรียนเพิ่มมาอีก 11คำร้อง กกต.ตรวจสอบแล้วเห็นว่าเป็นการวิจารณ์ ที่ไม่ได้มีการเสนอรูปแบบแบ่งเขตที่เหมาะสม จึงให้ยุติเรื่อง จากนี้ไปก็จะเป็นการเตรียมบุคคลากร ซึ่งก็จะมีการเปิดรับสมัครผู้อำนวยการและกกต.ประจำเขตเลือกตั้งซึ่งคาดว่าจะเป็นสัปดาห์หน้า และเมื่อมีพ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งส.ส. ผู้อำนวยการประจำเขตเลือกตั้งจะประกาศสถานที่รับสมัครหลังกกต.ประกาศกำหนดวันเลือกตั้งและวันรับสมัคร ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงเดือนม.ค. 62 โดยทุกอย่างจะมีความชัดเจนหลังการประชุมร่วมแม่น้ำ 5 สาย ในวันที่ 7 ธ.ค.กระบวนจากนี้จึงไม่สะดุด เดินหน้าเต็มที่   

 

      "การแบ่งเขตของกกต. ตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13 /2561 ก่อนหน้านี้ก็เป็นไปตามกฎหมาย และเมื่อมีข้อเสนอแนะ ซึ่งเป็นประโยชน์และบางครั้งดีกว่า กกต.ก็ปรับปรุง การพิจารณาเป็นลักษณะเฉพาะในแต่ละพื้นที่แต่ทุกอย่างอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ผลที่ได้กลับมากระทบใครบ้างนั้นฝ่ายการเมืองต้องยอมรับ เพราะการแบ่งเขตแบบเดิมไม่มีการกำหนดจำนวนส.ส.ในสภา แต่กำหนดจำนวนประชากรต่อจำนวนส.ส. ก็จะทำให้จำนวนส.ส.ไม่แน่นอน ซึ่งนักการเมืองทราบดี และหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไม่ได้ ท่านที่อาสาสมัครรับเลือกตั้งต้องทำคุณงามความดีกับประชาชน และการที่เขาผูกพันกันเป็นเรื่องปกติ เพราะสังคมเราเป็นทั้งคุณธรรมและอุปถัมภ์คู่กัน การตัดสินใจเลือกของประชาชนไม่ใช่แค่เฉพาะตัวบุคคล แต่นโยบายก็เป็นสิ่งสำคัญ จึงต้องเคารพ เมื่อเลือกไปแล้วผลกระทบจะเป็นอย่างไรก็เป็นบทเรียนที่เขาต้องเรียนรู้ว่าคนที่เลือกไปทำอะไรให้เขาบ้าง นี่คือกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเองในระบบประชาธิปไตย การเลือกจะเกิดผลกระทบอะไรเราต้องเรียนรู้ในระบบประชาธิปไตย " นายณัฎฐ์ กล่าว

           รองเลขาธิการกกต. กล่าวด้วยว่า การพิจารณาแบ่งเขตของกกต.ในรอบแรกเป็นการรับฟังใน 3 รูปแบบ ผอ.กกต.จว.มีสิทธิที่จะปรับปรุงนอกเหนือจาก 3 รูปแบบได้และกกต.เห็นว่าอำนาจการแบ่งเขตเป็นของกกต. จึงได้สั่งให้มีการทำรูปแบบที่ 4 แต่ก็มีที่กกต.ไม่ได้เลือก และในบางจังหวัดก็มีการปรับโดยไม่ยึดทั้ง 4 รูปแบบ ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่าบางจังหวัดซอยอำเภอเป็น 3 เขตเลือกตั้ง นั้น จะมีเฉพาะอำเภอเมืองของจังหวัดใหญ่ที่มีประชากรมาก แต่จะไม่พบในอำเภอรอง เพราะกกต.ก็ฟังที่ประชาชนร้องเรียนว่าถ้าตำบลต้องถูกแบ่งออกไปจะทำให้อำนาจต่อกับฝ่ายการเมืองลดลงไปและถูกละเลยจากฝ่ายการเมือง และที่ 54 จว.ซึ่งไม่มีการเพิ่มลดของจำนวนส.ส. แต่กลับมีการแบ่งเขตนั้นก็เกิดจากการย้ายถิ่นที่อยู่ของประชาชน อย่างในบางจว.ของภาคใต้เมื่อไปดูประชากรหายไปถึง 6 หมื่นคน เพราะคำนึงเรื่องความปลอดภัยของตัวเองจึงย้ายเข้ามา ก็ต้องมีการแบ่งเขตใหม่ หรืออย่าง กาญจนบุรี แม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่กว้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา ประชากรกระจุกตัวอยู่บางจุด ขณะที่บางพื้นที่กว้างใหญ่ แต่ประชากรอยู่กันกระจาย ซึ่งทำให้เกิดการได้เปรียบในการหาเสียง และมีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้น การแบ่งเขตครั้งนี้ทำตามความเหมาะสมของพื้นที่ ภูมิภาคและจังหวัดจริง ๆคล้ายกับการตัดเสื้อให้ตรงตามรูปแบบของแต่ละจังหวัด

         ส่วนกรณีที่เขตเลือกตั้งหลุดออกไปก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษานั้น นายณัฎฐ์ กล่าวว่า เอกสารแบ่งเขตที่หลุดออกไปก่อนมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาไม่ใช่สิ่งที่สำนักงานต้องกังวล เพราะในการดำเนินการจำกัดคนทำงาน จึงเชื่อว่าไม่ได้หลุดจากสำนักงานกกต.อย่างแน่นอน และไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องไปดำเนินการกับใครที่เกี่ยวข้องกับเอกสารหลุด เพราะขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ประเทศกำลังเดินไปสู่การเลือกตั้งเราควรที่จะช่วยกันประคับประคองเพื่อให้ไปสู่การเลือกตั้ง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ