ข่าว

'จุดอ่อน-จุดแข็ง' พรรคใหญ่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'จุดอ่อน-จุดแข็ง' พรรคใหญ่

"มาดามเดียร์" นี่..........
    เป็นหญิงอย่างที่เขาเรียกกันว่ามี "ออร่า"
    พลันที่เธอไปยื่นใบสมัครเข้าพรรค "พลังประชารัฐ" ของคุณอุตตม-สนธิรัตน์วันก่อน
    ชมรมการเมืองเรื่องนินทา เมาธ์กันขรมว่า "มาดามเดียร์" พลันปรากฏกายในสนาม
    "มาดามหน่อย" พลันร่วงผล็อย ตกกระป๋องไปเลย
    แค่ "โหงวเฮ้ง" ก็กินขาด!
    และยังเมาธ์กันเมามันต่ออีกว่า เสียดาย..ไปพลังประชารัฐ ถ้าไปเป็นแม่ย่านางให้ "เพื่อไทย" ละก็
    "เพื่อไทย" จะไม่เป็นพรรค "เหลียงเฉาเหว่ย" อย่างตอนนี้แน่ๆ
    ก็ดูซี...........
    พรรค "ตระกูลพลัง" ทั้งพลังประชารัฐ รวมพลังประชาชาติไทย ของกำนันสุเทพ นับวันคึกคัก เข้มแข็ง มีแต่คนไหลเข้า
    แต่ตรงกันข้าม พรรค "ตระกูลเพื่อ" อย่างเพื่อไทย "มาดามหน่อย" นำ 
    ต่อให้ "พกลูกสาวมาด้วย" นับวันมีแต่ด๋อย ถอยแรงเด้ง 
    นอกจากไม่มี "คนใหม่" ไหลเข้าแล้ว
    "คนเก่า" ประเภท "เผาบ้าน-เผาเมือง" ที่ได้รับเก้าอี้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เป็นรางวัลปูนบำเหน็จความชั่วความเลว
    ด้วยพิษเลือกตั้งระบบ "จัดสรรปันส่วนผสม" ครั้งนี้ คำนวณแล้ว เป็น "ผีไม่มีโลงนอน" แน่
    พากันทิ้งพรรค "ลอยหัว-ลอยไส้" ไปสิงพรรคอื่น 
    เพื่อไทยตอนนี้ จึงริมๆ จะเป็นพรรคเหลียงเฉาเหว่ย หรือพรรค "ป่าช้าเหงา" ทั้งเจ๊อ้อ-เจ๊หน่อย หงอยรับประทาน!
    คนประเภท "ร้อยเล่ห์-พันเหลี่ยม" มากต่อมาก
    ลงท้าย.......

เหลี่ยมพันขา "ตกหลุมฝาก" ที่ตัวเองขุด เข้าตำรา "ทุกขโต ทุกขถานัง" ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว เจ็บเอง-ตายเอง!
    ทักษิณทำเป็นจิวยี่ฉลาดเหนือขงเบ้ง ไปนอนตีนก่ายหน้าผาก ถอดสมการรัฐธรรมนูญ มาตรา ๙๑  ว่าด้วยสูตรคำนวณหา ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แล้ว
    ก็ผยอง+โลภ ใช้ตัวเลข ๑๕ ล้าน "เลือกพรรคกู" ตอนปี ๕๔ เป็นตัวตั้ง-ตัวตาย 
    มั่นใจว่า ๒๔ กุมภา ๖๒ นี้ กว่า ๑๕ ล้าน ก็จะเลือกพรรคกูอีก 
    ทำไงหว่า "ปาร์ตี้ลิสต์ ๑๕๐ คน" ถึงจะกวาดคนเดียวให้เรียบ?
    คิดเสร็จ จัดการ "แตกพรรคใหญ่" ย่อยหลายๆ พรรค เกลี่ยผี เป็นตาข่ายไปดัก "คะแนนตกน้ำ" ในแต่ละภาค 
    แตกไป ๕-๖ พรรค...........
    แตกไป-แตกมา ตอนนี้กลายเป็น "แตกดังโพละ"!
    คือที่เป็นจริงนั้น ในเพื่อไทย ใช่ว่าเป็นขี้ข้าสวามิภักดิ์ทักษิณเข้าเนื้อ-เข้ากระดูก เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทั้งหมด
    หากแต่ "ผลประโยชน์ยังร่วมกัน" อย่างหนึ่ง
    ทักษิณ "ยังมีให้หลอกแดกได้บ้าง" อย่างหนึ่ง
    ยังไม่มีทางเลือกเป็น "ทางไป" ที่ดีกว่าอย่างหนึ่ง
    ก็เลยเป็นปลาแขยงร่วมบ่อคูถมาเรื่อยๆ ถึงวันนี้ "ดาวมฤตยู" ทับดวงเมือง-ดวงโลกแล้ว ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม
    "แตกแล้ว-แตกเลย"...........
    ต่อหน้าทำเหมือน "แยกกันตี" ไปรวมกัน "กินบ้าน-กินเมือง" 
    แต่ในใจ เตรียมการ "ฟักตนเป็นใหญ่" กันทั้งนั้น
    รอผลเลือกตั้งเท่านั้น ว่า.........
    พรรคสาขาพรรคไหน ได้ ส.ส.มาพอเป็นกระสายยา ก็จะประกาศตนเป็น "หัวเมืองอิสระ" ไม่ขึ้นต่อเพื่อไทย แทบทั้งนั้น
    ดูซี....
    แต่ละพรรคที่แตกไป มีพรรคไหนที่ "ไม่กินใจ" ต่อกันบ้างล่ะ?
    ทั้งคิดใหม่-คิดเก่า, อนาคตใหม่-อนาคตเก่า
    กระทั่งพรรคตกไม้เอก "พรรคทักษิณชัว" พรรคพ่อ-พรรคลูกกับพรรค "เพื่อไทย" แท้ๆ
    ที่อยู่-ที่แยก "งูเห่ากับพังพอน" แทบทั้งนั้น!
    ยิ่งพรรค "แดงตู่" ที่ยึดหัวเมืองชายแดนเหนือ กับพรรค "แดงซาลาเปา" ที่ครองเมืองเชียงใหม่ 
    ต่างหวังชิง "คะแนนตกน้ำ" ในบ่อแดงเหนือเดียวกัน 
    มองหน้ากันได้........

แต่ "ใจ" ที่ร้าว มันมุ่งสู่ "ดาวคนละดวง" ไปแล้ว
    ยิ่งเดี๋ยวนี้ "แดงตู่" มีดวงตาเห็นธรรม ฉีกแนวเดินแยกออกไปจาก "ตระกูลเพื่อ"
    ใยที่เหลือ...น้อยกว่าสองสลึง!
    แล้วทางอีสาน ซึ่งมี ส.ส.มากที่สุด ครั้งนี้มี ๑๑๖ คน จะไม่ใช่ "เพื่อไทย-เพื่อทักษิณ" ยกภาคเหมือนเดิม
    "ตู่เขียว" จาก "ตระกูลพลัง" เข้ามาพังประตู "ตระกูลเพื่อ"
    ถึงไม่หมด ก็..........
    "เหลือน้อย"!
    ไม่ใช่พูดเลื่อนลอย ดูที่ไหลจากอีสานเข้าพรรคพลังประชารัฐ ๒ วัน ๓ คืน ยังไม่หยุดไหล 
    ยังไงๆ มาก-น้อย อีสานที่เพื่อไทยครองใหญ่ ครั้งนี้ก็ต้องถูก "พลังประชารัฐ-ภูมิใจไทย" และอีกหลายพรรคย่อย  
    แตกเอาไป "หลายสิบ"!
    ยิ่งในกรุงเทพฯ ลำพังตัว "มาดามหน่อย" ก็เอาให้รอดเถอะ 
    ที่เป็นนางทัพ ใช้ผลงาน จำนำข้าวและเผาบ้าน-เผาเมืองของพรรค ซื้อใจคนกรุง หวังชิง ๓๐ เก้าอี้ นั้น
    ชาติหน้า "ก่อนบ่ายคลายเครียด" ค่อยหวัง!
    สรุปแล้ว "แยกกันตี" ของทักษิณ กลายเป็น "แตกกันตาย" ทั้งเพื่อไทย-ทัพใหญ่ และ ๔-๕ เพื่อ-ทัพย่อย 
    ที่คิดจะเป็นแบบ "จอกแหน" ในสระ..........
    "กระจาย" ออกไป เดี๋ยวก็กลับมาจับเป็น "แพเขียวผืนเดียว" กันใหม่
    คิดใหญ่ของทักษิณแบบนี้ กลายเป็นคิดตาย ด้วย "ผีซ้ำด้ำพลอย"
    "จอกแหน" กลายเป็น "กระเบื้อง" 
    "แตก-ร้าว" ถึงทากาว ก็ไม่สามารถกลับเป็นเนื้อเดียวกันได้อีก!
    โลกมันหมุน เลือกตั้งจะทึกทัก "ประชาชนเป็นของกู" ตลอดกาล มันไม่ใช่
    "ทุกภาค" โดยเฉพาะ "เหนือ-อีสาน" เมื่อมีพลังประชารัฐ พูดไปไยเล่า.........
    ก็พรรคเป็นขีปนาวุธส่ง "พลเอกประยุทธ์" เป็นหัวจรวด พุ่งสู่วงโคจรอำนาจบริหารในความเป็น "หัวหน้ารัฐบาล" ต่อ ในการเลือกตั้ง ๒๔ กุมภา ๖๒ นี่แหละ
    แล้วพรรค "ตระกูลเพื่อ" จะลำพอง.......
    ทึกทักคะแนนเดิมที่เคยได้กว่า ๑๕ ล้านเสียง ว่าจะต้องได้เหมือนเดิมอีก 
    ทึกทักเอาจากฐานไหน?
    ฐานเสื้อแดง, ฐานคนตาบอดไม่กลัวเสือ, ฐานอิทธิพลถิ่น, ฐานโกงเอามาแบ่งกัน 
    หรือมั่นใจ พะยี่ห้อ "จอมโจร ๒ พี่น้องปล้นชาติ" ลงไป 
    ส่ง "เสาไฟฟ้า" คนก็ยังเลือก?
    พูดกันชัดๆ อีกที...........
    เลือกตั้ง ๒๔ กุมภา เลือก ส.ส.เป็นเป้าหมายรอง
    เป้าหมายหลัก คือ
    "เลือกตั้งนายกฯ"!    
    แต่ละพรรค ต้องส่งบัญชีรายชื่อ "นายกฯ" พรรคละไม่เกิน ๓ คน ต่อ กกต.ด้วย
    ถ้าเลือกพรรคเพื่อไทยหรือพรรคสาขา 
    "งงตายหะ"........

 เลือกแล้ว ไม่รู้มันจะเอานายหมู-นายแมวที่ไหนให้ขึ้นมาเป็น "นายกฯ นอมินี"?
    เพราะมันสลับหน้าไพ่เล่นได้ตั้งเกือบ ๑๐ พรรค!
    มีแต่ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ที่ประกาศชัด 
    เลือกประชาธิปัตย์ ได้อภิสิทธิ์เป็นนายกฯ
    เลือกภูมิใจไทย ได้อนุทินเป็นนายกฯ 
    หรือเลือกอนาคตใหม่ ได้ธนาธรเป็นนายกฯ เป็นต้น
    จุดอ่อนจึงอยู่ในจุดแข็งของ ๓ พรรคที่ชาวบ้านจับจ้อง คือพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมพลังประชาชาติไทย
    ในประเด็นว่า ถ้าเลือกพรรคใด-พรรคหนึ่ง ใน ๓ พรรคนี้ แล้วจะได้ใครเป็นนายกฯ?
    พลังประชารัฐ ยังดีกว่านิด.........
    คือ พอเดากันได้ว่า สุดท้าย พลเอกประยุทธ์ก็จะประกาศรับเป็นนายกฯ ให้เสนอชื่อในบัญชีต่อ กกต.
    และความชัดเจนนั้น จะช่วยให้ประชาชน "ตัดสินใจ" ในการเลือก-ไม่เลือก เป็นประโยชน์ต่อพรรคและต่อพลเอกประยุทธ์โดยตรง
    เหลือแต่พรรคตระกูลเพื่อไทยและพรรครวมพลังประชาชาติไทย ของกำนันสุเทพนี่แหละ
    การไม่รู้ว่า เลือกไปแล้ว จะได้ใคร "เป็นนายกฯ" นี่แหละ เป็นจุดอ่อนในจุดแข็ง.

 

'จุดอ่อน-จุดแข็ง' พรรคใหญ่

 

 

 

 

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

นามปากกา : เปลวสีเงิน

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ