ข่าว

กกต.ประเมินเลือกตั้งเงินสะพัดรุนแรง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองเลขาฯกกต.แนะทริคจับตากลโกงเลือกตั้ง ให้ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ศึกษาเครือข่ายหัวคะแนนทั่วประเทศ หวังจับให้ได้ ย้ำการเลือกตั้งครั้งนี้ใช้เงินมหาศาล

 

          อิมแพคฟอรัม เมืองทองธานี-15 พ.ย.61.-รองเลขาฯกกต. แนะทริคจับตากลโกงเลือกตั้ง ให้ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ศึกษาเครือข่ายหัวคะแนนทั่วประเทศ หวังจับให้ได้ ย้ำการเลือกตั้งครั้งนี้ใช้เงินมหาศาล ปูดแค่นายก อบต.ยังมีค่าตัวถึง 5 ล้านบาท มั่นใจบัตรลงคะแนนราคาพุ่ง พรรคใหญ่เป็นอะมีบาแตกตัว-ดึงคะแนนปาร์ตี้ลิสต์

           นายณัฎฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวบรรยายในการสัมมนาเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งส.ส.ว่า. ผู้ตรวจการเลือกตั้งจะมีบทบาทสำคัญโดยหลังจากการจับสลากเพื่อลงพื้นที่ตามกลุ่มจังหวัด ขอให้เข้าไปในสำนักงาน กกต.จังหวัดเพื่อขอดูบัญชีเครือข่ายความสัมพันธ์ของหัวคะแนน ซึ่งมีการจัดทำไว้ครบทุกจังหวัด การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นสะท้อนถึงการใช้เงินอย่างมหาศาลตั้งแต่ใช้หลอดดูด ติดต่อนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)ให้ดูแลฐานคะแนนในตำบล ผู้ตรวจการเลือกตั้งจึงสามารถคำนวณได้เลยว่าเงินจะออกวันไหน เพราะบัตรลงคะแนนซึ่ง 1 ใบมีผลเลือกส.ส.แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ และยังใช้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี  ส่งผลให้บัตรลงคะแนนของประชาชนราคาพุ่งอย่างแน่นอน ขณะนี้แม้แต่นายกอบต.ก็มีค่าตัวไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท เพื่อให้ดูแลฐานคะแนนในตำบล คนกลุ่มนี้ถึงอย่างไรก็ไม่ชนะการเลือกตั้งส.ส. หลังการเลือกตั้งสามารถกลับไปสมัครเป็นนายกอบต.ได้ใหม่ เงิน 5 ล้านบาท ที่ได้ไปก็เอาไปใช้ในการเลือกตั้งท้องถิ่น 

 

          "พรรคการเมืองใหญ่ทำตัวเป็นอามิบา ซึ่งเป็นสิทธิที่จะสามารถแตกพรรคย่อย เพราะถ้าอยู่เป็นพรรคใหญ่มีส.ส.ล้นหลาม จะไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์เลย ยกตัวอย่างชนะเลือกตั้งได้ส.ส.เขต 198 เขต จะได้ปาร์ตี้ลิสต์แค่ 2 ที่นั่ง พรรคใหญ่จึงต้องแบ่งตัวเป็นพรรคย่อย โดยพรรคย่อยไม่ต้องการที่นั่งส.ส.แบบเขตเลย ขอให้มีคะแนนมาในลำดับ 2 หรือ 3 ก็จะได้สัดส่วนที่นั่งปาร์ตี้ลิสต์ นอกจากนี้ในประเด็นหัวคะแนนก็เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต เดิมหัวคะแนนจะเลือกฝ่ายอย่างชัดเจน แต่ปัจจุบันรักทุกพรรค รับเงินทุกพรรคเกลี่ยสัดส่วนฐานเสียงแบ่งไปสนับสนุนให้กับทุกพรรค ผมจึงตั้งความหวังว่าด้วยพฤติกรรมต่างๆ ผู้ตรวจการเลือกตั้งต้องจับได้สักคน "นายณัฎฐ์ กล่าว

          กกต.ประเมินเลือกตั้งเงินสะพัดรุนแรง

          รองเลขาธิการ กกต. กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังขอให้สังเกตหัวคะแนนซึ่งมีพฤติการณ์ที่ชัดเจน จะเป็นคนที่มานั่งเฝ้าไม่ไกลจากหน่วยเลือกตั้ง สังเกตง่ายๆคือ พวกเขาจะไม่กินข้าวกินปลาจะนั่งเฝ้าไม่ไปไหนเลยทั้งวัน เพื่อจะดูความเคลื่อนไหวของคนลงคะแนน โดยดูว่าเงินที่จ่ายไปเข้าคูหาหรือยัง อีกทั้งยังอาจจะมีการทะเลาะกันระหว่างหัวคะแนนด้วยกัน ซึ่งหัวคะแนนจะแตกต่างจากกลุ่มนักศึกษาที่มาคอยถามผลการลงคะแนนเพื่อทำเอ็กซิสโพลล์. รวมทั้งให้สังเกตเรื่องการย้ายทะเบียนเพื่อการเลือกตั้ง โดยให้จับตาไปยังทะเบียนบ้านที่มีคนต่างนามสกุลมาอยู่รวมกันเยอะๆ ถ้าเจอขอให้สันนิฐานเบื้องต้นได้เลยว่าเป็นย้ายทะเบียนบ้านเพื่อให้มีผลต่อการเลือกตั้ง

          นายณัฎฐ์  ยังกล่าวอีกว่า  ส่วนอีกประเด็นที่ต้องจับตาคือนโยบายในการหาเสียงของทุกพรรคการเมือง ซึ่งกฎหมายระบุชัดให้พรรคแจ้งนโยบายต่อกกต.ก่อนจะนำไปหาเสียง เช่น นโยบายจะใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ และหาเงินมาจากแหล่งไหน อีกทั้งต้องบอกถึงข้อดีข้อเสียด้วย เมื่อกกต.อนุมัติแล้วจึงจะนำไปใช้หาเสียงได้ โดยนโยบายหาเสียงจะเริ่มมีผลตอนที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องไปแถลงนโยบายต่อสภา ถึงเวลานั้นจะถูกตรวจสอบว่านโยบายจะสอดคล้องกับนโยบายแห่งรัฐ และยุทธศาสตร์หรือไม่ หากไม่เป็นเรื่องเดียวกัน ก็จะกลายเป็นว่าหาเสียงหลอกลวงมาตั้งแต่ตนหรือไม่ เพราะเมื่อได้รับเลือกแล้วไม่ได้นำนโยบายหาเสียงมาใช้เลย

          "การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นจะเกิดปรากฎการณ์ส.ส.ชักเข้าชักออก และจะไม่นิ่งจนกว่าจะมีการประกาศผลอย่างเป็นทาง หรือเมื่อครบกำหนด 1 ปีหลังการนับคะแนน จะมีส.ส.แบบปาร์ตี้ลิสของบางพรรคเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพราะเมื่อกกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ก็จะมีการคำนวณส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อใหม่ ทำให้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจะขยับไปมา เป็นปรากฎการณ์เป็นส.ส.แค่ข้ามคืน ก็ต้องกลับบ้านไปเลี้ยงลูก และเมื่อมีการคำนวณคะแนนอาจกลับมาเป็นส.ส.ได้อีก" รองเลขาธิการกกต.กล่าว

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ