เปิดตัวเลือดใหม่"ประชาธิปัตย์"ก้าวนอกกรอบ

 

            13 พฤศจิกายน 2561  ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ หรือ ไอติม สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หลานนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค  

 

 

            นำทีม เปิดตัวคนรุ่นใหม่ 'New Dem ก้าวนอกกรอบ' โดยภายในงานมีคณะผู้บริหารพรรคร่วมงานด้วย อาทิ นายอภิสิทธิ์, นายชวน หลีกภัย, นายอลงกรณ์ พลบุตร, นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน, นายพนิษ วิกิตเศรษฐ์ นายจุติ ไกรฤกษ์ เป็นต้น

 

            นายพริษฐ์ กล่าวว่า New Dem ไม่ต้องการนิยามว่ากรอบเดิม ผิดหรือถูก แต่อยากชวนให้ทุกคนตั้งคำถามกับแนวคิดค่านิยมเดิม ๆ สิ่งที่ทำมาจนคุ้นเคย ตนต้องการให้ New Dem นี้เป็นสะพานเชื่อมคนรุ่นใหม่ทั้งในและนอกพรรค ตนขอขอบคุณผู้ใหญ่ในพรรคที่กล้าให้พวกตนแสดงความคิดเห็น เชื่อว่าปัญหาบ้านเมืองและปากท้องของประชาชนต้องการคนรุ่นใหม่มาช่วยคิดหาคำตอบ เพราะหลายเรื่องคนรุ่นใหม่อาจเชี่ยวชาญ หรือมีความสนใจมากกว่า อย่างในเรื่องเทคโนโลยี หรือความหลากหลายในสังคม

 

 

              ทั้งนี้ ยังยืนยันว่า New Dem ไม่ใช่แค่ยุทธศาสตร์การหาเสียงของพรรคเท่านั้น แต่จะเป็นพื้นที่ของคนรุ่นใหม่เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์มีความใหม่และทันยุคสมัยตลอดเวลา และจะนำเสนอแนวความคิดจากคนรุ่นใหม่ให้กับพรรคเพื่อทำเป็นนโยบายต่อไป แม้หลายคนจะไม่คิดว่าพรรคที่เก่าแก่ที่สุดจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ แต่ขอให้ทุกคนรอดูการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้เกิดขึ้นได้จริง ทั้งนี้ กลุ่มคนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์แตกต่างจากคนรุ่นใหม่ของพรรคอื่น คือ ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกหลานของนักการเมือง หรือสืบทอดอำนาจ และคนรุ่นของพรรคพร้อมจะรับฟังและทำงานกับคนทุกรุ่น ซึ่งกลุ่มของการพวกตนต้องการทำการเมืองที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่ความขัดแย้ง 

 

             ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นในงานเปิดตัวคนรุ่นใหม่ 20 คน ในทีม New Dem และแนวคิดที่ต้องการให้พรรครับไปเป็นนโยบายเพื่อขับเคลื่อน อาทิ นายพริษฐ์ เสนอแนวคิดยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และเปลี่ยนเป็นการเกณฑ์แบบสมัครใจ 100% เพราะจากประสบการณ์คนที่ต้องรับภาระเข้ารับราชการทหาร คือ คนที่ไม่มีโอกาสในสังคมเท่าคนอื่น ดังนั้น หากต้องการทำให้แนวคิดนี้เป็นนโยบายที่ทำได้จริง ต้องไม่สร้างศัตรูกับกองทัพ แต่จะต้องทำความเข้าใจกับกองทัพและประชาชน ให้มีกำลังพลเพียงพอ เพิ่มแรงจูงใจในการเข้ารับราชการทหาร คือ เพิ่มสวัสดิการ, ความก้าวหน้าทางอาชีพ, และลดความรุนแรงในค่ายทหาร
 

 

             นพ.คณวัฒน์ จันทรลาวัลย์ หรือ หมอเอ้ก ที่ระบุสนใจการเปิดการค้ากัญชาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด เพราะตอนนี้กัญชากำลังกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่เป็นที่ต้องการของตลาด พร้อมเรียกร้องให้รัฐเปิดโอกาสให้ประชาชนผลิตและสกัดสารของกัญชาออกมา รัฐควบคุมมาตรฐานและความปลอดภัย ส่งเสริมสายพันธุ์กัญชาใหม่ๆ ปกป้องสิทธิบัตร และเปิดตลาดกัญชาโลกให้ไทยมีมาตรฐานทัดเทียม

 

             ด้านนายสุรบถ หลีกภัย หรือปลื้ม ชูแนวคิดการผลักดัน E-Sport ที่ปัจจุบันทำรายได้เกือบหนึ่งหมื่นล้านบาท และจะเติบโตอีกในอนาคต พร้อมทั้งยังสร้างอาชีพ เช่น นักกีฬา E-Sport, แคสเตอร์, และนักพากษ์เกมส์ เป็นต้น
               

 

            นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดอื่น ๆ ของคนรุ่นใหม่ ได้แก่ การลดการใช้ถุงพลาสติกด้วยการคิดราคาถุง และโครงการคืนขวด, E-Government ใช้เทคโนโลยีจองคิวการให้บริการของรัฐ, ดึงข้อมูลออนไลน์มาใช้แทนเอกสารสำคัญ และใช้มือถือแสกนข้อมูลที่เกี่ยวข้องและจำเป็น ติดตามสถานะพัสดุ, แนวคิด Application เรียกรถถูกกฎหมายเพื่อการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม โดยให้กรมการขนส่งทางบกนำธุรกิจประเภทนี้เข้าสู่ระบบ รวมถึงการควบคุมให้ไม่เอาเปรียบแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์, แนวคิดความเท่าเทียมระหว่างหญิงกับชาย ยุติความรุนแรงในสังคม, แนวคิดส่งเสริมคราฟเบียร์ หรือสุราพื้นบ้านสร้างรายได้ให้กับประเทศ และสร้างอาชีพในชุมชน,

 

           แนวคิดผลักดันความรู้เรื่องกฎหมาย เพิ่มหลักสูตรกฎหมายในชั้นมัธยมศึกษา และจัดตั้งองค์กรที่ให้ความรู้และช่วยเหลือกฎหมายให้กับประชาชนโดยตรง, แนวคิดใช้เทคโนโลยีพัฒนาการเกษตรยุคใหม่, แนวคิดสนับสนุนอาชีพฟรีแลนซ์หรือแรงงานนอกระบบ, แนวคิด E-learning ให้ทุกคนเข้าถึงระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ ผ่านออนไลน์, และแนวคิดการสมรสของบุคคล ไม่ใช่แค่เพศชายหรือหญิง ไม่ว่าเพศไหนก็แต่งงานกันได้ รวมทั้งการแก้ไขคำนำหน้านาม เป็นต้น

 

 

            ขณะที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจที่มีคนรุ่นใหม่จำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นในที่ ซึ่งเมื่อก่อนตนก็เคยเป็นแบบนี้ แต่ที่ผ่านมาหลายปีได้ทำหลายสิ่ง และยังไม่ได้ทำอีกหลายสิ่ง แต่พรรคเปิดโอกาสให้ตนและวันนี้พรรคก็เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ แนวความคิดต่าง ๆ จะทำได้ ทำไม่ได้ เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยจะต้องนำมาพูดคุยกัน ซึ่งความคิดที่หลากหลายและแตกต่างเหล่านี้จะถูกผสมผสานเพื่อพัฒนาประเทศต่อไป โดยการทำงานหลังจากนี้จะเป็นการจับคู่บัดดี้ระหว่างคนรุ่นใหม่ และอดีต ส.ส. ของพรรคเพื่อสอนงาน หรือแลกเปลี่ยนแนวความคิดซึ่งกันและกัน ส่วนประชาชนที่สนใจอยากเป็นสมาชิกของกลุ่มก็สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางแฟนเพจ New Dem