สุดคึกคักบรรยากาศก่อนดีเบต"ว่าที่หัวหน้าปชป."

 

             26 ตุลาคม 2561  ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศงานดีเบต เพื่อหาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ภายใต้ชื่องาน "ดีเบตประชาธิปัตย์ คนไทยจะได้อะไร" ที่พรรคประชาธิปัตย์​ เป็นไปอย่างคึกคัก  

 

             โดยมีกองเชียร์ แม่ยก และกลุ่มคนที่มาตามให้กำลังใจผู้สมัคร ซึ่งประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้สมัคร หมายเลข 1 , นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้สมัคร หมายเลข 2 และ นายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครหมายเลข 3 จับกลุ่มอยู่ตามเต้นท์ที่พรรคจัดไว้ให้ 

 

             โดยส่วนที่สร้างความคึกคักมากที่สุด คือ กลุ่มของนพ.วรงค์​ที่ได้นำกองยาว สร้างความคึกคักให้กับกองเชียร์​ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ โดยเมื่อ. 14.15 น. นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางมาถึงเป็นคนแรก และได้ทักทายแฟนคลับของนายอลงกรณ์ ก่อนเดินขึ้นห้องทำงานทันที ขณะที่นพ.วรงค์ ซึ่งเดินทางมาถึงสถานที่ดีเบตพร้อมกับนายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรค ในเวลาใกล้เคียงกัน ได้เข้าไปทักทายกับกลุ่มกองเชียร์ และถ่ายภาพร่วมกัน 
ขณะที่นายอลงกรณ์​เดินทางมาถึงเป็นคนสุดท้าย และได้เข้าทักทายกับกลุ่มกองเชียร์ที่ปักหลักอยู่บริเวณด้านหน้าพรรค

 

 

              ทั้งนี้นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม. ฐานะผู้จัดงานดีเบต เปิดเผยว่าในเวทีผู้สมัครเข้ารับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค จะต้องตอบคำถาม ที่ทีมงานเตรียมไว้ จำนวน 9 คำถาม แบ่งเป็นมาจากพิธีกรที่เลือกจากเป็นผู้มีความเป็นกลางในการทำหน้าที่ คือ นายกิตติ สิงหาปัด ผู้ดำเนินรายการข่าวสามมิติ และนาย ณ กาฬ เลาหะวิใลย ผู้บริหารจากเครือโพสต์พับลิชิ่ง จำนวน 6 คำถาม และมาจากไลน์แอด จำนวน 3 คำถาม โดยผู้สมัคร มีเวลาตอบ คนละ 1.30 นาที

 

             ทั้งนี้หากระหว่างการตอบคำถามพบข้อพาดพิง จะให้สิทธิ์ผู้ที่ถูกพาดพิงชี้แจงได้ โดยมีเวลา 1.30 นาทีเช่นกัน ขณะที่พื้นที่จัดงานดีเบตนั้นกำหนดให้กองเชียร์ผู้สมัคร เข้าพื้นที่จัดงาน ได้กลุ่มละ 20 คน ส่วนที่เหลือได้จัดพื้นที่ให้ตามเชียร์และติดตามการดีเบตทางจอแอลอีดีขนาดใหญ่ที่ติดตั้งไว้รอบพื้นที่พรรค เพื่อถ่ายทอดสดการดีเบตมายังพื้นที่ด้านนอก

 

             ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับการดีเบตรอบนี้จะมีถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์และ สื่อโซเชียลของพรรคประชาธิปัตย์ สำหรบการลงคะแนนเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค จะเกิดขึ้นในต้นเดือนพฤศจิกายน แบ่งเป็น วันที่ 1 - 3 พฤศจิกายน ให้สมาชิกที่มีสิทธิ์ ลงคะแนนเลือกผ่านแอพพลิเคชั่น และ มีลงคะแนนผ่านคูหาเลือกตั้ง โดยแบ่งเป็น วันที่ 1 พฤศจิกายน ลงคะแนนพื้นที่ภาคเหนือ, ภาคกลาง และกทม. และ วันที่ 5 พฤศจิกายน ลงคะแนนพื้นที่ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.