ข่าว

"วราวุธ" ชี้นักการเมืองมีบทเรียนไม่ขัดแย้งจนปฏิวัติอีก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วราวุธ" ชี้นักการเมือง มีบทเรียน ไม่สร้างเงื่อนไข ขัดแย้ง จนปฏิวัติอีก ย้ำฝ่ายการเมืองไม่ต้องทำสัตยาบรรณ แค่ลงมือทำให้เห็น เผยเตรียมประชุมใหญ่ 26 ต.ค.นี้

 

          วันที่ 18 ต.ค. 2561 นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำคนรุ่นใหม่พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวภายหลังการร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อเตรียมการประชุมใหญ่สามัญของพรรควันที่ 26 ต.ค. นี้ โดยประเด็นสำคัญ คือการแก้ไขข้อบังคับพรรคให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 รวมถึงกำหนดกรอบรายละเอียดที่ใช้ในการขับเคลื่อนพรรคการเมือง  

 

          ทั้งนี้ในวันประชุมใหญ่ดังกล่าวจะมีการเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งตนยืนยันว่าคนของพรรคจะร่วมทำงานแบบผสมผสานกัน ทั้งคนรุ่นหนุ่มและคนรุ่นที่ทำงานอยู่ก่อนหน้านี้ ดังนั้นการเลือกผู้ดำรงตำแหน่งของพรรคชุดใหม่จึงไม่ใช่การแข่งขัน

 

          "ที่ผ่านมายอมรับว่ามีความเข้าใจผิดต่อบทบาทภายในพรรค แต่ได้ปรับความเข้าใจแล้ว และภายใต้การนำของคนชาติไทยพัฒนาไม่ว่ารุ่นไหน ผมยืนยันว่าจะทำให้พรรคมั่นคง เข้มแข็ง และยั่งยืน ไม่แพ้พรรคการเมืองอีกหลายพรรคแน่นอน อย่างไรก็ตามในวันประชุมใหญ่ขอพรรค จะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์อย่างแน่นอน โดยเฉพาะการเปิดตัวสมาชิกพรรคที่เป็นอดีต ส.ส.ซึ่งย้ายมาสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา"  นายวราวุธ กล่าว

 

          นายวราวุธ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ระบุไม่รับประกันว่าจะไม่มีรัฐประหาร เพราะเงื่อนไขดังกล่าวขึ้นอยู่กับฝ่ายการเมือง ว่า ตนยอมรับว่าก่อนการรัฐประหาร ปี 2557 ปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากนักการเมือง แต่ตั้งแต่การรัฐประหาร ถึงปัจจุบัน กว่า 4 ปี สังคม และนักการเมือง ได้เรียนรู้ในหลายประเด็น และเชื่อว่าจะไม่ทำสิ่งที่สร้างเป็นเงื่อนไขให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง ทั้งนี้ตนเชื่อว่าสิ่งที่พล.อ.อภิรัชต์ ระบุนั้น ฝ่ายการเมืองจะไม่ทำให้เกิดขึ้นแน่นอน

 

          ผู้สื่อข่าวถามว่านักการเมืองจะแสดงหรือรวมตัวเพื่อไม่สร้างเงื่อนไขขัดแย้งได้อย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า ตนมองว่าไม่จำเป็นต้องทำสัตยาบรรณ หรือจุดยืนอะไร เพราะประเด็นดังกล่าวขึ้นอยู่กับพฤติกรรม และตนเชื่อว่าขณะนี้สังคมจับตาฝ่ายการเมือง ดังนั้นนักการเมืองต้องปฏิบัติตัวเพื่อไม่เป็นเงื่อนไขหรือข้ออ้างใดๆ ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าฝ่ายผู้มีอำนาจจะเป็นคนสร้างเงื่อนไขเองนั้น ตนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะฝ่ายผู้มีอำนาจ คือ ผู้มีอำนาจในมือ และยังได้รับความนิยม ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดที่ผู้มีอำนาจจะสร้างเหตุการณ์ความไม่สงบ ทั้งก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง.

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ