บิ๊กป้อมปัด คสช. ตั้งธงยุบเพื่อไทย - ให้ ศรีวราห์ ทำคดีหมีขอ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง การตั้งข้อสังเกตว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เบื้องหลังการดำเนินกิจการทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อธรรม และพรรคเพื่อชาติ ว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบ ตนเองเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่เป็นหน้าที่ของ กกต.ที่ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของพรรคกการเมืองว่ามีบุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกอยู่เบื้องหลังหรือไม่ และต้องดูว่ามีการกระทำผิดกฎหมายหรือผิดการดำเนินการทางการเมืองหรือไม่ หากผิดกฎหมายจะเป็นเรื่องของตนเอง แต่หากผิดทางการเมือง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)จะต้องดำเนินการ ต่อไป

พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยืนยัน คสช.ไม่ได้มีแผนยุบพรรคการเมือง ขออย่าโทษ คสช. เพราะเป็นความรับผิดชอบและการดำเนินการของกกต. ส่วนพรรคเพื่อไทยที่มีกลยุทธ์จะยุบพรรคเพื่อไทยโดยเตรียมพรรคเพื่อธรรมหรือพรรคเพื่อชาติไว้สำรองก่อนการเลือกตั้งนั้น ส่วนตัวมองว่าหากไม่ได้กระทำผิดจะกลัวทำไม เพราะพรรคอื่นๆก็ไม่กลัว

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึง การกวาดล้างนักท่องเที่ยว ที่อาศัยเกินกำหนด ว่า ได้จับกุมไปแล้วกว่า 1 พันคนและกำลังเดินหน้ากวาดล้างต่อไป ส่วนการพักอาศัยเกินกำหนดเวลาจะมีกลุ่มมาเฟียต่างชาติรวมอยู่ด้วยหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ที่ไม่มีการกวดขัน เพราะชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่เกิดกำหนดส่วนใหญ่มาเพื่อทำงาน ซึ่งก็อาจจะมีทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ส่วนเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมีส่วนรู้เห็นหรือไม่นั้น มองว่าคงไม่มี แต่คงเป็นเรื่องของเจ้าหน้าขาดแคลนจึงเกิดการปล่อยปะละเลย และได้กำชับไปแล้วโดยให้เวลา 1 เดือนในการกวาดล้างเรื่องนี้

พร้อมกันนี่ พล.อ.ประวิตร กล่าวถึง กรณีที่ แอดมินเพจ ซีเอสไอแอลเอ ระบุข้อมูลกรณีชาวต่างชาติคนหนึ่งแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างเป็นผู้ช่วยของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนบัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ขอเรียกรับเงินจำนวนสองล้านบาทมีส่วนเกี่ยวข้องโดยการเรียกรับเงินจากต่างชาติ เพื่อเป็นค่าคุ้มครอง โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าส่วนตัวยังไม่เห็นเรื่องนี้ พร้อมระบุว่า พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เป็นคนทำงาน เยอะอาจโดยพาดพิงเป็นเรื่องธรรมดาแต่อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวจะต้องได้รับการตรวจสอบทั้งหมด

พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนไม่มั่นใจการทำงานคดีล่าหมีขอ กลางอุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี ของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่หลายฝ่ายเกรงว่าอาจจะซ้ำรอยการทำคดีฆ่าเสือดำ ว่า เป็นหน้าที่ของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ที่ต้องรับผิดชอบ ส่วนตัวขอรับรองการทำงานของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ว่าจะไม่มีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา และเรื่องหมีขอ ก็ไม่เห็นจะมีผลประโยชน์อะไรเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงต้องให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เป็นผู้รับผิดชอบ เพราะดูแลคดีเรื่องความมั่นคง

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงความคืบหน้าของเหตุวัยรุ่นใช้อาวุธสงครามกราดยิงคู่อริ จนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตบริเวณประตูน้ำ ว่า ขณะนี้ตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 1 ราย และต้องทำการสืบสวนขยายผลต่อไป แต่ยังไม่ชัดเจนว่า ทั้งสองเป็นลูกน้องของผู้มีอิทธิพลบริเวณประตูน้ำและบางซื่อหรือไม่ เพราะต้องรอให้ตำรวจตรวจสอบก่อน แต่อาจจะเป็นเรื่องของตัวบุคคล ทั้งนี้ ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปให้มีความมั่นใจโดยเฉพาะการกวาดล้างอาวุธสงครามที่นำมาใช้ก่อเหตุ ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะใช่กลุ่มผู้มีอิทธิพล หรือ มาเฟีย แต่เป็นการทะเลาะกันเองของวัยรุ่น เพราะที่ผ่านมาได้กวาดล้างจับกุมผู้มีอิทธิพลมาโดยตลอด

ส่วนการเยียวยานักท่องเที่ยวที่บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่จะต้องดำเนินการ