"บิ๊กป้อม" เชื่อชาวบุรีรัมย์โห่ต้อนรับไม่ได้ไล่

              เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 61 ที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง กระแสข่าวถูกชาว จ.บุรีรัมย์ โห่ หลังไปเปิดงานโมโตจีพี ว่า

              เขาโห่ต้อนรับ ไม่ได้โห่ไล่ โห่ให้รองนายกฯ ถ้าโห่ไล่ เขาก็ต้องขว้างสิ่งของใส่ เขาจะมาโห่ไล่ทำไม ไปทำงานให้เขา ซึ่งตนก็ได้ยิน เพราะเสียงดัง ไม่ได้รู้สึกดีใจอะไร ก็รู้สึกปกติ ส่วนที่โซเชียลระบุว่าเป็นการโห่ไล่นั้น ยืนยันว่า เขาต้อนรับอย่างดี ส่วนคุณเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็ดี ไม่มีอะไร ส่วนที่ตนลงพื้นที่ภาคอีสานบ่อยนั้น ไปทำงานในเรื่องของหนี้นอกระบบ และวันที่ 26 ต.ค. นี้ ก็ไป จ.ศรีสะเกษ

              เมื่อถามถึงกรณี นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา ถ้าเขาเห็นพรรคดี เขาก็เข้า ถ้าเห็นพรรคไม่ดี เขาก็ไม่เข้า เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งก็แล้วแต่ว่าเขาจะสมัครพรรคไหน ส่วนความเคลื่อนไหวของแกนนำพรรคเพื่อไทยเดินทางไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ฮ่องกงนั้น เราปล่อยให้เขาออกนอกประเทศได้แล้ว เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ว่าเขาจะไปทำอะไร ส่วนจะผิดในลักษณะการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่ ต้องไปถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง ส่วนกรณีที่ 4 รัฐมนตรีลาออกนั้นจะเป็นบรรทัดฐานที่ดีหรือไม่ เป็นเรื่องของเขา เขาคิดของเขาเอง

              พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีการขีดเส้นให้ตำรวจนำชาวต่างชาติที่ผิดกฎหมายออกนอกประเทศภายใน 1 เดือน ว่า ขณะนี้มีคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและประกอบธุรกิจในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ตนได้สั่งตำรวจไปแล้ว ให้กวาดล้างให้เสร็จสิ้นภายใน 1 เดือนนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการอยู่ ยืนยัน ไม่ได้มีการคาดโทษตำรวจ ถ้าหาไม่เจอก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าหาเจอก็ให้เอาออกให้หมด ซึ่งเขาเข้ามาในรูปแบบของนักท่องเที่ยว แล้วไม่ยอมออก และเราก็ไม่ได้ติดตามว่าจะออกเมื่อไหร่ ก็ต้องกวาดล้าง ซึ่งเราก็ต้องประสานข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อกวาดล้างให้หมด ส่วนใหญ่ก็ทำสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งเราก็เอาออกไปเยอะแล้ว

              "ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ซึ่งยอมรับว่ามีเป็นจำนวนมาก อยู่ในแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ กรุงเทพฯ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ต้องเอาออกให้หมด อย่างไรก็ตาม อยากให้ประชาชนที่ทราบข้อมูลช่วยแจ้งเบาะแส หากเจอพวกที่อยู่นานเกินไปให้แจ้งตำรวจได้เลย" พล.อ.ประวิตร กล่าว

              พล.อ.ประวิตร กล่าวถึง กรณีเจ้าหน้าที่จับกุมกลุ่มรถออฟโรดพร้อมปืนไรเฟิลติดลำกล้องและอุปกรณ์เก็บเสียง กระสุนปืนจำนวนหนึ่ง พร้อมซากสัตว์ป่าคือ หมีขอ โดยมีนายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี นำทีม ว่า กำลังสอบสวนอยู่ หากทำผิดก็ดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อ กรณีที่ปลัดอําเภอปฏิเสธว่ามีส่วนรู้เห็น ส่วนจะไปซื้อมาจริงหรือไม่ก็ต้องสอบสวน

              เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐทำผิดกฎหมายเอง ทำให้เสียภาพพจน์ของข้าราชการหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของตัวบุคคล ไปว่าข้าราชการทั้งหมดคงไม่ได้ แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมเขาด้วยว่าเขาทำจริงหรือไม่

              ส่วนการดำเนินคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่ถูกเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรเข้าจับกุม หลังพบตั้งค่ายพักในบริเวณจุดห้ามตั้ง และฆ่าเสือดำโดยเจตนานั้นกำลังดำเนินคดีกันอยู่ ยืนยันว่า เรื่องไม่ได้เงียบ และศาลก็ยังไม่ตัดสิน จะบอกว่าเรื่องเงียบได้อย่างไร เขาดำเนินการตามกระบวนการอยู่แล้ว อย่าไปพูดเช่นนั้น

              พล.อ.ประวิตร กล่าวถึง การใช้อาวุธสงครามกราดยิงนักท่องเที่ยวจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บแถวประตูน้ำ กทม. ว่า ก็ต้องตรวจสอบ โดยเฉพาะอาวุธที่ผิดกฎหมาย ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมาเราสามารถกวาดล้างอาวุธสงครามได้เป็นจำนวนมากแล้ว โดยเฉพาะอาวุธปืนมีกว่าพันกระบอก