ข่าว

"บิ๊กตู่" เล็งขึ้น "ภาษีบุหรี่" บอกกำลังพิจารณา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กตู่" เล็งขึ้น "ภาษีบุหรี่" บอกกำลังพิจารณา เผยยากอะไรหลัง "โสมขาว" ปล่อยแรงงานไทยผิดกฎหมายก็กลับมา ลั่นต้องไม่มีเรียก "ทิป" นักท่องเที่ยวเข้าประเทศเด็ดขาด

 

        2 ต.ค.61-ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.กล่าวภายหลังการประชุมครม.ถึงกระแสข่าวที่กระทรวงการคลังจะเสนอครม.ขึ้นภาษีบุหรี่ซองละ 2 บาทเพื่อนำรายได้มาสนับสนุนการดูแลสุขภาพประชาชนของกระทรวงสาธารณสุขว่า กำลังพิจารณาอยู่ ยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง 

        ส่วนกรณีที่ทางการเกาลีใต้จะส่งกลับแรงงานไทยที่หลบหนีทำงานอย่างผิดกฎหมายกลับประเทศไทยมาก่อนโดยไม่ดำเนินคดีนั้น นายกฯ ว่า "ก็กลับมาสิ จะยากอะไร"

        "บิ๊กตู่" เล็งขึ้น "ภาษีบุหรี่" บอกกำลังพิจารณา

"บิ๊กตู่" เผย สิ่งที่ริเริ่มวันนี้เป็นอนาคต ขออภัยมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง บอก วันนี้ฝืนโลกยุคโลกาภิวัฒน์ไม่ได้ ต้องใช้ "เทคโนโลยี-ดิจิทัล" ขับเคลื่อน

         
          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าที่ประชุมมีการพูดคุยกันหลายเรื่อง เป็นเรื่องที่จะเป็นความก้าวหน้า การเดินหน้าเรื่องดิจิทัล โดยสิ่งที่อยากจะย้ำคือเราต้องหาช่องทางให้เจอ อย่างเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีความคืบหน้า สามารถไปผูกกับบัตรต่างๆ หลายอย่าง และทำให้เกิดความหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ และมีเงินออกมาใช้ในระบบ ทุกอย่างต้องไปทีละขั้น ในแต่ละขั้นอาจจะมีปัญหา มีข้อขัดข้องหลายอย่างเพราะมีการใช้เทคโนโลยี ใช้ดิจิทัลเข้ามาทำงาน มันก็คงต้องมีปัญหาแน่นอน เพราะมันเป็นเครื่องมือหนึ่ง แต่มันต้องแก้ได้เพราะคนเป็นคนทำ คนก็ต้องแก้ 

        "ต้องขออภัยหากมีข้อบกพร่องอยู่บ้างในฐานะที่เป็นรัฐบาล แต่สิ่งที่เราริเริ่มวันนี้มันเป็นอนาคต วันนี้เราฝืนโลกยุคโลกาภิวัฒน์ไม่ได้ โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม มาเป็นแรงขับเคลื่อน และใช้ดิจิทัลมาเป็นแรงสนับสนุน จะเห็นได้ว่ารัฐบาลนี้ทำทุกอย่าง กว่าจะทำได้ก็ 4 ปีผ่านมาแล้ว เพราะต้องแก้ไขกฎหมาย และขั้นตอนต่างๆ ต้องดูเป็นประเด็นๆ ไป อย่างเรื่องของบุคคลที่ใช้เลข 13 หลัก ก็อาจใช้ได้ในบางกรณี ไม่ใช่ว่าทุกคนจะใช้ได้หมดทีเดียว มันไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาเราไม่ได้สร้างความเชื่อมโยงไว้มากเท่าไหร่ วันนี้รัฐบาลมีการลงทุนมากมาย ซึ่งระบบใหญ่ทั้งหมดอยู่ที่กระทรวงดิจิทัลฯ ย่อยลงมาก็อยู่ที่กระทรวงต่าง ๆ ซึ่งจะมีคณะกรรมการจัดทำงบประมาณในการพัฒนาระบบดิจิทัลของทุกหน่วยงานให้ประสานสอดคล้องกันให้ได้" นายกฯ กล่าว


"บิ๊กตู่" เผย "กษ." กำลังสอบ ปัญหาจัดสรรสิทธินมโรงเรียนไม่เป็นธรรมแล้ว ขณะที่ "กฤษฏา" เด้งรับ ตั้ง คณะทำงานไต่สวนข้อเท็จจริง "อสค." หากจริงตามข้อกล่าวหา ตั้งกรรมการสอบทันที               

          พล.อ.ประยุทธ์  กล่าวถึงกรณีสมาคมกลุ่มเกษตรกรผู้รวบรวมน้ำนมดิบและสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ร้องเรียนปัญหาการจัดสรรสิทธินมโรงเรียนไม่เป็นธรรมว่า ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการแล้ว กำลังดำเนินการตรวจสอบในทุกประการอยู่ ขณะนี้กำลังรอความคืบหน้าและการรายงานของกระทรวงเกษตรฯ ต่อไป            

          ขณะที่นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการโดยมีการหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากได้ตั้งคณะทำงานรัฐมนตรีไปไต่สวนข้อเท็จจริงการทำงานขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) ว่าการบริหารในโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียน มีผลประโยชน์ทับซ้อน ตามที่สมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ร้องเรียนหรือไม่ หากคณะทำงานที่ตั้งไปพบร่องรอยตามข้อกล่าวหา ก็จะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง      

         นายกฤษฏา กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้สั่งการทุกฝ่ายเกี่ยวข้องให้ไปหารือเรื่องปริมาณนมดิบแต่ละวัน และให้แยกกองให้ชัดว่าเป็นนมโรงเรียนเท่าไหร่ นมพาณิชย์เท่าไหร่และให้แยกลงไปรายละเอียดว่าเป็นนมพาสเจอร์ไรส์ เท่าไหร่ และนมยูเอชทีเท่าไหร่ หาสูตรให้ชัดแล้วมาคุยกัน เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และหลักเกณฑ์ต้องเป็นธรรมด้วย

         "บิ๊กตู่" เล็งขึ้น "ภาษีบุหรี่" บอกกำลังพิจารณา


"บิ๊กตู่" สั่ง ฝ่ายความมั่นคง เล่นงานเจ้าหน้าที่ทำภาพลักษณ์ท่องเที่ยวเสียหาย ลั่น ต้องไม่มีเรียกทิปเด็ดขาด ฮึ่ม พวก ล้อมข่มขู่นทท. ไม่ถูกต้อง ปชช.ต้องช่วยดู                      

           พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวหลังการประชุมครม.ถึงปัญหาภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยหลังมีการเรียกรับสินบนเพื่ออำนวยความสะดวกเข้าประเทศ ว่า ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวก็เป็นปัญหาทั้งสองฝ่ายด้วยกัน มันต้องแก้ไขทั้งสองทางทั้งเจ้าหน้ารัฐและในส่วนของประชาชนเจ้าของบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพที่แพร่กระจายในโซเชียลมีเดียบางทีมันก็เป็นผลกระทบสำคัญเหมือนกัน แต่อยากเรียนว่าการท่องเที่ยวในวันนี้ยังคงสภาพเดิมอยู่ ถึงแม้จะลดลงก็ไม่มากนัก ด้วยปัจจัยความไม่มั่นคง ไม่ปลอดภัย ภัยพิบัติลมฟ้าอากาศต่างๆ ก็เป็นธรรมดาของเรื่องการท่องเที่ยว รวมถึงเรื่องเศรษฐกิจภายในประเทศของบรรดานักท่องเที่ยวจะมีผลต่อการท่องเที่ยวทั้งสิ้น แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือภาพลักษณ์ของเราที่ต้องดำเนินการ เรื่องนี้ได้สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย(ทอท.)โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคง รองนายกฯได้สั่งการให้มีการลงโทษ ไล่ออก พักราชการต่างๆ จะต้องทำให้เกิดความจริงจังมากยิ่งขึ้น                          

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนที่ต้องแยกออกจากกันคือเรื่องของวีซ่าต่างๆการถ่ายรูปต่างๆ ทางพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบ.สตม. คนใหม่ได้ไปแก้ไขปัญหาเหล่านี้แล้ว จะต้องไม่มีการเรียกรับทิป จะต้องไม่มีอีกทั้งสิ้นโดยเด็ดขาด ตนสั่งการไปแล้วว่าโทษถึงขั้นออกจากราชการหรือพักงานหรือวินัยต่างๆ ซึ่งปัญหามันยังคงมีอยู่เพราะคนไม่ดีก็มีอยู่ควรต้องแก้ไขให้ได้ ส่วนกรณีของคนขับรถแดงทะเลาะวิวาทแกร็บคาร์ที่จ.เชียงใหม่ก็ไปแก้ไขให้ได้ มันก็ต้องแก้สองอย่าง เจ้าหน้าที่เองถ้าถามว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ผิดไม่ผิดก็ไปว่ากันอีกทีกระทรวงคมนาคมต้องไปหาคำตอบมาว่ามันผิดหรือไม่ผิด แต่ในส่วนภาพลักษณ์การล้อมข่มขู่นักท่องเที่ยวมันไม่ถูกต้องขอให้ประชาชนช่วยกันด้วย

 

            "บิ๊กตู่" เล็งขึ้น "ภาษีบุหรี่" บอกกำลังพิจารณา

ครม.เห็นชอบ ร่างยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว บิ๊กตู่จ่อบินร่วมประชุมวันที่ 8-9 ต.ค.นี้

 

         ด้าน พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ที่ประชุม เห็นชอบต่อร่างยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว ค.ศ. 2018 เพื่อความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น สืบเนื่องมาจากที่ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น (Mekong-Japan Summit) ครั้งที่ 10 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 8-9 ต.ค. 2561 โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งที่ประชุมจะพิจารณารับรองร่างยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว ค.ศ. 2018 เพื่อความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นแต่จะไม่มีการลงนาม โดยสาระสำคัญของร่างดังกล่าว คือ การดำเนินการตามแผนแม่บท ACMECS ระยะ 5 ปี (ค.ศ. 2019 - 2023) ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง  รวมถึงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่จะสะท้อนไปในทิศทางเดียวกับโลก ที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กำหนดไว้

          พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสาขาความร่วมมือจะแบ่งเป็น 3 เสาหลักคือ เสาที่1 การพัฒนาความเชื่อมโยงที่ดีและมีประสิทธิภาพ ที่จะมีการเชื่อมโยงด้านกายภาพ กฎระเบียบและอุตสาหกรรม เสาที่2การสร้างประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง  และเสาที่3 การสร้างความเป็นรูปธรรมในการตระหนักรู้ต่ออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงสีเขียว โดยจะรวมไปถึงความเสี่ยงต่อภัยพิบัติ  การเปลี่ยนแปลงจากสภาพภูมิอากาศ  เป็นต้น

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ