"คสช."หารือเตรียมตั้ง"สำนักงานป.ย.ป."ด้าน"ไก่อู"แจงไม่มีอำนาจสั่งการรัฐบาลอนาคตแค่ประสานงานเท่านั้น
25 กันยายน 2561 พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ที่ประชุมคสช.หารือเรื่องกลไกการขับเคลื่อนและการปฏิรูปประเทศ
โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคสช.เป็นห่วงว่าเรื่องดี ๆ ที่รัฐบาลและคสช. ได้เริ่มต้นไว้ เมื่อสิ้นสุดรัฐบาลนี้จะไม่ได้อยู่ถาวร ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศในด้านต่าง ๆ การเร่งรัดยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ซึ่งสถานการณ์บ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร รวมถึงนายกฯคนใหม่จะรับภารกิจเหล่านี้ไหวหรือไม่
ดังนั้นที่ประชุมจึงมีการเสนอจัดตั้งสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ให้ทำหน้าที่บูรณาการ กลั่นกรองข้อมูล เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการตรวจสอบข้อร้องเรียน ที่กระทรวงอาจจะไม่ได้ทำตามแผนยุทธศาสตร์ แผนปฏิรูป เป็นต้น และช่วยเหลือกระทรวงต่าง ๆ เนื่องจากบางเรื่องกระทรวงกลัวว่าจะมีการก่อม็อบเคลื่อนไหว จึงขอให้มีการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาติดตามรับฟังและอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ก่อนที่ข้อมูลต่างๆเหล่านี้จะไปถึงนายกฯ ทั้งนี้สำนักงานดังกล่าวไม่มีอำนาจสั่งการ มีเพียงการติดตามผลประสานงาน และช่วยแก้ปัญหาในบางเรื่องเท่านั้น
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า การตั้งสำนักงานดังกล่าว เนื่องจากพบว่าในปัจจุบันนายกฯเหมือนทศกัณฐ์ ควบคุมหน่วยงานต่าง ๆ และคณะกรรมการจำนวนมาก เช่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) คณะกรมการประสานและขับเคลื่อนนโยบายสานพลังประชารัฐประจำจังหวัด (คสป.)คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน (กขป.) คณะกรรมการติดตามการปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาล (คตน.) สำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (พีเอ็มดียู) ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เป็นต้น ซึ่งคณะกรรมการเหล่านี้จะรายงานข้อมูลต่างๆโดยตรงไปยังนายกฯ จึงควรมีสำนักงานขึ้นมากำกับดูแลหน่วยงานย่อยๆเหล่านี้
"โดยในที่ประชุมคสช.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ อธิบายเพียงหลักการว่าสำนักงานดังกล่าวจะเป็นหน่วยงานในลักษณะของกรม มีข้าราชการจำนวนไม่มาก เพื่อติดต่อประสานงาน ซึ่งเขาให้อำนาจนายกฯสามารถนำเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสภาพัฒนาการเมือง และคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย เป็นต้น ไปทำงานในสำนักงานใหม่ได้ เนื่องจากหน่วยงานเหล่านี้ถูกยุบไปแล้ว แต่ยังมีเจ้าหน้าที่อยู่ โดยหัวหน้าหน่วยงานจะเป็นระดับซี 11 แต่ขณะนี้ยังไม่มีการพูดถึงว่าจะเป็นใคร และหลังจากนี้ที่ประชุมได้ให้นายวิษณุไปดูรายละเอียดการจัดตั้ง อย่างไรก็ตาม การหารือดังกล่าวจะยังไม่ออกเป็นมาตรา 44 " พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง