นัดถก"อภิสิทธิ์" ข้องใจกติกาหยั่งเสียงชิงแม่ทัพพรรค

           20 ก.ย.61-นายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.สงขลาและอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่สนับสนุน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก ลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า  ได้หารือกับทีมงานและอดีต ส.ส.หลายคน ซึ่งยังสงสัยในระเบียบข้อบังคับพรรคในการเลือกหัวหน้าพรรคที่ทีมงานของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยกร่างซึ่งยังมีบางประเด็นไม่ชัดเจน ดังนั้น ในวันที่ 21 ก.ย.  ตนและนพ.วรงค์ ควมถึงทีมงานบางส่วนจะเข้าพบนายอภิสิทธิ์ในเวลา 13.00 น.ที่พรรคเพื่อขอทราบความชัดเจนของกติกาก่อนนำเข้าที่ประชุมใหญ่ของพรรค ในวันที่ 26 ก.ย.นี้ เพราะที่ผ่านมาเป็นการประชุมกรรมการบริหาร(กก.บห.)พรรค โดยที่อดีต ส.ส.ไม่ได้ทราบรายละเอียด จึงเกิดคำถามอยู่ในใจก็ต้องไปพูดคุยให้เกิดความกระจ่าง

          ทั้งนี้ มีหลายประเด็นที่ยังมีข้อสงสัย เช่น สิทธิของสมาชิกพรรคที่จะลงคะแนนหยั่งเสียง แทนที่จะการนับคะแนน 1 คน 1 เสียง แต่กลับคำนวณเป็นสัดส่วน ไม่เท่าเทียมกับอดีต ส.ส.และตัวแทนที่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาเป็นองค์ประชุมใหญ่ ทั้งที่มีความเป็นสมาชิกเท่ากัน รวมถึงแอพพลิเคชั่นที่จะใช้ในการลงคะแนนก็ควรมีคนกลางตรวจสอบในระบบการประมวลคะแนน แทนการใช้คนเพียงคนเดียวประสานบริษัทเอกชนออกแบบ เพื่อให้กก.บห.พรรคที่ว่าจ้างบริษัทมาทำ จะได้ไม่มีข้อครหา นอกจากนี้จะหารือถึงห้วงเวลาของการรับสมาชิกใหม่เพื่อให้สมาชิกเดิมได้กลับเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกหัวหน้าพรรคด้วย

พูดตรงขอแบบวันแมนวันโหวต ไม่เอาระบบสัดส่วน

            "ขอย้ำว่าคะแนนของสมาชิกพรรคที่จะเข้าสู่การโหวตหยั่งเสียง ไม่ควรกำหนดค่าน้ำหนักเป็นสัดส่วนแบบรายจังหวัดที่จะทำให้ที่ประชุมใหญ่ลดทอนลงมา เพราะไปเขียนให้บางกลุ่มมีค่าน้ำหนักเสียงของสมาชิกมาก น้อย แทนที่จะใช้แบบวันแมนวันโหวต แต่กลับไปใช้แบบอิเลคโทลัน โหวต แบบสหรัฐอเมริกา ทั้งที่ไทยเป็นรัฐเดียว ไม่มีหลายมลรัฐแบบสหรัฐฯ  และกรณีการทำแอพพลิเคชั่นก็ควรให้คนของทั้งสองใ่ายมีส่วนร่วมรับรู้  แม้จะอ้างเป็นเทคโนโลยี แต่ก็ทราบดีว่าปัจจุบันสามารถแฮ็ค เจาะข้อมูลได้ หากมีคนไปพูดขยายความว่าคนนั้น คนนี้ทำ พรรคก็จะเสียหาย  นี่เป็นความสงสัยของเรา เราจึงขอไปทำความเข้าใจ อันไหนที่น่าจะเปลี่ยนได้ก็ควรเปลี่ยน อันไหนที่ดีแล้ว เราก็พร้อมจะยอมรับ ไม่มีปัญหา เป็นเรื่องภายในของพรรคที่คิดว่าพี่น้องน่าจะคุยกันได้ เพราะทั้งสองทีมที่ลงแข่งขันต่างก็รักพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกัน เราไม่อยากให้พรรคเสียหาย ซึ่งสุดท้ายต้องแล้วแต่ที่ประชุมใหญ่พรรค เราเดินเข้าไปเพื่อขอหลักการเหตุผล ถ้าขอให้เปลี่ยนได้ก็ดี  การพูดคุยนี้จะดีกว่าที่จะเกิดคำถามในที่ประชุมใหญ่จะเป็นประโยชน์ต่อพรรคมากกว่า " นายถาวร กล่าว