"บิ๊กช้าง" เผย แผนแม่บทรองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง อยู่ระหว่าง ทูลเกล้าฯ รอลงพระปรมาภิไธย หวังรองรับภัยคุกคามประเทศ
เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2561 ที่กองบัญชาการกองทีพไทย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม เป็นประธาน เปิดงาน "KICK-OFF การเตรียมการจัดทำแผนแม่บทรองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง" พร้อมด้วย พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผู้แทนเหล่าทัพและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง โดยมี พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ประธานคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงให้การต้อนรับ
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอชื่นชมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง
ที่ได้จัดทำยุทธศาสตร์ชาติและได้ผ่านกระบวนการพิจารณา ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการทูลเกล้าฯทรงลงพระปรมาภิไธย สิ่งสำคัญเมื่อเราได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและร่วมมือร่วมใจและเข้ามามีส่วนร่วม ดูแลด้านความมั่นคงให้กับประเทศตามนโยบายของรัฐบาล ตามที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวไว้ ว่าเราจะวางแนวทางการพัฒนาประเทศใน 20 ปีข้างหน้า โดยมีทิศทางที่ถูกต้องต่อไป
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า เรื่องของกระบวนการทำแผนในระยะยาวหรือมีความสำคัญที่ต้องให้ประเทศเจริญก้าวหน้าไปได้ ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐต้องจัดให้มียุทธศาสตร์ชาติที่จะเป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศสิ่งสำคัญแผนต่างๆ ที่เราจะทำยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทที่เราจะเริ่มทำต่อไป เพื่อปฏิบัติการนั้นจะต้องมีเป้าหมายสอดคล้องและบูรณาการ เกิดผลประสิทธิภาพ
พล.อ.ชัยชาญ ย้ำว่า สิ่งต่างๆที่จะทำต่อไปอยู่ในเรื่องของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ยุทธศาสตร์นี้ถือว่ามีความสำคัญที่จะทำให้คนไทยทุกคนมีความสุข อยู่ดีกินดี สำหรับในเรื่องความมั่นคงถือเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของทุกคนในทุกประเทศ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรงในเรื่องความปลอดภัยการอยู่ดีกินดี ความเชื่อมั่น การประกอบกิจกรรมของคนในชาติ เมื่อประเทศชาติมีความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ อย่างอื่นก็จะพัฒนาไปด้วย กรอบแนวความคิดทางด้านความมั่นคงถูกขยายเป็นมากเมื่อเทียบกับในอดีต ซึ่งจะมองเพียงทหารและกระทรวงกลาโหมเท่านั้น แต่ปัจจุบัน กรอบความคิดด้านความมั่นคงครอบคลุมทุกมิติทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน สิ่งแวดล้อม และที่สำคัญความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ตลอดจนถึงการพัฒนาประเทศในทุกมิติ
พล.อ.ชัยชาญ ยังมองว่า ความมั่นคงจะสลับซับซ้อนมากขึ้น ความเชื่อมโยงการมองปัญหาในภาพรวมจะทำให้เรากำหนดกิจกรรมแผนงานโครงการสอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นได้ ในการดำเนินการให้ประเทศเกิดความมั่นคงปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ทั้งอาชญากรรมการ ก่อการร้าย ยาเสพติด การเข้าเมืองผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ หรือภัยพิบัติตามธรรมชาติ ที่นับวันมีความรุนแรงมากขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องภัยพิบัติเกิดขึ้นทั่วโลก เราต้องเตรียมการรองรับภัยคุกคามเนื่องจากเรื่องภัยธรรมชาติส่งผลโดยตรงต่อประชาชนในทุกพื้นที่
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวต่อไปว่า รวมถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการย้ายถิ่นฐานอย่างไม่ปกติของประชากร ความมั่นคงด้านไซเบอร์ การก่อความไม่สงบ สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้เราจำเป็นต้องพัฒนาประเทศให้มีความพร้อมในการเผชิญภัยทุกประการทั้งปวง และสิ่งสำคัญต้องป้องกันแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นให้ได้ โดยไม่ให้เกิดปัญหาใหม่ การจัดงานดังกล่าวจะเกิดประโยชน์นอกจากต่อประเทศชาติคนไทยแล้วสิ่งสำคัญจะเกิดประโยชน์เรื่องการอยู่ดีมีสุขของประชาชนที่เราต้องการให้เกิดความปลอดภัย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง