ข่าว

"สามมิตร"เดินสูตรปรองดอง"ดูดเพื่อชาติ"คิว"นปช.อีสาน"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"กลุ่มสามมิตร" เดินสายรุกหนักจีบนปช.อีสานกว่า 10 จว. สร้างปรองดองแห่งชาติ "กอบศักดิ์" แจง ครม.สัญจร "อุบลฯ - อำนาจเจริญ" เหตุมีความพร้อม ยันไร้นัยการเมือง

      เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจเจริญ ระหว่างวันที่ 23-24 กรกฎาคมนี้ อาจจะแฝงนัยทางการเมืองโดยเฉพาะการดูดอดีต ส.ส. มาร่วมพรรคพลังประชารัฐ สอดรับกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีในลักษณะเดียวกัน

      วันที่ 15 กรกฏาคม ที่ตลาดเทิดไท อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายภิรมย์ พลวิเศษ เลขาฯ กลุ่มสามมิตร อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน พร้อมด้วยทีมงานกลุ่มสามมิตรโคราช ได้เดินสายลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนสอบถามสารทุกข์สุกดิบประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าที่กำลังจับจ่ายสินค้าและอาหารทะเลสดเพื่อต้องการดูภาพรวมเศรษฐกิจเพื่อนำเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จากนั้นได้แถลงข่าวแสดงจุดยืนของกลุ่มสามมิตรและการแลกเปลี่ยนทางการเมืองกับกลุ่มแกนนำและสมาชิก นปช.ภาคอีสาน

     นายภิรมย์  เปิดเผยว่า วันนี้กลุ่มสามมิตรต้องการที่จะสื่อกับประชาชนทั้งประเทศว่าจุดยืนพวกเราต้องการที่จะสร้างความปรองดองแห่งชาติ เนื่องจากว่าบ้านเมืองในอดีตแตกแยกทางความคิด การเลือกตั้งจะสมบูรณ์แบบไม่ได้เลยถ้าหากเรายังมีความคิดเห็นที่แตกแยกออกเป็นหลากสีอย่างเช่นในอดีต กลุ่มสามมิตรมีแนวทางในการแสวงหาจุดร่วมเพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อไปด้วยความเรียบร้อยสมานฉันท์ การรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนซึ่งเป็นสำคัญหลัก ตรงนี้เรากลุ่มสามมิตรมองเห็นแล้วว่า พี่น้อง นปช. (กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ) ซึ่งเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของภาคอีสานมีความคิดอย่างไรต่อประเทศชาติ ตนเลยทำแนวทางของกลุ่มสามมิตรที่ได้เดินทางไปแลกเปลี่ยนความคิดเบื้องต้นกับพี่น้อง นปช.ภาคอีกว่า 10 จังหวัดและได้รับการตอบรับจากพี่น้อง นปช.อย่างดี 

"สามมิตร"เดินสูตรปรองดอง"ดูดเพื่อชาติ"คิว"นปช.อีสาน"

      “ถ้าวันนี้จะให้มีความมั่นคงปรองดองจริงๆ แล้ว ต้องให้พี่น้องทุกกลุ่ม นปช.ทั้งหลายและทุกอาชีพในประเทศไทยมาแลกเปลี่ยนกันว่าตกลงเราจะเดินหน้าจาก 4-5 ปีหรือ 10-20 ปีโดยไม่ต้องมาทะเลาะกันหรือแตกแยกกัน ประท้วงกัน และเมื่อตกผลึกเรื่องความคิดวันไหนเราก็จะเชิญ นปช.หรือกลุ่มอาชีพที่มีความเห็นว่าอยากจะแลกเปลี่ยนร่วมกันก็จะเชิญมา ส่วนเรื่องวัน เวลา สถานที่จะแจ้งเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง” นายภิรมย์ระบุ

สามมิตรเดินสายปรองดองนปช.อีสาน

     เลขาฯ กลุ่มสามมิตร กล่าวอีกว่า วันนี้มาทำความเข้าใจกับกลุ่มนปช. เรายังไม่ได้เดินทางไปถึง กปปส. แต่เห็นว่าพี่น้อง นปช. ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของภาคอีสานคิดอย่างไรที่จะทำให้ประเทศชาติได้ประโยชน์ทุกกลุ่มทุกอาชีพ เราเลยเดินสายแลกเปลี่ยนกับ นปช.ภาคอีสานก่อน และที่ผ่านมากลุ่มสามมิตรก็เดินทางแลกเปลี่ยนกับอดีต ส.ส. ส.ว. หลายจังหวัด ซึ่งประสบผลสำเร็จบางประเด็น แต่เมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มสามมิตรให้เราเดินทางไปแลกเปลี่ยนกับพี่น้อง นปช.ภาคอีสานเบื้องต้นไว้แล้ว 

      ต่อข้อถามว่าจะรู้ได้อย่างไรจังหวัดไหนเป็น นปช.แท้ หรือนปช.ปลอม นายภิรมย์ ตอบว่า ไม่ได้หวังว่าจะไปหาหัวคะแนนหรือผู้สมัครในกลุ่มสามมิตร แต่ต้องการพบกับ นปช.ตัวจริง เสียงจริง มีตัวตนจริงๆ ซึ่งเราต้องการสะท้อนปัญหาความต้องการของพี่น้อง นปช. ซึ่งส่วนใหญ่ที่มากับตนก็มีบัตร นปช.มาด้วย โดยตนมีรายชื่อ นปช.ที่ได้พบ นปช.เหล่านั้นจริง ไม่ใช่มาอ้างอิง แต่ต้องตระหนักด้วยว่า นปช.ที่มาพบกับตนไม่ใช่ว่าคนที่จะย้ายมาอยู่กับพวกเรา หรือพรรคเรา หรือกลุ่มเรา แต่เขาต้องการสะท้อนความคิดของเขาว่า เดือดร้อนอะไร ต้องการอะไร และเขาอยากให้คนที่มีอำนาจในประเทศไทยจะทำอะไรให้กับกลุ่ม นปช. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นปช.ภาคอีสานที่เดือดร้อนหลายอย่างอยู่ นี่คือเหตุจำเป็นที่ตนเดินทางในนามกลุ่มสามมิตร

     “ผมได้แลกเปลี่ยนกับพี่น้องที่เขาเรียกว่าขอนแก่นโมเดล ได้มีการแลกเปลี่ยนกับผมและมาระบายความทุกข์ใจให้กลุ่มสามมิตรว่า ความจริงเป็นอย่างไร ขอนแก่นโมเดลไม่ใช่เฉพาะกลุ่มขอนแก่น สุรินทร์ นครราชสีมา ชัยภูมิ หรืออีกหลายจังหวัด มีทั้งหมด 25 คน เสียชีวิตแล้ว 1 คน หนีไปแล้ว 1 คน และอยู่ในเรือนจำ 2 คน ที่เหลือ 20 คนประกันออกมาอยู่ในชั้นสืบพยานแล้ว ได้มาเสนอความคิดกับพวกผมว่าทำอย่างไรจะมีวิธีการที่เขาจะได้สื่อว่าจริงๆ แล้วความจริงเป็นอย่างไร ตรงนี้ผมจะนำไปแลกเปลี่ยนในแกนนำกลุ่มสามมิตรเพื่อให้เกิดการปรองดองจริงๆ ในชาติ" นายภิรมย์กล่าว

จ่อถกเมืองทองธานีรอคสช.ไฟเขียว

     นายภิรมย์ กล่าวว่า ขอเรียนว่าเขาไม่มีความประสงค์ว่าจะมาอยู่กับกลุ่มสามมิตร แต่ว่าต้องการที่จะมาช่วยให้พี่น้อง นปช.ได้ประโยชน์จากการบริหารจัดการ ได้โอกาส ได้การดูแลจากรัฐบาลโดยทัดเทียมกัน นปช.จึงยอมมาแลกเปลี่ยนเสนอกับกลุ่มสามมิตร ส่วนเรื่องหลักที่พูดคุยกับ นปช.จะนำไปเสนอแกนนำสามมิตร มีหลายเรื่องที่เราจะไปสรุปในที่ประชุมใหญ่ระหว่างนปช.กับกลุ่มสามมิตร และอาจจะเชิญหลายกลุ่มมาแลกเปลี่ยนด้วย ส่วนจะเมื่อไหร่นั้นเราคงต้องขออนุญาตรัฐบาลหรือ คสช.ก่อนว่าถ้าเราจะแลกเปลี่ยนเพื่อความปรองดองของชาติแล้วจะทำได้หรือเปล่า 

"สามมิตร"เดินสูตรปรองดอง"ดูดเพื่อชาติ"คิว"นปช.อีสาน"

     "ถ้า คสช.อนุมัติให้กลุ่มสามมิตรทำก็จะทำในเร็วๆ นี้ ซึ่งคนที่จะมา นปช.ก็อยากจะมากันเยอะ แต่ขึ้นอยู่กับ คสช.เท่านั้น จำนวนคนน่าจะมากว่า 500 คนที่ส่วนใหญ่พร้อมที่จะมาแลกเปลี่ยน เพราะเขาอยากเห็นแสงสว่างในหัวใจว่า ถ้าเราได้แลกเปลี่ยนเอาความคิดเขามาบอกพวกเราที่จะทำอะไรให้กับประเทศชาติ ก็เอามาหลอมรวมกันเพื่อได้ประโยชน์สูงสุด ฉะนั้นแนวทางนี้ปรองดองแห่งชาติออกไปทางบวก ไม่มีประโยชน์แอบแฝงทางการเมือง ส่วนสถานที่จะเป็นอิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือที่อื่นนั้น เรายังไม่ได้กำหนด” นายภิรมย์กล่าว

     นายภิรมย์กล่าวอีกว่า จุดยืนสามมิตรวันนี้ยังยืนยันอยู่ว่าเห็นการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังเดินหน้าให้ประชาชนทั้งประเทศได้ประโยชน์สูงสุด แต่บางเรื่องบางประเด็นอาจจะไม่ทันใจประชาชน เช่น นปช.ส่วนใหญ่บอกว่า บัตรคนจน คนจนได้ประโยชน์ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นขวัญใจพวก นปช.จริงๆ จากบัตรรูดเป็นสิ่งของ ขอรูดเป็นเงินสดเลย เพราะจะได้ซื้อหาสิ่งของตามใจเขาได้ ไม่ใช่ให้เฉพาะร้านธงฟ้าจุดเดียวตำบลเดียว ร้านค้าตามหมู่บ้านจะเจ๊งหมด เป็นต้น ให้เอาเงินโอนเข้าบัญชีเลย นายกฯ ประยุทธ์ก็จะเป็นขวัญใจพวก นปช.แน่นอน เขาว่ามาอย่างนี้ 

ปัดตอบปมครม.สัญจรดูดอดีตส.ส.

      ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มสามมิตรแลกเปลี่ยนกับนปช.ตรงนี้ใช่การดูดอีกหรือไม่ นายภิรมย์ ตอบว่า จะดูดเรื่องไหน วันนี้เราข้ามคำว่าดูดไปแล้ว เราไปถึงปัญหาความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มทุกส่วน 1.วันนี้เรามาจากกลุ่มนักการเมือง 2.เราเดินทางมาหา นปช. ต่อไปอาจจะเดินสายไปหาหลวงพ่อตามวัดว่าหลวงพ่ออยู่วัดมีประชาชนเดือดร้อนเรื่องไหน กลุ่มสามมิตรเดินทางไปแน่นอน 

      ส่วนการที่ พล.อ.ประยุทธ์จะไปครม.สัญจรภาคอีสานตอนล่างที่ จ.อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี คิดว่าต้องฉลาดเหมือน จ.บุรีรัมย์ เอาคนกว่า 3 หมื่นคนมาปรบมือต้อนรับนายกฯ ประยุทธ์ แล้วได้จัดสรรงบประมาณมาก อย่างโคราชจะเอาเป็นแสนคนก็ได้ถ้านายกฯ ประยุทธ์มาอีก ยิ่งมายิ่งได้พัฒนาและได้ประโยชน์โดยส่วนรวม ฉะนั้นอย่าคิดเป็นอคติอย่างอื่นที่นายกฯประยุทธ์จะเดินทางสายไปทุกจังหวัด 

      นายภิรมย์ ยังกล่าวกรณีแกนนำและอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาโจมตีครม.สัญจร มีนัยการเมืองที่จะไปดูดส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.อุบลราชธานี 7 คนว่า ก็ไม่อยากพูดถึงเพราะนั่นคือความคิดที่แตกต่างแต่มั่นใจว่าประชาชนอุบลราชธานีและอำนาจเจริญอยากให้นายกฯ ไปครม.สัญจรและยังบอกว่าประชุมครม.สัญจรไม่อยากให้ไปประชุมที่ศาลากลางจังหวัด น่าจะไปประชุม ครม.สัญจรอยู่บนศาลาวัด เพื่อจะได้พบปะพี่น้องประชาชนและได้รับฟังปัญหาจากประชาชนโดยตรง 

      “ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มสามมิตรที่ผ่านมาว่าไปดูดส.ส.หลายจังหวัดนั้น ขอย้ำและยืนยันว่าสามมิตรไม่เคยดูดใคร ดูดแต่ความคิดความอ่าน ซึ่งก็ตกผลึกพอสมควร วันนี้เรามีกลุ่มสามมิตรประมาณเกือบ 200 คนแล้ว ที่จะขับเคลื่อนเรื่องการเมือง เพื่อเอาความคิดแต่ละกลุ่ม ทุกสี มากำหนดนโยบายที่จะทำงานให้แก่ประเทศชาติต่อไป และยืนยันว่าไม่เคยใช้เงินดูดตามที่มีการกล่าวหาแน่นอน เพราะถ้ามีข่าวว่าใช้เงินใช้ทองมันจะดังกว่านี้ ผมก็คงไม่มีถนนเดิน คงเจอเขากระหน่ำมาก ฉะนั้นวันนี้ยืนยันว่าเราไม่มีการใช้เงินแน่นอน แล้วจะไปเบิกมาจากไหนคนละ 50 ล้าน ผมเองทำมา 4-5 เดือนก็ยังลำบากอยู่เลย ยังขับรถคันเดิมๆ อยู่” นายภิรมย์กล่าว

เปิดรายชื่อกลุ่มนปช.ที่ไปพบปะมา

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภิรมย์ ได้นำรายชื่อ นปช.ที่ได้เดินสายไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดในจังหวัดต่างๆ ของภาคอีสานมาแสดงด้วย ประกอบไปด้วย 1.นปช.สกลนคร นายศักดิ์ธนภูมิ มหิทธิสินโสภณ, ดร.ดิษย์ชัย แก่นท้าว, นายรัตนรัตน์ ถิ่นปัญจา และนายทรงเดช กลณีย์ 2.นปช.มุกดาหาร นายจิตรกรรม เชื้อคำฮด, นายสมชัย เจริญไกร 3.นปช.อำนาจเจริญ นายสมบัติ วันทอง, นายโชคสมัย โชคชัย, นายอนุภาพ วงจร 4.นปช.สุรินทร์ นายธีระสิทธิ์ สังขาว, นายธีระชาติ สังขาว, นายพรหมพัฒน์ ธันกรกุลพิพัฒน์ 5.นปช.บุรีรัมย์ ดร.กฤชเทพ อุปจันแพงวงศ์, นายณัฐนนท์ อะพรรัมย์, นายวิยะ ศรีพร 6.นปช.นครราชสีมา นายเสนอ นันธนกุล 7.นปช.ขอนแก่น นายคำบง ศิริ, นายวินัย สิงหาด, นายณัฏฐกฤตา พิจารโต, นายบุญจันทร์ เช้าวันดี, พ.ท.สรวิชญ์ จันทลือชา, ร.ต.ต.รับเสด็จ ยศติณเธียร 8.นปช.ศรีสะเกษ นายสมบัติ ศรีเลิศ

      9.นปช.ชัยภูมิ นางพรทิพย์ ปราชญ์นาม 10.นปช.มหาสารคาม นางสมศรี อินทวงศ์ 11.นปช.ร้อยเอ็ด นายทุย ครูรา 12.นปช.หนองบัวลำภู ร.ต.ต.เกษม บุญวิจิตร (ประธาน นปช.หนองบัวลำภู), นายสังคม อิ่มนาง, นายสมาน นวลไชยดี 13.นปช.บึงกาฬ นายธนพล สำราญรม, นายศรัทธาวุฒิทองสำริด, นายเจริญสุข ทวยจันทร์ 14.นปช.หนองคาย นางจุไรรัตน์ บุทเสน, นางสงบ โลหะปาน และ ร.ต.ท.สมพร บุทเสน พร้อมกันนี้ได้นำโลโก้กลุ่มสามมิตรบวก นปช.ปรองดองแห่งชาติ โดยมีแผนที่ประเทศไทยอยู่ตรงกลางมาแสดงด้วย

กอบศักดิ์แจงครม.สัญจรอุบลฯ

"สามมิตร"เดินสูตรปรองดอง"ดูดเพื่อชาติ"คิว"นปช.อีสาน"

     นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การประชุมครม.สัญจร ที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจเจริญ ในระหว่างวันที่ 23-24 กรกฎาคมนี้ อาจจะแฝงนัยทางการเมืองโดยเฉพาะการดูดอดีต ส.ส. มาร่วมพรรคพลังประชารัฐว่า ข่าวที่ออกมาไม่เป็นความจริง เพราะปัจจัยสำคัญที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจเลือก จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจเจริญ เป็นที่ประชุม ครม.สัญจร ในครั้งนี้ คือ ความพร้อมของพื้นที่ เพราะปกติแล้วการเตรียมการจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อให้พื้นที่ระดมทุกฝ่ายจัดเตรียมข้อเสนอโครงการสำคัญเพื่อเสนอ ครม.พิจารณา โดยจะเริ่มจาก 1.การจัดทำข้อเสนอระดับจังหวัด 2.นำมาคัดเลือกรวมกันเป็นข้อเสนอเด่นของกลุ่มจังหวัด ที่สอดประสานมีพลัง สร้างอนาคต และ 3.การคัดเลือกพื้นที่ที่เหมาะสม ที่ท่านนายกรัฐมนตรีจะลงไปเยี่ยมพี่น้องประชาชน

     นายกอบศักดิ์ กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุนี้ เมื่อชัดเจนว่า การประชุม ครม.สัญจร ควรย้ายจากที่เดิมกำหนดไว้ที่ จ.เชียงราย และ จ.พะเยา เพื่อไม่สร้างภาระเพิ่มเติมแก่ข้าราชการและหน่วยงานที่ต้องอดหลับอดนอนฟันฝ่าอุปสรรค ต่อสู้กับเวลา เพื่อนำน้อง 13 หมูป่า กลับบ้าน ดังนั้น ทีมงานของนายกรัฐมนตรี จึงพยายามหาจังหวัดอื่นมาเป็นทางเลือก

      “ความจริงเราได้มีการพิจารณาในหลายทางเลือก ในหลายจังหวัด โชคดีที่บังเอิญผมเพิ่งไปเยี่ยมกลุ่ม จ.อุบลราชธานี จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ และ จ.ศรีสะเกษ พอดี ในฐานะผู้กำกับดูแลกลุ่มจังหวัดดังกล่าว จึงเห็นว่าข้าราชการและหน่วยงานมีความพร้อมอยู่แล้ว เนื่องจากได้ทำงาน เตรียมงานทุกอย่างไว้หมดแล้ว จึงได้เสนอให้จังหวัดทั้งสอง เป็นทางเลือกหลักในการประชุม ครม.สัญจร ในครั้งนี้ และน่าจะพร้อมกว่าทางเลือกอื่นๆ ที่จะมีเวลาเตรียมการแค่ 2 สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้ขลุกขลักมาก” รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

ศุภชัยชี้บางคนจงใจปั่นกระแสดูด

     นายศุภชัย ศรีหล้า อดีตส.ส.อุบลราชธานี และอดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการเดินสายดูดอดีต ส.ส.จ.อุบลราชธานี อย่างหนักขณะนี้ ว่าด้วยเรื่องการดูดในอดีตพรรคประชาธิปัตย์เคยเป็นพรรคที่ประสบความสำเร็จในอีสานส.ส.อุบลราชธานี มี ส.ส.ที่เคยสังกัดพรรคประชาธิปัตย์หลายคน แต่ด้วยพลังดูดของพรรคความหวังใหม่ในขณะนั้น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.อุบลราชธานี หลายคนก็ย้ายไปตามกระแสดูดนั้น ต่อมามีพรรคไทยรักไทยเกิดขึ้น กระแสดูดก็เกิดขึ้นอีก ส.ส.อุบลราชธานีจำนวนหนึ่ง ที่ย้ายมาอยู่พรรคความหวังใหม่ ก็ย้ายไปอยู่พรรคไทยรักไทย ตนจึงมองเป็นเรื่องธรรมดา แต่กระแสข่าวการดูด การย้ายพรรคของอดีตส.ส.อีสานในขณะนี้ คนสร้างข่าวต้องการปั่นกระแส มีเป้าประสงค์ทางการเมืองแน่นอน

     นายศุภชัย กล่าวว่า แต่อย่าลืมเรื่องราวในอดีตเคยโดนดูดมาแล้วกี่ครั้ง ย้ายมาแล้วกี่พรรคอุดมการณ์ที่พูดอยู่ในขณะนี้ ต้องถามตนเองด้วยในขณะที่ชี้นิ้วไปที่คนอื่น ส่วนกรณีนายสุพล ฟองงาม อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย นักการเมืองคนหนึ่งที่อยู่ในกระแสข่าวจะย้ายซบพรรคอื่นในขณะนี้นั้น เป็นเจ้าของวาทกรรมที่ขัดใจนายใหญ่เป็นอย่างยิ่งว่า “ผมเป็น ส.ส. ไม่ใช่ลูกจ้างบริษัท” นายสุพล เคยเป็นเลขาธิการพรรคไทยรักไทย เป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง สุขุม พูดน้อย คิดมากใคร่ครวญ มีเหตุมีผล การตัดสินใจของนายสุพลคราวนี้สะเทือนพรรคเพื่อไทยแน่นอน ยิ่งเมื่อเข้าถึงสถานการณ์เลือกตั้ง หากนายสุพลพูดความในใจ ถึงวันนั้นอาจเป็นจุดสนใจของคนทั้งประเทศ และเป็นจุดจบของพรรคเพื่อไทยก็ได้

พท.เมินดูดปล่อยให้ปชช.ตัดสิน

"สามมิตร"เดินสูตรปรองดอง"ดูดเพื่อชาติ"คิว"นปช.อีสาน"

     นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการดูดอดีตส.ส.ของพรรคเพื่อไทยว่า ส่วนตัวไม่ค่อยกังวลกับเรื่องนี้ เพราะอดีตส.ส.จำนวนมากยังอยู่กับพรรค และสุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใน 10 วินาทีที่เข้าไปคูหากาบัตรเลือกตั้ง ทั้งนี้ปัจจัยในการตัดสินเลือกใครเป็นส.ส.นั้น เนื่องจากระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ที่ให้กาเพียงบัตรเดียวจะทำให้ประชาชนให้น้ำหนักกับตัวพรรค นโยบายพรรค และแคนดิเดตนายกฯ ที่พรรคนำเสนอด้วย 

      “ขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองพัฒนาถึงขั้นที่ว่าประชาชนวิเคราะห์ได้ถึงตัวตน อุดมการณ์ ผลงาน และรู้ท่าทีของพรรคต่างๆ ต่อการสืบทอดอำนาจ โดยท่าทีของพรรคทำให้ประชาชนมีตัวเลือกค่อนข้างชัดเจน ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้าคิดว่าประชาชนจะไม่ถามเพียงแค่ว่าเลือกนโยบายพรรคนี้แล้วชีวิตประชาชนจะดีขึ้นอย่างไร แต่จะถามอีกว่า เลือกพรรคนี้ประเทศจะดีขึ้นอย่างไร” นายนพดลกล่าว

      นายนพดลกล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยเคารพการตัดสินใจของประชาชนในวันเลือกตั้ง แต่ความท้าทายขณะนี้คือ ทุกฝ่ายต้องทำให้การเลือกตั้งเสรี เป็นธรรม และมีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ 

“สุเทพ”ประกาศจับมือทุกพรรค

     ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ผู้ร่วมก่อตั้งรวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวเปิดงานการเสวนาปฏิรูปประเทศไทย หัวข้อ "การกระจายอำนาจ” โดยนายสุเทพ กล่าวว่า มูลนิธิเกิดขึ้นเพื่อเข้ามาปฏิรูปในด้านต่างๆ  5 ด้าน คือ 1.ปฏิรูปการเมือง 2.ปฏิรูปกระบวนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น  3.ปฏิรูประบบราชการ 4.ปฏิรูปวิธีแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม  และ 5.ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว รวมทั้งปฏิรูปตำรวจ  

      เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐมีกระแสดูดอดีตนักการเมืองจำนวนมาก ด้านพรรครปช. จะมีการเปิดตัวอดีตนักการเมืองชื่อดังบ้างหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยืนยันว่าพรรครปช. เป็นพรรคการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง และหวังสร้างการเมืองที่ดี สร้างประชาธิปไตยที่บริสุทธิ์ และจะสรรหานักการเมืองใหม่ๆ และเป็นคนที่ดี มีความรู้ความสามารถและคุณธรรม รักชาติรักบ้านเมือง เพื่อมาเป็นตัวแทนของประชาชน ให้ทำหน้าที่ในฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติต่อไป และขอยืนยันว่าเป้าหมายของพรรคเราแตกต่างจากพรรคพลังประชารัฐอย่างแน่นอน ส่วนพรรคจะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์  เป็นนายกฯ ต่อนั้น ตามที่ตนได้กล่าวไว้ว่า พรรครปช.มีแนวทางปฎิรูปประเทศตามแนวทางของประชาชน เราพร้อมที่จะร่วมมือกับใครก็ได้ที่มีอุดมการณ์เดียวกันกับเรา และร่วมมือกับพรรคการเมืองอะไรก็ได้ที่มีเจตนารมณ์เดียวกับเรา เพื่อปฎิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ 

     นายสุเทพ กล่าวถึงการปลดล็อกทางการเมืองว่า คิดว่าในขณะนี้เวลาต่างๆ ที่ให้พรรคการเมืองเตรียมตัวในการเลือกตั้งยังมีครบถ้วนเพียงพอ กับห้วงเวลาที่มีอยู่และพรรครปช. ยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะต้องมีโพรมารีโหวต และพรรคก็พร้อมจะปฏิบัติตาม เพราะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปการเมือง 

ปชป.พบส.ส.ภาคกลางคุยข้อก.ม.

"สามมิตร"เดินสูตรปรองดอง"ดูดเพื่อชาติ"คิว"นปช.อีสาน"

     ที่โรงแรมไพรเวซี่ บีช รีสอร์ท แอนด์สปา อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาพบกับอดีต ส.ส. ทั้ง 3 เขตของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตส.ส.เขต 2 ประจวบคีรีขันธ์ อดีตรมว.แรงงาน และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ประสานงานเพื่อพุดคุยหารือในหัวข้อกฎหมายรัฐธรรมนูญกับสมาชิกพรรค จากนั้นมีการจัดเลี้ยงสังสรรค์เป็นการภายใน โดยไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าสังเกตการณ์แต่อย่างใด สำหรับงานดังกล่าวมีสมาชิกพรรคหลายจังหวัดในภาคกลางเข้าร่วม เช่น สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และนครศรีธรรมราช

     นายประมวล พงศ์ถาวราเดช อดีดส.ส.เขต 3 จ.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นการพบปะพุดคุยกันตามปกติ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายพรรคการเมือง ยืนยันว่าไม่มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองตามที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต ส่วนงานเลี้ยงมีการจัดฉลองวันเกิดย้อนหลังให้อดีตส.ส.บางคนเท่านั้น

บิ๊กตู่ปลื้มไทยพัฒนานวัตกรรมดีขึ้น 

      พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยินดีที่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ที่ได้เปิดเผยรายงานการประเมินผลดัชนีนวัตกรรมโลก ประจำปี 2561 โดยประเทศไทยมีอันดับดีขึ้นถึง 7 อันดับ จากอันดับที่ 51 ในปี 2560 มาเป็นอันดับที่ 44 ในปีนี้ (2561) จากทั้งหมด 126 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งประเทศไทยถูกจัดให้เป็นผู้นำในหลายด้าน อาทิ การส่งออกสินค้าสร้างสรรค์ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 6 การส่งออกสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง อันดับที่ 8 และการจดทะเบียนอนุสิทธิบัตร อันดับที่ 11 เป็นต้น นอกจากนี้ ไวโป้และหน่วยงานที่ร่วมกันจัดทำรายงานฉบับนี้ โดยระบุว่าไทยเป็น 1 ใน 20 ประเทศที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาด้านนวัตกรรม 

      อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง ส่งเสริม คุ้มครอง การใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ และป้องกันปราบปรามการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา เพิ่มงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาให้มากขึ้น และบูรณาการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา

      พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้นายกฯ เน้นย้ำว่าอยากให้คนไทยเรียนรู้ที่จะพัฒนานวัตกรรม โดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์เข้ามาประยุกต์ใช้ รวมทั้งคำนึงถึงความต้องการของตลาดเพื่อให้เกิดการผลิตที่ตอบสนองผู้บริโภคได้ ที่สำคัญคือนักวิจัยจะต้องช่วยคิดค้นผลงานที่ตอบโจทย์ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอย่างยั่งยืน ให้สามารถเพิ่มมูลค่าผลผลิตของตนได้โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ทำอย่างไรให้ผลิตน้อยแต่ได้ราคาดี แทนที่จะผลิตออกมามากๆ แต่ขาดทุน 

ใช้บทเรียนถ้ำหลวงแรงขับดันปท.

"สามมิตร"เดินสูตรปรองดอง"ดูดเพื่อชาติ"คิว"นปช.อีสาน"

     นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิตและผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) เปิดเผยว่า บทเรียนจากกรณีถ้ำหลวง ได้ชี้ให้เห็นถึงพละกำลังและศักยภาพในการบริหารจัดการกับวิกฤติปัญหาระดับชาติได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญสะท้อนให้เห็นถึงพลังของความร่วมไม้ร่วมมือและความเสียสละจากทุกภาคฝ่ายทั้งรัฐ เอกชน ประชาชนและสื่อมวลชน บรรยากาศแบบนี้อาจมีให้เห็นไม่บ่อยนัก โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติความขัดแย้งในสังคมการเมืองไทยกว่าทศวรรษที่ผ่านมา

      “พละกำลังหรือกำลังของแผ่นดินครั้งนี้ได้รับการสรรเสริญและชื่นชมไปทั่วโลก ประเด็นสำคัญอยู่ที่เราจะทำให้กำลังของแผ่นดินครั้งนี้เป็นแรงส่งขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และเอาการเมืองไทยออกจากถ้ำของการทุจริตคอร์รัปชั่น ความขัดแย้งแตกแยกและการเมืองที่ล้มเหลวได้อย่างไร แน่นอนก็ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น แต่ควรเป็นธุระของทุกฝ่ายที่จะทำให้คุณูปการของภารกิจถ้ำหลวงเป็นโมเดลของการแก้ปัญหาบ้านเมือง โดยเฉพาะบทเรียนที่ต้องยอมรับกันว่าภารกิจที่เป็นไปไม่ได้นั้นไม่มีอยู่จริง ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือร่วมร่วมใจ เสียสละคนละเล็กละน้อยก็จะทำให้ภารกิจนั้นสำเร็จได้เช่นกรณีปรากฏการณ์ถ้ำหลวง" นายสุริยะใสกล่าว

     นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า เทียบเคียงกรณีของการปฏิรูปประเทศไทยที่บางคน บางกลุ่ม อาจถอดใจหรืออาจคิดว่าเป็น mission impossible หรือภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ แต่สามารถทำให้เป็นจริงได้ถ้าเราเรียนรู้จากปรากฏการณ์ถ้ำหลวง ที่สำคัญมีคนและกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยที่อยู่เบื้องหลังของความสำเร็จในครั้งนี้ แต่ไม่ประสงค์ออกนาม ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งต้องขอชื่นชม

เตือนระวังล็อบบี้เก้าอี้ปธ.กกต.

     นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดเผยว่า นับจากวันนี้จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม เป็นวันที่นัดหมาย 5 กกต.ใหม่มาประชุมร่วมกันเพื่อเลือกหนึ่งคนดำรงตำแหน่งประธาน กกต. แล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยโปรดเกล้าฯ เป็น กกต.ชุดที่ 5 น่าจะเป็น 15 วันที่ผู้เป็นว่าที่ กกต.จะพบเจอกับหลายอย่างที่ในชีวิตไม่เคยประสบ ประการแรก การลาออกจากงานทุกประเภทภายใน 15 วันหลังจากได้รับคัดเลือก สำหรับคนที่มีงานไม่กี่อย่าง หรือออกจากงานราชการแล้วคงไม่เป็นปัญหามาก แต่คนที่มีธุรกิจ เป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ มีชื่อเป็นกรรมการในบริษัทเอกชน เป็นที่ปรึกษาของใครต่อใคร คงต้องนึกทบทวนให้ดี และลาออกให้หมด ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาในภายหลัง

      นายสมชัย กล่าวอีกว่า ประการที่สอง ระหว่างที่ตนเองลาออก คงต้องลุ้น หรือประสานงานให้ดีว่า ลาออกครบทั้ง 5 คน เพราะหากมีคนใดคนหนึ่งลาออกไม่หมด หรือไม่ลาออก จะขาดคุณสมบัติการเป็น กกต. ไม่สามารถจัดประชุมเพื่อเลือกประธาน กกต.ได้ เพื่อนอีก 4 คนที่เหลือ ลาออกจากงานแล้ว คงต้องว่างงานไปสักระยะ ประมาณ 5-6 เดือน จนกว่าจะสรรหาคนใหม่มาได้ครบ ประการที่สาม โทรศัพท์จากใครต่อใครที่ท่านไม่สนิท ไม่คุ้นเคยจะมาถึงท่านตลอดเวลา แสดงความยินดีบ้าง ฝากฝังตนเองบ้าง ขอนัดหมายพบปะเพื่อแนะนำตนเองบ้าง อย่าได้เคลิบเคลิ้มหลงใหลรับปาก เป็นคนปกติแบบเดิมดีที่สุด

      นายสมชัย กล่าวอีกว่า ประการที่สี่ การล็อบบี้เพื่อตำแหน่งประธาน กกต.จะเกิดขึ้น จากใครต่อใครที่ท่านรู้จักและไม่รู้จัก การขอนัดหมายพบปะกันเพื่อขอคะแนนเสียงจะเกิดขึ้น ให้ระวังคนจากพรรคการเมือง คนจากรัฐบาลปัจจุบัน หรือ คนจาก สนช.ที่จะมาทำหน้าที่เป็นคนกลางจัดเลี้ยงนัดหมายเพื่อล็อบบี้ให้คะแนนแก่คนนั้นคนนี้ ใช้วิจารณญาณของท่านดีที่สุด การรับปากใดๆ จากใครต่อใครล้วนเชื่อไม่ได้ ไม่มีใครเป็นหนี้บุญคุณใคร หรือแม้เคยขออะไรใครก็ต้องลืมให้หมด นึกถึงประโยชน์ประเทศชาติเป็นสำคัญ

จี้สรุปนาฬิกาหรู-ยืมเงินวิคตอเรีย

"สามมิตร"เดินสูตรปรองดอง"ดูดเพื่อชาติ"คิว"นปช.อีสาน"

      ด้าน นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทางองค์กรได้รับจดหมายตอบกลับจากเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังจากนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ทำจดหมายเปิดผนึกเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา สอบถามถึงความคืบหน้ากรณีปมแหวนเพชรและนาฬิกาหรู ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม และกรณี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยืมเงินนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครท 300 ล้านบาท ซึ่งผ่านไปกว่า 3 เดือนแล้ว

      ทั้งนี้ในจดหมายตอบกลับของ ป.ป.ช.ชี้แจงแค่ว่ากำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทางองค์กรฯตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดสองกรณีนี้จึงใช้เวลานาน ทั้งที่ลักษณะแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ทำให้สังคมอาจคลางแคลงใจในการทำงานของ ป.ป.ช. ได้ จึงอยากเรียกร้องให้ประชาชนร่วมติดตามการทำงาน ป.ป.ช.ในสองกรณีดังกล่าว รวมทั้งอยากฝากถึงทางป.ป.ช.ว่า ขอให้รีบแถลงสรุปผลกรณีปมแหวนเพชรและนาฬิกาหรูได้แล้ว โดยทางองค์กรฯอยากเห็นผลการสอบที่ชัดเจน และสมเหตุสมผล ยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก

      “เราอยากให้ป.ป.ช.รีบสรุปผลคดีแหวนเพชรและนาฬิกาหรู หลังยืดเยื้อมานาน และทางองค์กรฯ คาดหวังว่า จะได้เห็นผลสรุปที่ชัดเจน สมเหตุสมผล และยึดผลประโยชน์ชาติเป็นหลักด้วย” นายมานะกล่าว

      มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา คณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงคดีแหวนเพชรและนาฬิกาหรู ได้รายงานว่าได้สอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีครบถ้วนแล้วแต่บริษัทตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยไม่ยอมให้ข้อมูลเรื่องซีเรียลนัมเบอร์ว่าใครเป็นผู้ครอบครองที่แท้จริง ทำให้ยังไม่สามารถพิจารณาว่าจะตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนในเรื่องดังกล่าวได้หรือไม่

จี้สอบสวนเรียกศรัทธาทหารคืน

"สามมิตร"เดินสูตรปรองดอง"ดูดเพื่อชาติ"คิว"นปช.อีสาน"

      นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมได้ออกแถลงการณ์ขอให้ตั้งกรรมการสอบ ผบ.ค่ายธนะรัชต์และโฆษกกองทัพบก กรณีไหว้วานเลี้ยงไก่ ตามที่ปรากฏในสื่อต่างๆเป็นการทั่วไป กรณีที่พลทหารรายหนึ่ง อัดคลิปความยาว 11 นาที เปิดเผยชีวิตความเป็นอยู่ หลังต้องการมารับใช้ชาติ ที่กองพันทหารราบที่ 2 ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขัน<

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ