ข่าว

"บิ๊กตู่"ถึงอังกฤษ-คนไทยรับอบอุ่นเชียร์อยู่ต่อ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กตู่"พร้อมคณะเยือนอังกฤษ คนไทยต้อนรับเชียร์นั่งนายกฯอีกสมัย ขณะที่"ประวิตร"เผยถกปลดล็อกก่อน 26 มิ.ย. "ทักษิณ"เจอหมายจับใบที่2คดีทุจริตปล่อยกู้กรุงไทย 

     เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม และนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตพิเศษภาคตะวันออก เดินทางถึงกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ สำหรับการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ ภายหลังจากที่สหภาพยุโรปมีมติปรับฟื้นสัมพันธ์การเมืองกับไทย

คนไทยต้อนรับบิ๊กตู่ที่อังกฤษ

     ต่อมาเมื่อเวลา 08.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ เข้าที่พักที่โรงแรมรอยัล แลงคาสเตอร์ ทั้งนี้มีรายงานว่าทันทีที่พล.อ.ประยุทธ์เดินทางถึงสหราชอาณาจักร เพจเฟซบุ๊ก Gen.Prayut Chan-o-cha ทีมงาน ได้เผยแพร่ภาพวิดีโอนายกรัฐมนตรีพบปะทักทายคนไทยที่นำดอกไม้มาต้อนรับที่โรงแรมรอยัลแลงคาสเตอร์ ซึ่งคนไทยได้กล่าวชมนายกรัฐมนตรีไม่แก่เลย และติดตามข่าวนายกรัฐมนตรีทุกวัน พร้อมเป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรีในการทำงาน รวมทั้งขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

     ด้านพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับ ขอให้ทุกคนมีความสุข ทำอะไรก็ขอให้ประสบความสำเร็จรวมถึงลูกหลานทุกคน อย่างไรก็ตามแผ่นดินเกิดเราคือประเทศไทย โดยจะไปไหนมาไหนก็ให้สำนึกในแผ่นดินเกิด อย่าให้ใครมาทำร้าย ทำลายประเทศของเรา จึงอยากฝากดูแลด้วย

"บิ๊กตู่"ถึงอังกฤษ-คนไทยรับอบอุ่นเชียร์อยู่ต่อ

พบ“เทเรซา เมย์” นายกฯ อังกฤษ

     จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้บรรยายสรุปการเดินทางเยือนและมอบนโยบายให้ทีมประเทศไทย ณ กรุงลอนดอน และนายกรัฐมนตรีพบหารือกับนักธุรกิจซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชนไทยรายใหญ่ในอังกฤษคือนายฐาปน สิริวัฒนภักดี กลุ่มไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ และนายไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์ จากกลุ่มเอ็มไพร์เอเชีย แอชเซต

     ต่อมาเวลา 16.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังทำเนียบนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรเพื่อเข้าพบนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร

ภรรยาโผล่ทำเนียบโต้ข่าวบินฉลอง

     ขณะเดียวกันมีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่าหลังมีกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์ถึงการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) และฝรั่งเศสของพล.อ.ประยุทธ์ ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะพานางนราพร จันทร์โอชา ภริยาร่วมคณะเดินทางไปด้วย โดยจะถือโอกาสไปฉลองวันคล้ายวันเกิดอายุ 64 ปี ในวันที่ 20 มิถุนายน และร่วมฉลองครบรอบแต่งงาน 34 ปีในวันที่ 22 มิถุนายนนั้น แต่หลังจากที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทำให้พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปเพียงลำพัง และเช้าวันเดียวกันนี้ เมื่อเวลา 09.32 น. นางนราพร ปรากฏตัวที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อปฏิบัติภารกิจส่วนตัวก่อนจะเดินทางกลับออกไปโดยใช้เวลาเพียงประมาณ 20 นาทีเท่านั้น

สื่อนอกวิเคราะห์นายกฯเยือนอังกฤษ

     วันเดียวกันสำนักข่าวเนชั่นรายงานว่า เว็บไซต์นิคเคอิ เอเซียน รีวิว รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปเยือนยุโรปครั้งนี้เพื่อแสวงหาความชอบธรรมทางการเมือง โดยพล.อ.ประยุทธ์ จะพบผู้นำรัฐบาลของอังกฤษและฝรั่งเศสในการเยือนกรุงลอนดอนและกรุงปารีสเพื่อหวังสร้างความน่าเชื่อถือของประเทศไทย

     ขณะเดียวกันสายตาของชาติยุโรป แม้นายกฯ ไม่มีกำหนดเยือนกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานสหภาพยุโรป หรืออียู แต่การเยือนสองชาตินาน 5 วันของพล.อ.ประยุทธ์ สะท้อนว่ายุโรปผ่อนปรนจุดยืนต่อรัฐบาลทหารของไทยที่เข้าสู่อำนาจหลังการรัฐประหารในปี 2557 โดยส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากคำมั่นสัญญาของนายกฯ เมื่อปลายปีที่แล้วว่าจะจัดการเลือกตั้งทั่วไป

     นอกจากนี้รายงานระบุว่านายกฯ จะไม่ประสบความคืบหน้าในการผลักดันการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับอียู ในขณะที่ชาติตะวันตกส่วนใหญ่ยังคงลังเลที่จะทำข้อตกลงใดๆ กับรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

"บิ๊กตู่"ถึงอังกฤษ-คนไทยรับอบอุ่นเชียร์อยู่ต่อ

ชี้รัฐบาลเห็นความได้เปรียบ

     ขณะที่นักวิเคราะห์ในอาเซียนบางคนบอกว่า รัฐบาลไทยมองเห็นความได้เปรียบ เมื่อเทียบกับบางประเทศในภูมิภาคที่ไม่มีประชาธิปไตยนัก และมีปัญหาการเมืองร้ายแรง เช่น กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเมียนมาร์ และคาดว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีประยุทธ์พบกับนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษและประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครงของฝรั่งเศส จะพยายามสร้างภาพลักษณ์ในเวทีระหว่างประเทศด้วยการชี้แจงเรื่องโรดแม็พประชาธิปไตยแม้ยังไม่ได้กำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน

      นักการทูตยุโรปยืนยันว่าความคืบหน้าในเชิงบวกต่างๆ มีส่วนต่อการปรับท่าทีของอียูต่อประเทศไทย แต่สิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าไทยกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยแล้วหรือไม่

     ขณะเดียวกันมีรายงานว่ากลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่อยู่ในต่างประเทศกำลังวางแผนจัดชุมนุมประท้วงในลอนดอนและปารีสช่วงนายกฯประยุทธ์เยือน

 

"บิ๊กตู่"ถึงอังกฤษ-คนไทยรับอบอุ่นเชียร์อยู่ต่อ

บิ๊กป้อมยันถกก่อนวันที่ 26 มิ.ย.

     ด้านความเคลื่อนไหวของสถานการณ์การเมืองในประเทศ วันเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ครั้งที่ 5/2561 ถึงความชัดเจนกรณีเชิญพรรคการเมืองร่วมพูดคุยหารือช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ ว่าการพูดคุยจะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องปลดล็อกว่าจะทำอะไรได้บ้าง และการพูดคุยจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 26 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับจากการเยือนประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ส่วนจะเป็นวันเสาร์อาทิตย์หรือไม่นั้น ขอดูก่อน

เผยคุยพรรคการเมืองในกรุงเทพฯ

    เมื่อถามว่ารูปแบบการพูดคุยจะเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อยากฟังว่าเขาต้องการอะไรบ้าง ซึ่งลักษณะการพูดคุยก็จะมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ จะไปนั่งรับฟังพร้อมด้วยกัน โดยให้เขาถาม อะไรที่ตอบได้ก็จะตอบ อะไรที่ยังตอบไม่ได้ก็จะเตรียมข้อมูลต่างๆ ไปชี้แจงในการประชุม แล้วนำมาให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง”

     ส่วนพรรคการเมืองที่ตอบรับเข้าร่วมพูดคุยหารือแล้วมีกี่พรรค พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เพิ่งเชิญเขาไป แล้วแต่ใครอยากมาก็มา ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา และตอนนี้ยังไม่รู้ว่ามีพรรคที่เข้าร่วม ไม่ได้ไปถามเขา ให้เจ้าหน้าที่เป็นคนถามและตอบกันเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีพรรคการเมืองตอบรับมาแล้ว ส่วนสถานที่นั้นยังไม่รู้ สื่ออย่าไปรู้ ไม่ไปไหนอยู่ในกรุงเทพฯ และความจริงผู้สื่อข่าวไม่เกี่ยว จะพูดคุยกับนักการเมืองเพื่อรับฟังว่าเขาอยากจะเสนออะไรก็เสนอมา ตนก็จะตอบ

"บิ๊กตู่"ถึงอังกฤษ-คนไทยรับอบอุ่นเชียร์อยู่ต่อ

เย้ยม็อบป่วน“บิ๊กตู่”แค่3คน

     พล.อ.ประวิตร ยังให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางเยือนประเทศอังกฤษและฝรั่งเศลสของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ซึ่งมีกลุ่มบุคคลต่อต้านรัฐประหารประกาศจะไปต้อนรับที่ประเทศอังกฤษ ว่ามีม็อบแค่ 3 คน ไม่มีปัญหาอะไร เพราะนายกฯ ไปดี และไม่ได้ทำผิดอะไร ทำดีทุกอย่างให้ประเทศชาติ ไม่อย่างนั้นประเทศประชาธิปไตยมหาอำนาจคงไม่เชิญให้ไปเยือน และคนที่จะต้อนรับอยากให้นายกฯ เดินทางไปมีหลายประเทศ

พท.เชื่อคนทิ้งพรรคมีไม่ถึง 40%

     ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่แปลกที่หลังปฏิวัติ 22 พฤษภาคม 2557 จะเกิดพรรคพลังประชารัฐและพรรคแนวร่วมอื่นๆ ที่จะเป็นเครือข่ายในการสนับสนุนการสืบทอดอำนาจหรือไม่ หรือนี่คือผลสัมฤทธิ์ความก้าวหน้าของการปฏิรูปประเทศ ประชาชนสงสัย เศรษฐกิจแบบนี้ไปเอาเงินจากไหนมาดูดอดีตส.ส.เข้าพรรค หรือใช้คดีความมาเป็นเครื่องมือต่อรองร่วมด้วยหรือไม่ จึงตั้งคำถามว่านี่คือความพยายามทุกวิถีทางในการสืบทอดอำนาจหรือไม่ ปากบอกว่าจะปฏิรูป แต่สิ่งที่ประชาชนเห็นคือการทำการเมืองโบราณย้อนยุค การเมืองแบบกลุ่มก๊วน การเมืองแบบต่อรองซื้อขายตัวหรือไม่

    นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า อดีตส.ส.ย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติของการเมืองไทยที่สามารถเกิดขึ้นได้ พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าแม้จะมีความพยายามอย่างมากในการดูด แต่คนที่จะตัดสินใจย้ายออกไปจริงๆยืนยันว่ามีไม่มากไม่ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ตามที่เป็นข่าวอย่างแน่นอนเพราะอดีตส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคเพื่อไทยยังมั่นใจและยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทย ประชาชนในพื้นที่ยังเป็นฐานสนับสนุนพรรคเพื่อไทยให้เข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศอย่างเหนียวแน่นมั่นคง ส่วนคนที่ตัดสินใจย้ายออกไปก็ขอให้โชคดี

วิโรจน์รับพยายามประคองพรรค

    ขณะที่พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย บางคนเตรียมทิ้งพรรคโดยให้เหตุผลว่าไม่มีการดูแลและให้ปัจจัยสนับสนุนแก่อดีตส.ส.รายเดือนมานานแล้ว รวมถึงความไม่ชัดเจนของคนนำพรรคว่า บางเรื่องก็เป็นเรื่องจริงเพราะพรรคไม่ได้จ่ายเงินเดือนอดีตส.ส. เนื่องจากพรรคเป็นสถาบันการเมือง พรรคไม่ได้มีเงินจำนวนมากที่จะจ่ายให้ใคร จะนำเงินจากที่ไหนมาให้ ไม่ได้ไปตั้งเงินเดือนให้ใครต่อใคร ทุกวันนี้พรรคอยู่ได้เพราะสมาชิกเสียสละและมีอุดมการณ์ร่วมกันที่จะทำงานทางการเมืองเพื่อช่วยเหลือบ้านเมือง ช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งขณะนี้ยังไม่สามารถประชุมพรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคได้เพราะคสช.ห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาการอยู่หลังหัวหน้าพรรคคนก่อนลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งก็พยายามประคับประคองพรรคให้ไปสู่การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคภายหลังคสช.ปลดล็อกให้ได้

เมื่อถามว่าทางพรรคเพื่อไทยเสียขวัญหรือไม่ หลังมีสมาชิกพรรคบางส่วนเริ่มปันใจออกจากพรรค พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า ไม่อยากให้ใครไป อยากให้ทุกคนที่มีอุดมการณ์ร่วมกันอยู่ด้วยกัน แต่ใครที่ไปเขาคงรู้อยู่ในใจว่าเขามีความจำเป็นอะไรถึงต้องไป ทำไมถึงต้องละทิ้งอุดมการณ์เดิม ซึ่งอุดมการณ์เดิมของพรรคเพื่อไทยคือต่อต้านเผด็จการ เรายึดระบอบประชาธิปไตย จึงเชื่อว่าพี่น้องยังมีความนิยมในพรรคของเราอยู่ คนที่ทิ้งจากเราไปบางคนก็คงมีเหตุผลในใจก็ไม่ว่ากันถ้าจะไป แต่ความจริงเสียดายไม่อยากให้ใครไป”

ระบุยังไม่คุยอดีตส.ส.โดนดูด

    ส่วนที่ถามว่าอย่างกรณีนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีตส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ทางพรรคได้ไปเจรจาด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า ไม่มีการติดต่อ อีกทั้งนายปรีชาก็ยังไม่ได้มาลาออกจากพรรค เห็นแต่ข่าวตามสื่อ ทั้งนี้สมาชิกพรรคสามารถลาออกได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคสช.ปลดล็อก แต่หากจะมาสมัครเป็นสมาชิกใหม่ยังทำไม่ได้ ยืนยันพรรคเสียดายและไม่อยากให้ใครไป

    เมื่อถามว่าการที่สมาชิกบางคนเตรียมทิ้งพรรคส่งผลเสียต่อพรรคเพื่อไทยอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า สมาชิกส่วนใหญ่ทราบดีว่าถ้าไปแล้วก็มีผลต่ออนาคตทางการเมือง แต่ละพื้นที่ประชาชนก็ยังนิยมชมชอบนโยบายพรรคเราอยู่ หากท่านไปก็คงคิดได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในข้างหน้า อย่างไรก็ตามก็เคารพการตัดสินใจของกันและกัน แต่พรรคขอยืนยันอีกครั้งว่าพรรคไม่อยากให้ใครไป ส่วนการเลือกตั้งจะยังมีในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 หรือไม่นั้น อยากถามพล.อ.ประยุทธ์ว่าทำไมถึงไม่พูดอะไรให้ชัดเจน ทำไมถึงต้องพูดให้เกิดการตีความ เคลือบแคลงสงสัยนึกไม่ออกว่าเขาต้องการอะไร

"บิ๊กตู่"ถึงอังกฤษ-คนไทยรับอบอุ่นเชียร์อยู่ต่อ

พท.เปรย“กกต.”เชิญยินดีไป

     ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ระบุจะมีการนัดหารือกับพรรคการเมืองในต้นสัปดาห์หน้า ว่าพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมในการหารือดังกล่าว โดยเหตุผลที่เคยบอกไว้ว่าเรื่องนี้รัฐบาลไม่มีอำนาจหน้าที่ ถ้ากกต.เชิญไปหารือเรื่องเลือกตั้ง ทางพรรคยินดีไปคุย นอกจากนี้รัฐบาลไม่มีความเป็นกลางจึงไม่มีประโยชน์ที่จะไป เพราะทุกทีที่ไปหารือในที่สุดก็จบลงแบบที่รัฐบาลอยากได้ ดังนั้นถ้าคิดว่าจะเลือกตั้งเดือนไหนวันไหนก็ว่ามาเลย กำหนดให้ชัดเจน เราไม่ขัดข้อง แต่ปัญหาคือความไม่ชัดเจนมากกว่า เราไม่มีปัญหาหรือเรื่องมาก พร้อมเผชิญความยุ่งยากทั้งหมด ส่วนการที่จะหารือเรื่องปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมนั้น ก็ปลดได้เลยไม่มีปัญหาเช่นกัน

 

อุบลฯโดนดูดเข้าพลังประชารัฐ

     เกี่ยวกับการเดินสายดูดของพรรคพลังประชารัฐ รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่าขณะนี้อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทยที่โดนพลังดูด และคิดว่าจะไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐแน่นอนคือ สุพล ฟองงาม อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิชัย จรูญเนตร อดีตส.ส.อุบล เขต 5 ซึ่งการเดินสายดูดในครั้งนี้นำทีมโดยนายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ และนายสิทธิชัย โควสุรัตน์

     รายงานข่าวแจ้งว่า ว่าที่ผู้สมัครส.ส.อุบลฯ ในนามพรรคประชารัฐค่อนข้างลงตัวแล้วทั้ง 10 เขต ซึ่งประกอบด้วยนายอดุลย์ นิลเปรม อดีตส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคเพื่อไทย นายโกวิทย์ ธรรมมานุชิต ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลฯ นายสุทธิชัย จรูญเนตร อดีตส.ส.เพื่อไทย นายสุพล ฟองงาม อดีตส.ส.เพื่อไทย นายณรงค์ศักดิ์ โกศัลวัฒน์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี และอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย นายเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ ส.จ.เขต ตระการพืชผล (บุตรชาย นายอดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์ อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย) นายสุชาติ ตันติวณิชชานนท์ อดีตส.ส.ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน น.ส.ตวงทิพย์ จินตะเวช (ลูกสาวนายตุ่น จินตะเวช อดีตส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา) และนายอภิชา จารุแพทย์ (พี่เขยของนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (ครม.ชุดนายสมัคร สุนทรเวช)

"บิ๊กตู่"ถึงอังกฤษ-คนไทยรับอบอุ่นเชียร์อยู่ต่อ

     รายงานข่าวแจ้งต่อว่าสาเหตุของการโดนดูดในครั้งนี้อาจมาจากความขัดแย้งกันมากระหว่างกลุ่มส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.อุบลราชธานี โดยอยู่พรรคเดียวกันแต่คนละกลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่ม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ กับกลุ่มนายสุพล ฟองงาม ซึ่งกลุ่มของนายเกรียง กัลป์ตินันท์ ได้เปิดตัวอดีตส.ส.และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ในพื้นที่ จ.อุบลฯอย่างชัดเจน เมื่อกลุ่มของนายสุพล ฟองงาม ไม่มีที่ยืนก็พาสมาชิกของกลุ่มเข้าร่วมงานการเมืองกับ “ปรีชา เลาหะพงศ์ชนะ” “สิทธิชัย โควสุรัตน์” พร้อมสู้ในสนามเลือกกตั้ง

มาร์คชี้ถ้าดูดเลิกพูดธรรมาภิบาล

     ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เดินสายพบนักการเมืองหลายจังหวัดเพื่อสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งว่า การจะตั้งพรรคใหม่หรือเชิญชวนให้ใครย้ายพรรคเป็นเรื่องที่ทำได้ นักการเมืองที่จะย้ายสังกัดต้องมีเหตุผลที่จะตอบสังคม แต่สิ่งที่พูดมาตลอดคือขอให้เป็นเรื่องความคิดและจุดยืนทางการเมืองไม่ใช่การเสนอผลประโยชน์ตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทอง ตำแหน่ง หรือการต่อรองเรื่องคดีความ เหมือนที่เคยเกิดในบางยุค เพราะหากยอมรับในเรื่องเหล่านี้ การเมืองก็ไม่มีทางดีขึ้นได้ แต่จะหมกมุ่นอยู่กับการแสวงหาผลประโยชน์

     “ถ้าใช้สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรยอมรับ ใครที่มีอำนาจคิดจะทำก็อย่าทำ เพราะถ้าทำจะเป็นการทำลายแนวความคิดเรื่องการปฏิรูปประเทศและปฏิรูปการเมืองทั้งหมด ไม่มีสิทธิที่จะพูดคำว่าธรรมาภิบาลอีกต่อไป จึงเห็นว่านายกฯ ควรมีความชัดเจนในฐานะผู้ถืออำนาจรัฐว่าไม่สนับสนุนพฤติกรรมเหล่านี้ และต้องไม่ให้เกิดขึ้นไม่ว่าใครจะทำก็ตาม ยิ่งถ้าคนทำเกี่ยวข้องกับนายกฯ ก็ต้องยิ่งมีความชัดเจนในเรื่องนี้ เพราะคนที่ทำก็พูดในแวดวงการเมืองตลอดว่าเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจ ดังนั้นหากมีรายงานว่ามีพฤติกรรมดังกล่าวก็ควรตรวจสอบและแสดงจุดยืนให้ชัดว่าไม่สนับสนุน ไม่เช่นนั้นก็ต้องเลิกพูดคำว่าธรรมาภิบาลและปฏิรูปประเทศได้แล้ว" นายอภิสิทธิ์กล่าว

ต้านเดินสายดุดแลกผลประโยชน์

      อย่างไรก็ตามองค์กรที่ดูแลเรื่องความสุจริตคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ต้องดูว่าจะป้องปรามอย่างไร ไม่ต้องพูดถึงว่า พล.อ.ประยุทธ์จะสง่างามจากการใช้วิธีการเหล่านี้หรือไม่ แต่ถ้ากระบวนการได้มาซึ่งอำนาจเริ่มต้นแบบนี้เราไม่สามารถคาดหวังเรื่องการเมืองที่สุจริต และมีธรรมาภิบาลได้ ทั้งนี้ไม่ได้กังวลใจเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง เพราะการแข่งขันมีหลายรูปแบบ แต่ไม่อยากเห็นความไม่ถูกต้องเพราะประเทศไทยเสียโอกาสกับปัญหาการเมืองที่ล้มเหลวมานาน ถ้าจะหลุดพ้นจากวงจรนี้ได้ต้องเริ่มต้นจากหลักการของการเลือกตั้งที่สุจริต เที่ยงธรรม เสรีและเป็นธรรม วิธีการที่เอาอำนาจรัฐ ผลประโยชน์มาใช้ ถือว่าสวนทางกันโดยสิ้นเชิง

"บิ๊กตู่"ถึงอังกฤษ-คนไทยรับอบอุ่นเชียร์อยู่ต่อ

     ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีการทุ่มเงิน 30-50 ล้านซื้อตัวส.ส.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากเป็นความจริงก็จะทำให้ไม่ได้รัฐบาลและสภาที่ดี โดยในส่วนของพรรคปชป.เองก็มีข่าวเกี่ยวกับการถูกดึงตัวด้วย แต่ไม่มีปัญหารุนแรงในเรื่องการเสนอเงิน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของตำแหน่ง อย่างไรก็ตามภาพรวมยังค่อนข้างนิ่งและมีคนที่อยากเข้ามาเสริมในส่วนของพรรคมากพอสมควร

"บิ๊กตู่"ถึงอังกฤษ-คนไทยรับอบอุ่นเชียร์อยู่ต่อ

ชี้คดี “ปึ้ง”เป็นอุทาหรณ์

     หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ตัดสินจำคุกนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นเวลา 2 ปี กรณีออกพาสปอร์ตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยไม่ชอบว่า ย้ำมาตลอดว่านักการเมืองต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ยึดหลักความถูกต้อง ถ้าไปโอนอ่อนเพื่อเอื้อประโยชน์ให้พรรคพวกก็ต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย อย่างไรก็ตามคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด นายสุรพงษ์ยังมีสิทธิที่จะอุทธรณ์ได้

     นายอภิสิทธิ์ ยังสัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นหลังพระราชพิธีสำคัญ ว่านายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่มีอะไรขัดแย้งกับโรดแม็พ ซึ่งคนไทยก็อยากเห็นความสงบในช่วงพระราชพิธีสำคัญอยู่แล้ว ส่วนการเชิญพรรคการเมืองไปหารือเกี่ยวกับการทำกิจกรรมทางการเมืองสิ่งแรกที่คิดว่าคสช.ต้องสะสางก่อนคือข้อกฎหมายที่ติดพันกัน สิ่งเหล่านี้ไม่เห็นว่าจะกระทบความสงบเรียบร้อยอย่างไร หากมีพรรคใดไปทำกิจกรรมที่สร้างความวุ่นวายก็จะทำให้สังคมไม่เอาด้วย เพราะสังคมต้องการเห็นความสงบ ตนเชื่อว่าทุกอย่างควรจะเป็นไปตามเดิม คือมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562

      ส่วนการที่พล.อ.ประวิตร ระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่จะใช้อำนาจตามมาตรา 44 งดเว้นการทำไพรมารีโหวตนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะทำจริงหรือไม่ ถ้าจริงเขาก็ต้องอธิบายหรือมีมาตรการรองรับให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

"บิ๊กตู่"ถึงอังกฤษ-คนไทยรับอบอุ่นเชียร์อยู่ต่อ

“ทักษิณ”เจอหมายจับใบที่ 2

    เวลา 13.30 น. ที่ศาลฎีกา เเผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง ถนนเเจ้งวัฒนะ องค์คณะคดีปล่อยกู้ ธ.กรุงไทย นัดพิจารณาคดีครั้งเเรก หมายเลขดำอม.3/2555 (หมายเลขแดงอม.55/2558) ในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อายุ 68 ปี อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 เป็นจำเลยที่ 1 ร่วมกับนายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือของบริษัทกฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 27 ราย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, ความผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502, ความผิดพ.ร.บ.การธนาคารพาณิชย์ พ.ศ.2505, ความผิดพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และความผิดพ.ร.บ.บริษัท มหาชน จำกัด พ.ศ.2535 กรณีร่วมอนุมัติสินเชื่อของธ.กรุงไทย ใหแก่กลุ่มกฤษดามหานครไปโดยทุจริต ทำให้ธนาคารเสียหาย

      คดีนี้ได้กล่าวหานายทักษิณ จำเลยที่ 1 ร่วมกับพวกกระทำความผิดกรณีอดีตผู้บริหารธนาคารอนุมัติสินเชื่อจำนวนมากโดยไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจของรัฐ โดยข้อเท็จจริงพบว่าผู้บริหารธนาคารกรุงไทยให้สินเชื่อกลุ่ม บมจ.กฤษดามหานคร ที่มีสถานะอยู่ในกลุ่มลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคาร เนื่องจากผอ.ฝ่ายกลั่นกรองสินเชื่อธุรกิจนครหลวง เคยจัดอันดับความเสี่ยงของกลุ่มกฤษดามหานครในอันดับ 5 คือไม่สามารถอนุมัติสินเชื่อให้ได้ เนื่องจากมียอดขาดทุนสะสมสูง แต่มีการอนุมัติสินเชื่อให้บริษัทในกลุ่มกฤษดามหานคร 3 กรณี คือ 1.การอนุมัติสินเชื่อให้บริษัทอาร์เค โปรเฟสชั่นนัล จำกัด จำนวนเงิน 500 ล้านบาท 2. การอนุมัติสินเชื่อให้บริษัทโกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด วงเงิน 9,900 ล้านบาท (วงเงินไฟแนนซ์ 8,000 ล้านบาท วงเงินซื้อที่ดินเพิ่ม 500 ล้านบาท และวงเงินพัฒนาโครงการ 1,400 ล้านบาท) และ 3.การอนุมัติขายหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพของ บมจ.กฤษดามหานคร ให้บริษัท แกรนด์ คอมพิวเตอร์คอมมูนิเคชั่น จำกัด จำนวนเงิน 1,185,735,380 บาท ถือว่าผู้เกี่ยวข้องมีพฤติการณ์ ร่วมกันหรือสนับสนุนการกระทำความผิดกรณีธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐ เป็นการกระทำโดยทุจริต เพื่อฟื้นฟูกิจการของ บมจ.กฤษดามหานคร ประโยชน์ส่วนตนกับพวก

มีพฤติกรรมหลบหนีไม่มาศาล

     วันนี้อัยการโจทก์เดินทางมาศาลร่วมกระบวนพิจารณา ส่วนนายทักษิณ หรือทนายความ ไม่มีใครมาศาล เมื่อถึงเวลาองค์คณะผู้พิพากษาพิจารณาเเล้วเห็นว่านายทักษิณ จำเลยที่ 1 ทราบนัดโดยชอบเเล้วไม่เดินทางมาศาลโดยไม่เเจ้งเหตุขัดข้องหรือแจ้งขอเลื่อน เชื่อว่ามีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับเพื่อมาฟังการพิจารณาของศาล ตามวิ อม.มาตรา 28 พร้อมให้โจทก์ดำเนินการตามหมายจับ และให้รายงานผลการจับกุมให้ศาลรับทราบทุกเดือน โดยกระบวนการพิจารณา เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่มาศาลในการพิจารณาครั้งเเรกให้ถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธ ตามวิ อม. มาตรา 33 จึงให้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 26 กันยายนนี้ เวลา 13.30 น. และให้อัยการโจทก์ยื่นบัญชีพยานหลักฐานก่อนวันนัดตรวจพยานหลักฐาน 14 วัน เเละให้ส่งหมายเเจ้งให้จำเลยทราบพร้อมปิดหมาย

สั่งสอบซื้ออุปกรณ์เกษตรแพง

      วันเดียวกัน นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการด่วนที่สุดให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ตรวจสอบโครงการงบประมาณอุดหนุนสหกรณ์ตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน หลังจากมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์การเกษตรของสหกรณ์การเกษตรต่างๆ มีราคาสูงทั้งๆ ที่เป็นเครื่องมือชนิดเดียวกัน ทั้งนี้ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน หากพบกระทำผิดจริงก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายและวินัยอย่างเฉียบขาดรวมทั้งให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์เข้าตรวจสอบสหกรณ์ที่มีพฤติการณ์กระทำความผิดให้ทราบผลโดยเร็วด้วย

อย่างไรก็ตามกรณีตรวจสอบแล้วไม่พบการกระทำผิดก็ให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัดร่วมกับสหกรณ์จังหวัดจัดแถลงข่าวข้อเท็จจริงและรายงานผลมายังกระทรวงเกษตรฯ ด้วย 3.ขอให้จัดประชุม อพก.จังหวัดทุกเดือน พร้อมนำผลการดำเนินงานตามโครงการไทยนิยมมารายงานต่อที่ประชุมรวมทั้งให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนำเสนอที่ประชุมกรมการจังหวัดหรือหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือนด้วย

ให้ผู้ตรวจฯปูพรมตรวจทุกพื้นที่

      นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า 4.ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวง และผู้ตรวจกรมในสังกัดกษ.ทุกเขต ออกไปตรวจสอบแนะนำและกำกับการดำเนินงานตามโครงการไทยนิยมทุกโครงการที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวง ได้รับงบประมาณมาดำเนินการทุกพื้นที่ด้วย ในกรณีที่ตรวจพบหรือประเมินแล้วมีแนวโน้มว่าจะมีการดำเนินการไม่ถูกต้องในโครงการไทยนิยมก็ให้รีบรายงานปลัดกระทรวงและอธิบดีต้นสังกัดทราบเพื่อแก้ไขปัญหาทันที ในกรณีที่ความผิดพลาดเกิดจากการทุจริตคอร์รัปชั่นโครงการก็ให้มีคำสั่งย้ายผู้เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ทันทีแล้วตั้งกรรมการสอบสวนตามระเบียบกฎหมายต่อไป และข้อ 5.ให้ปลัดกระทรวงและอธิบดีทุกกรมที่ได้รับงบประมาณไทยนิยมเข้มแข็งได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์และผลลัพธ์ของโครงการที่ประชาชนได้รับประโยชน์ตามช่องทางประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางอย่างกว้างขวางทุก ๆ 15 วันด้วย

(ข่างหน้า1นสพ.คมขัดลึก)

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ