ข่าว

"บิ๊กป้อม" ถก "คปต." รับทราบแผนจัดอัตรากำลัง นปพ.-ตชด.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กป้อม" นำถก "คปต." รับทราบความคืบหน้าจัดทำแผนอัตรากำลัง "นปพ.-ตชด." 4.7 พันนาย เห็นชอบหาที่ดินพัฒนา "ด่านศุลกากรบูเก๊ะ" เพิ่ม

 

          เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.61 - ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.วัลลภ รักเสนาะเลขาธิการสภาความมั่นคงชาติ(สมช.) กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้(คปต.) ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และรมว.กลาโหมเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมรับทราบเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยึดถือปฏิบัติ ด้วยความรอบคอบระมัดระวัง ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และต้องดำเนินการด้วยความสุจริต คุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สามารถตรวจสอบได้

 

          พล.อ.วัลลภ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าการจัดทำแผนอัตรากำลังพลตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) และตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)ในพื้นที่ รวม 4,700 อัตรา ให้มีความพร้อมรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ในอนาคต และรับทราบการจัดทำแนวทาวการจัดระเบียบชายแดนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อใช้เป็นกรอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ถือปฏิบัติ ซึ่งจะทำเป็นปกติในเดือนเมษายน และ ตุลาคม

 

          พล.อ.วัลลภ กล่าวว่า นอกจากนี้ คปต. เห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาการรังวัดที่ดิน กรณีการจัดหาที่ดินเพิ่มเติมเพื่อการดำเนินโครงการพัฒนาด่านศุลากรบูเก๊ะตา ต.โล๊ะจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส ให้มีความพร้อมปฏิบัติงานและเพื่ออำนวยความสะดวกในการผ่านแดนตามกฎหมายแก่ผู้เดินทางเข้า-ออก ค้าขาย ท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่ รวมทั้งโครงการขับเคลื่อนค่ายพัฒนาเพื่อการเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง นำไปสู่การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมได้อย่างสันติสุขโครงการจัดหาเรือยางตรวจการณ์ท้องแข็งในการใช้ลาดตระเวนทางน้ำในพื้นที่ เพื่อสนับสนุน การแก้ไขปัญหาการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และโครงการอาชีวศึกษาประชารัฐ จชต.เพื่อช่วยเหลือและสร้างโอกาสทางการศึกษาวิชาชีพแก่นักเรียนและเยาวชนในพื้นที่ ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป


          เลขาฯสมช. กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดระเบียบชายแดนในพื้นที่โดยเร็วเพื่อลดความเสี่ยงต่างๆ ทั้งเรื่องยาเสพติด การข้ามพื้นที่ไปมา การก่อวินาศกรรม โดยต้องคำนึงถึงความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ขณะที่การดำเนินการด้านงบประมาณต้องให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย ส่วนการทำของศูนย์อำนวยการบริหารจ.ชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.)จะเป็นผู้กำหนดนโยบายและกำกับดูแลในภาพรวม และจะปฎิบัติในนโยบายที่จำเป็นเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับการทำงานของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง

 

          ผู้สื่อข่าวถามถึงการพิจารณาปรับลดพื้นที่ประกาศพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มาใช้พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพิ่มเติมจากพื้นที่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า จะพิจารณาไปเรื่อยๆ จากที่ลดพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา และพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส จากนี้จะดูว่าพื้นที่ใดก่อเหตุน้อยลงและประชาชนร่วมมือกับภาครัฐในการดูแลพื้นที่ได้ดีจะปรับลด

  

          เมื่อถามถึงความคืบหน้าการพูดคุยสันติสุข จ.ชายแดนภาคใต้ เลขาฯสมช. กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลยังเหมือนเดิมคือยังพูดคุยกันอยู่ ยังต้องการพูดคุยกับกลุ่มเห็นต่างเพื่อให้เกิดสันติภาพในพื้นที่ แต่ขณะนี้ต้องรอดูความชัดเจนของทางผู้อำนวยความสะดวกว่าจะเป็นคนเดิมและนโยบายจะเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ ทั้งนี้แม้จะเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ แต่ระหว่างไทยและมาเลเซียเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและสนับสนุนซึ่งกันและกันคิดว่านโยบายก็คงจะอำนวยประโยชน์ให้กับทั้งสองประเทศ.


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ