"บิ๊กตู่"นั่ง"รถไฟ"ตรวจงานใจป้ำควักกระเป๋าเลี้ยงขนมปชช.

           11 มิ.ย.61 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. พร้อมคณะออกเดินทางโดยรถไฟขบวนพิเศษ จากสถานีรถไฟชุมแสง ตำบลชุมแสง อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์  

            ไปยังสถานีรถไฟนครสวรรค์ ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อตรวจโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ (ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ) และตรวจสภาพการพัฒนาบึงบอระเพ็ด 

 

           โดยก่อนที่ขบวนรถไฟที่นายกฯ โดยสารจะเคลื่อนออกจากสถานี ได้โบกมือทักทายประชาชน พร้อมกับตะโกนว่าอย่าลืมไปเลือกตั้งนะ ทั้งนี้ มีประชาชนส่วนหนึ่งวิ่งเข้ามาจับมือและขอถ่ายรูปเซลฟี่ ก่อนที่ขบวนรถจะเคลื่อนออกไป โดยนายกฯ ได้ชูนิ้วโป้งให้ประชาชนที่มาต้อนรับ

 

 

             ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ ได้หันมาพูดกับสื่อว่า ร้องเพลงสิ ผู้สื่อข่าวถามกลับว่าร้องเพลงอะไร นายกฯ กล่าวทันทีว่า ทัวร์นกขมิ้นไง สื่อจึงถามว่าทัวร์ใคร นายกฯ กล่าวว่า ทัวร์ใครไม่รู้เหมือนกัน

             นายกฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยมีรถไฟวิ่งเร็วขนาดนี้หรือไม่ รัฐบาลนี้พยายามทำทุกอย่าง ส่วนเรื่องสินค้าด้านการเกษตรที่มีราคาแพงขึ้น ซึ่งชาวบ้านร้องว่ากินทุเรียนแพง ตนเห็นว่าเกษตรกรต้องบริหารตัวเองให้ได้ ผู้ว่าฯ นายอำเภอก็ช่วยกันทำอย่างเต็มที่ เราต้องช่วยกันด้วย ไม่เช่นนั้นจะกลับไปอย่างเดิม ขอให้สื่อดูในโซเชียล เผยแพร่ข้อมูลกันเยอะแยะ ถ้าอะไรที่เป็นเรื่องจริงจนก็โอเค แต่ถ้าไม่จริงตนก็อาจตะงอนบ้างอะไรบ้าง 

 

            นายกฯ กล่าวอีกว่า การประชุมบนรถไฟ รัฐบาลนี้ไม่ต้องมีหรอก เพราะประชุมแค่ข้างก็เวียนหัวพอแล้ว ไม่ต้องไปประชุมบนรถไฟหรอก วันนี้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย สื่อไม่สงสารชาวบ้านเขาหรือ เห็นหน้าตา เห็นแววตาเขาหรือไม่ เขามีความสุข ดูตรงนี้แล้วจะให้ไปขัดแย้งกันอีกทำไม ชาวบ้านก็มีความหวังกับทุกรัฐบาล วันหน้าเขาก็หวังจากรัฐบาลหน้า บางคนเขารักนายกฯ ก็เรื่องของเขา ตนยังไม่ได้พูดว่าจะไปเป็นรัฐบาลกับใครเขา ทำไมต้องไปละเลงกันไปกันมาจนเสียหายไปหมด 

 

           พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้จะไม่ตอบเรื่องการเมือง เพราะไม่ได้มาทำการเมือง ประเทศของเรามีศักยภาพหลายด้าน เหลืออย่างเดียวคนไทยจะต้องรักกัน จะได้ใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่มีได้ เราอย่าไปทำให้วุ่นวาย มันวุ่นวาย ตนไม่ได้โทษพวกท่านหรอก แต่มันมีคนไม่กี่คน ที่สร้างความวุ่นวาย 

 

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวบรถไฟได้หยุดจอดที่สถานีทับกฤช ซึ่งมีประชาชนมาต้อนรับนายกฯ จำนวนหนึ่ง โดยมีพ่อค้าแม่ค้าค้าขายกันตามปกติ ทั้งนี้ นายกฯ ได้โบกมือทักทาย และสอบถามว่าขายอะไรกันบ้าง ขนมหวาน ไก่ย่าง ใช่ไหม แล้วขายได้เยอะไหม จากนั้น นายกฯ ได้ถามแม่ค้าคนหนึ่งว่า "ของทั้งหมดราคาเท่าไหร่ ให้ไปรวมกับทุกเจ้าที่ขายอยู่ตรงนี้ ไม่ต้องไปขายใครแล้ว เดี๋ยวนายกฯ เหมาทั้งหมด แจกข้างล่างกินไป เท่าไหร่ เอาตังค์นายกฯ ไป นายกฯ ซื้อเลี้ยงพวกเรา เอ๊ะ แล้วมันจะผิดกฎหมายหรือเปล่า ผิดไหม เกิน 3 พันหรือเปล่า นายกฯ ให้เงินซื้อของกับแต่ละเจ้า พวกหัวหมออย่าเอาไปรวมกัน"          

          นายกฯ ยังได้กล่าวอีกว่า "อย่างนี้ต้องเลือกใครไหม ต้องเลือกพรรคไหนเนี่ย หรือไม่ต้องเลือกใครเลยก็ได้แล้ว ใครจะไปสนใจตรงโน้น พรุ่งนี้ประชุมครม. เรื่องที่แต่ละจังหวัดส่งมา จะมีการกลั่นกรอง อันไหนอยู่ในแผนปี 61 ก็จะทำให้ อันไหนที่ปรับเปลี่ยนงบประมาณหรือของบเพิ่มก็จะให้ ทุกจังหวัดทุกกลุ่มจังหวัดต้องได้เงินใกล้เคียงกัน นายกฯ ไม่ได้ทำเพื่อการเมือง แต่ทำเพื่อประชาชน แบบนี้ดีไหม ซึ่งประชาชนตะโกนตอบว่า ดี จากนั้น นายกฯ กล่าวทันทีว่า จากนั้น นายกฯ ได้เดินลงจากขบวนรถไฟเพื่อไปพบปะทักทายประชาชน ก่อนเดินกลับขึ้นรถไฟ  

 

 

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบนโบกี้รถไฟ นายกฯ และผู้สื่อข่าวค่อนข้างใกล้ชิดอย่างกันเอง โดยนายกฯ กล่าวว่า เราอยากจะมีอยากจะเป็นแบบเขา อะไรที่ใช้กันได้ก็ใช้ไป จะคิดใหม่บางทีก็เสียเวลา แต่ถ้าเราไม่ทำแบบเขาเลยก็ไม่ได้ เราต้องดูความเป็นไปเป็นมาของต่างประเทศที่กว่าเขาจะเป็นวันนี้ได้ ก็ต้องฝ่ามาเยอะ เขาใช้กฎหมายอย่างแรง แต่ของเราบังคับใช้มากไม่ได้ เพราะคนมากขึ้น ก็ไม่อยากให้ไปขยายความให้คนที่ไม่เข้าใจกฎหมาย ถ้าเราสนใจคนเล็กๆ ที่ทำผิดกฎหมาย แล้วปล่อยๆไป ส่วนใหญ่เดือดร้อนหมด จำไม่ได้หรือที่ผ่านมา สื่อนี่สำคัญที่สุด ไม่ได้เอาใจคุณ ไม่ได้กลัวมีที่ไหนล่ะ ทำไมต้องกลัวกัน ส่วนการบิดเบือนในโซเชียล 

            นายกฯ กล่าวว่า สื่อก็ต้องไปเตือนเขา รัฐบาลจะไปทำอะไร ก็สื่อละเมิดจรรยาบรรสื่อบ้างล่ะ ละเมิดของคุณไปเรื่อย ก็ตีความกันเข้าไป ส่วนการเลือตั้งอยากเลือกก็เลือกไป และการที่โซเชียลโจมตีหนักขึ้นก็โจมตีไป ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงก็ไม่สนใจอยู่แล้ว ถ้าเรื่องจริงก็ต้องเดือดร้อน ถ้าไม่จริงก็ไม่เดือดร้อน วันนี้ตนทำให้อารมณ์ดีอย่างเดียว

 

             "เราอย่าไปกลัวสื่อโซเชียล ถ้ากลัวมันก็จะเป็นอย่างนี้ จะให้ไปควบคุมอะไรอย่างไร เพราะสื่อมันมาจากต่างประทศ มาจากยูทูปจะให้คุมอย่างไร แล้วเขาสนใจกฎหมายไหม แล้วรัฐบาลไม่จำเป็นต้องตั้งรับอะไร เพราะไม่เคยไปรุกใคร ผมทำหน้าที่ของผม ผมไม่รับไม่รุกไม่ได้เปรียบเสียเปรียบอะไร ก็ทำงานให้ก้าวหน้า" 

 

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการทุจริตอาหารกลางวันนักเรียน เขาก็โดนลงโทษ ผอ.โรงเรียนก็โดนย้ายและให้ออกไปแล้ว วันนี้ด้สั่งการกระมรวงมหาดไทยและกระทรวงศึกษาธิการตรวจสอบ หากพบทุจริตให้ลงโทษโดยเด็ดขาด ใครมีข้อมูลก็บอกมาจะได้ไม่เสียเวลาตรวจสอบ