จนท.พรึบรับมือเข้ม"กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง" บิ๊กป้อมห้ามเหยียบทำเนียบฯ มธ.ประกาศงดใช้สนาม "โรม"ไม่สน ปูดทหารกดดัน"เทพเทือก"ปัดเป่านกหวีดปลุกกปปส. ไม่เอาเลือกตั้ง
กำลังเป็นที่จับตามองหลังกลุ่มคนอยากเลือกตั้งประกาศเคลื่อนขบวนมาที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลา 07.00 น. วันที่ 22 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบ 4 ปีของการรัฐประหารของคสช. โดยจะเริ่มจัดขบวนบริเวณประตูทางเข้า-ออก ม.ธรรมศาสตร์ ฝั่งตรงข้ามสนามหลวง และเดินเท้าไปหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อขอคำตอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยจะจัดกิจกรรมบริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล เป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์และอภิปรายไม่ไว้วางใจ คสช. ต่อประเด็นการเลือกตั้งไปจนถึงเวลา 18.00 น. โดยระบุว่าจะมีผู้ร่วมชุมนุมประมาณ 2,000 คน
ทำเนียบเตรียมกำลังตร.-ทหารพรึบ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม มีรายงานว่า ทางทำเนียบรัฐบาลนำรั้วเหล็กมาวางกั้นแนวบริเวณประตู 5 ถนนราชดำเนินและโดยรอบแล้ว ขณะที่ พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 (ผกก.4 บก.ส.3) กล่าวว่า การดูแลภายในทำเนียบ ทางตำรวจสันติบาล ทั้งจากกองกำกับการ 3 และ 4 ซึ่งมีกำลังเจ้าหน้าที่ประจำการกว่า 100 นาย ได้ประสานงานกับกองสถานที่และรักษาความปลอดภัยของทำเนียบ เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ พร้อมกับมีกำลังเสริมจากทางกองบัญชาการตำรวจสันติบาลคอยสนับสนุน นอกจากนี้ยังมีตำรวจควบคุมฝูงชน 4 กองร้อย ดูแลรอบนอกทำเนียบรัฐบาล 3 กองร้อย ตั้งแต่บริเวณถนนราชดำเนิน เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนพิษณุโลก สะพานชมัยมรุเชฐ สะพานอรทัย ไปจนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม และ 1 กองร้อยดูแลในทำเนียบรัฐบาล พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการทุกอาคารภายในทำเนียบอย่างหนาแน่น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าประจำจุดตั้งแต่เวลา 06.00 น.เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีหน่วยข่าวกรอง ทหารจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์(ร.11 รอ.) และ ร.21 รอ. เตรียมพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติงานของตำรวจ
ขณะเดียวกันได้ประสานไปยัง สน.ดุสิต และ สน.นางเลิ้ง เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนด้านการจราจร ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่น่ากังวล อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ต้องขอความร่วมมือข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐบาล สื่อมวลชน รวมทั้งผู้ปฏิบัติงานในทำเนียบ ให้ติดบัตรประจำตัวแสดงตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาภายในทำเนียบ
มธ.ประกาศห้ามใช้สนามฟุตบอล
เมื่อเวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ หลังกลุ่มคนอยากเลือกตั้งนัดรวมตัวเพื่อไปแสดงจุดยืนให้รัฐบาลจัดเลือกตั้งในปีนี้ แต่ทางมหาวิทยาลัยติดประกาศห้ามใช้สนามฟุตบอล เนื่องจากกำลังลงปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืช ในวันที่ 20-23 พฤษภาคม พร้อมกับนำเชือกมาขึงล้อมสนามฟุตบอลทั้งหมด ขณะที่กลุ่มคนที่มาร่วมชุมนุมเริ่มทยอยเดินทางมาแล้วเป็นบางส่วน
ขณะเดียวกันเพจเฟซบุ๊ก Piyarat Chongthep โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “มธ.ใช้เชือกขึงรอบสนามฟุตบอล พร้อมติดประกาศ งดใช้สนามกำลังลงปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืช” ซึ่งภายหลังจากที่มีการโพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวออกไป ได้มีชาวโลกออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก พร้อมกับไม่เห็นด้วยกับการกระทำของอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ มีการประชดประชันว่า นี่มันสนามบอลหรือปลูกข้าวมันถึงฉีดยาฆ่าศัตรูพืช ไม่เนียนเอาเสียเลย
ตัดกุญแจประตูสามมวลชนแห่เข้า
มีรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. หลังจาก ม.ธรรมศาสตร์ ได้ปิดไม่ให้ใช้สนามฟุตบอล ปิดประตูฝั่งสนามหลวง และขัดขวางไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าจากประตูฝั่งท่าพระอาทิตย์และท่าพระจันทร์ ทางกลุ่มผู้จัดการชุมนุมจึงประกาศให้ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งที่ยังเข้าไม่ได้มารวมตัวกันที่ป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัย ขณะที่กำลังประสานงานกับเจ้าหน้าที่ให้เปิดประตู ได้มีกลุ่มคนอ้างเป็นแกนนำนำคีมมาตัดกุญแจที่ประตูสามเพื่อให้มวลชนเข้าไปในมหาวิทยาลัยเพื่อร่วมกิจกรรม
จากนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. เดินทางมาพูดคุยกับผู้ชุมนุมที่ป้ายรถเมล์ ผู้ชุมนุมได้ส่งเสียงโห่ไล่ ขณะที่ผู้จัดการชุมนุมพยายามขอร้องให้ผู้ชุมนุมกลับมาอยู่ในพื้นที่ ไม่มีการปะทะกันแต่อย่างใด
“โรม”ยันเคลื่อนม็อบไปทำเนียบ
ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเคลื่อนการชุมนุมไปยังทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ว่า ขณะนี้ยังเตรียมการกันอยู่ และคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ได้นำเชือกมากั้นบริเวณรอบสนามฟุตบอล พร้อมติดประกาศงดใช้สนามนั้น ทางกลุ่มได้เปลี่ยนมาใช้พื้นที่บริเวณหน้าหอประชุมศรีบูรพา (หอประชุมเล็ก) ภายในมหาวิทยาลัยแทน
เมื่อถามว่า กังวลว่าจะมีปะทะกันของกลุ่มผู้ชุมนุม กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะคิดว่าเรามีการจัดการที่ดี และเจรจากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
ปูดทหารกดดันมธ.ปิดประตู
จากนั้น นายรังสิมันต์โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Rangsiman Rome อ้างว่า “ตอนนี้ประตูธรรมศาสตร์ฝั่งสนามหลวงปิดแล้วครับ เชื่อว่าการปิดครั้งนี้เกิดจากแรงกดดันของทหารที่เข้าไปกดดันมหาวิทยาลัยครับ ผู้บริหารยุคนี้อาจจะทำงานได้ลำบากหน่อย ขอให้กำลังใจครับ ส่วนใครที่จะเข้ามา ยังมีประตูอื่นๆ ที่สามารถมาร่วมงานกับพวกเราได้ครับ ตอนนี้เราปักหลักกันอยู่ที่บริเวณด้านหอประชุมเล็ก ขอเรียนเชิญครับ เราจะสู้ไปด้วยกัน”
นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ยังโพสต์ภาพอาหารกล่อง พร้อมระบุข้อความว่า “เสบียงพร้อม วันนี้ค้างคืนธรรมศาสตร์กันครับ ขอเชิญชวนครับ!”
‘จ่านิว’ยันไร้ปัญหาปิดสนามบอล
ขณะเดียวกัน นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว เปิดเผยว่า การปิดสนามฟุตบอลไม่ส่งผลกับการชุมนุมในครั้งนี้ เพราะทางกลุ่มจะใช้พื้นที่ลานประติมากรรม หน้าคณะนิติศาสตร์เป็นพื้นที่จัดกิจกรรม และจะค้างคืนในจุดดังกล่าว ตลอดจนบริเวณใต้อาคารนิติศาสตร์บางส่วน ซึ่งได้เตรียมการไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม กิจกรรมจะเริ่มในเวลา 17.00 น. เหมือนเดิม
มธ.ปิดประตูยันไม่มีใครกดดัน
ด้านนางเกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งรวมตัวที่บริเวณมหาวิทยาลัยเพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบรัฐบาลว่า ภาพรวมทาง มธ.คิดว่าการขอใช้พื้นที่จัดกิจกรรมครั้งนี้จะไม่มีปัญหา และไม่กังวลเรื่องมือที่สามที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ เพราะเราจัดเวรยาม รวมถึงมีอาจารย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลเป็นพิเศษ เพราะคิดว่าทุกคนอยู่ในกติกา ทุกฝ่ายพยายามเตือนเรื่องการชุมนุมที่เคารพกติกามาโดยตลอด
ด้านนายอรรถสิทธิ์ พานแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดี มธ. กล่าวว่า กลุ่มคนอยากเลือกตั้งขอใช้พื้นที่บริเวณด้านหน้า มธ. ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม จนถึงช่วงเช้าวันที่ 22 พฤษภาคม จากนั้นจะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ ทาง มธ.จัดเวรยามรักษาความปลอดภัยตามปกติ ไม่ได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติม ส่วนที่เห็นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลบริเวณมหาวิทยาลัยด้วยนั้น คิดว่าทางตำรวจเข้ามาดูแลตามหน้าที่ เพราะมีการจัดกิจกรรมเกิดขึ้น ส่วนมหาวิทยาลัยเองไม่คิดว่าจะมีความรุนแรงหรือมีมือที่สามมาสร้างสถานการณ์ ส่วนที่ต้องปิดประตูด้านหน้ามหาวิทยาลัยนั้น เนื่องจากช่วงเวลานี้มีนักศึกษาซึ่งเดินทางมาสอบจนถึงเวลา 20.00 น. ดังนั้น เพื่อจัดการปัญหาการจราจร จึงขอปิดประตูด้านหน้า และเปิดให้เข้าทางประตูฝั่งท่าพระจันทร์ และท่าพระอาทิตย์ ไม่ได้มาจากแรงกดดันจากฝ่ายใด ทาง มธ.ขอย้ำว่า การปิดประตูด้านหน้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักศึกษาที่มาสอบ และผู้ที่มาติดต่อราชการในส่วนอื่นด้วย ทั้งหมดนี้เป็นส่วนที่มหาวิทยาลัยต้องดูแล รวมถึงผู้ที่มาขอใช้พื้นที่ มธ. ในการจัดกิจกรรม ซึ่งถือเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ โดยจะต้องไม่ละเมิดกฎหมาย
แถลงการณ์ประณามคุกคามปชช.
วันเดียวกัน กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ออกแถลงการณ์กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เรื่องขอประณามการคุกคามและละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรงโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยระบุว่า หลังจากที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งได้ประกาศจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร หยุดระบอบคสช. หยุดยื้อเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 21-22 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะมีการปราศรัยและทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ผ่านขบวนพาเหรดที่สร้างสรรค์ สงบสันติ ปราศจากอาวุธ เพื่อเดินเท้าไปสื่อสารและอ่านแถลงการณ์หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น ได้มีการออกคุกคามประชาชนที่เคยมาร่วมกิจกรรม หรือที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงคาดเดาว่าจะเข้าร่วมกิจกรรมถึงบ้านทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ล่าสุดการยกระดับการคุกคามเกินเลยไปจนถึงการนั่งเฝ้าหน้าบ้าน ติดตาม และขอศาลออกหมายค้น เพื่อไปค้นบ้านประชาชนที่คาดว่าจะมีส่วนในการร่วมสนับสนุนกิจกรรมในทางใดทางหนึ่ง
กระทั่งเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 พฤษภาคม นายอุทัย แถวโพธิ และภรรยา ผู้เคยให้ทางกลุ่มเช่าเครื่องเสียงเพื่อใช้ในงาน ได้ถูกควบคุมตัวโดยแจ้งว่าจะพาไปเข้าค่ายทหารและขาดการติดต่อ นี่คือการอุ้มหาย (Enforced Disappearance) ซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรงในทางกฎหมายสิทธิมนุษยชน และเราได้มีการรายงานเรื่องนี้ต่อองค์กรสิทธิฯ นานาชาติแล้ว กลุ่มคนอยากเลือกตั้งขอยืนยันว่า การชุมนุมโดยสงบสันติปราศจากอาวุธ เป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ได้รับการรับรองไว้ทั้งในรัฐธรรมนูญไทยและในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประเทศไทยไม่อาจเป็นประชาธิปไตยหรือมีบรรยากาศที่พร้อมต่อการเลือกตั้งได้โดยปราศจากการมีส่วนร่วมทางการเมืองภาคประชาชน การกระทำของรัฐที่ผ่านมาขัดแย้งกับหลักการทั้งหมดดังกล่าว และถือเป็นอาชญากรรมที่กระทำต่อประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศที่ถูกยึดอำนาจและละเมิดสิทธิในทุกด้านมาตลอด 4 ปี เราขอประณามการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรงและยืนยันว่าเสรีภาพในการแสดงออกต้องได้รับการเคารพ เราจะดำเนินการชุมนุมตามแผนต่อไปและไม่มีวันยอมจำนนต่อระบอบคสช. ที่พยายามทำให้บ้านเมืองอยู่ในสภาพไร้ขื่อแป
“บิ๊กตู่”ลั่นตัวเองแรงกว่าฟ้า
ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS)
ภายหลังการประชุมผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและมีเสียงฟ้าร้องดังเป็นระยะ ขณะที่นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย หารือเป็นการส่วนตัวที่ห้องรับรองวนาสิริภายในตึกภักดีบดินทร์ จนถึงเวลา 11.30 น. จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ออกจากห้องรับรองเพื่อเดินกลับไปยังห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า
ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงการรับมือสถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง แต่ปรากฏว่ามีฟ้าผ่าเสียงดังสนั่นในขณะนั้น นายกฯ จึงกล่าวว่า “เห็นไหมฟ้าผ่าแล้ว” ก่อนที่จะชี้ไปที่ตัวเองและกล่าวว่า “แต่นี่แรงกว่าฟ้า” ก่อนจะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อปฏิบัติภารกิจต่อ
“บิ๊กป้อม”ห้ามม็อบมาทำเนียบ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่จะเดินขบวนจาก มธ. ท่าพระจันทร์ มาที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง เจ้าหน้าที่ไม่ให้มา เพราะมีกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนจะมีการปะทะหรือไม่นั้น ไม่มีปะทะ ก็ไม่ต้องเดินและไม่ต้องมา
เมื่อถามว่า เพราะว่าฝ่ายความมั่นคงไปบล็อกท่อน้ำเลี้ยงไว้หมดแล้ว พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่ต้องบล็อก ไม่ต้องรู้หรอก ทำแล้วกัน ทำให้เกิดความสงบ ส่วนได้ประเมินจำนวนผู้เข้าชุมนุมหรือไม่นั้น ไม่ต้องประเมิน ก็มีเท่าเดิม เท่าที่เห็นนั่นแหละคนอยากเลือกตั้ง”
เชื่อกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ผสมโรง
ส่วนที่การข่าวระบุจะมีกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์เข้ามาผสมโรงนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อันนี้เรื่องของการข่าว หลังจับอาวุธได้ ได้แจ้งเตือนไปแล้ว ส่วนการข่าวมีการเชื่อมโยงว่าจับอาวุธได้หรือไม่นั้น “ใช่ๆ เพื่อจะแทรกแซงของพวกฮาร์ดคอร์กับพวกอยากเลือกตั้ง ถ้าพวกอยากเลือกตั้งอยู่เฉยๆ ก็ไม่เป็นอะไร ก็พูดไปอยู่กับที่ ในธรรมศาสตร์ ที่จัดให้ตามห้วงเวลา”
ลั่นเอาอยู่เพราะอยู่มา 4 ปีแล้ว
เมื่อถามว่าถ้าเกิดเหตุรุนแรงขึ้น แกนนำจะต้องรับผิดชอบหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ถ้าเป็นการเดินก็ต้องรับผิดชอบ เพราะผิดกฎหมาย มั่นใจไม่มาแน่ ส่วนที่มีกระแสข่าวเชิญชวนในเฟซบุ๊กระบุเป็นกลุ่ม กปปส. ไม่อยากเลือกตั้ง นัดชุมนุม 27 พฤษภาคมนี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมินั้น ยังไม่ถึงวันที่ 27 ใครก็ชุมนุมไม่ได้ เขาส่งโซเชียลมีเดีย สื่อได้อ่านไหม
ส่วนที่ถามว่าทำไมมั่นใจว่าจะเอาอยู่ พล.อ.ประวิตร เผยว่า ก็เอาอยู่มา 4 ปีแล้ว ไม่มีอะไรหรอก อย่าไปเขียนอะไรกันให้มากนัก อยู่ที่สื่อนั่นแหละ เขียนไม่ค่อยตรง
“คสช.”คาดม็อบประมาณ500-700
แหล่งข่าวจาก คสช. กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งว่า เรื่องของการดูแลความปลอดภัยเป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนทหารก็ดูแลอยู่รอบนอก คอยเป็นกำลังเสริมให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชั้นหนึ่ง
“วันที่ 22 พฤษภาคม เป็นวันครบรอบ 4 ปี คสช. ในเวลานี้ก็จะเป็นยุทธการด้อยค่า คสช. จะรุนแรง รวมทั้งจะมุ่งมั่นชี้ว่า คสช.ไม่ได้ทำอะไรให้บ้านเมือง ให้ประสานเสียงให้ดังที่สุด จึงเป็นการมารวมตัวกัน ทางทหาร ตำรวจ เลี่ยงที่จะให้เกิดการปะทะ แม้ว่าการข่าวจะแจ้งว่ามีการติดต่อประสานกับกลุ่มฮาร์ดคอร์ที่เป็นแดงเก่าให้เข้ามาป่วน รวมถึงการจ้างผู้มาชุมนุมหัวละ 500 บาท ให้มาชุมนุมให้มากที่สุด แต่ทั้งนี้ประเมินว่ามีไม่มาก เพราะเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศไม่อยากให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายกลับไปรุนแรงเหมือนปี 35 อีก แต่ถ้าจะเกิดความรุนแรงได้ก็คือการที่ม็อบจะกระทำกับเจ้าหน้าที่” แหล่งข่าวจาก คสช.กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าการชุมนุมดังกล่าวจะไม่ยืดเยื้อและมีผู้ร่วมชุมนุมประมาณ 500-700 คน โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักศึกษา กลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่มนักวิชาการ กลุ่มเอ็นจีโอ และมวลชนจากภูมิภาคประมาณ 100-200 คน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะดูแลอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้ดีที่สุด โดยเฉพาะก่อนที่ผู้ชุมนุมจะเดินทางเข้ามาใน ม.ธรรมศาสตร์ จะต้องผ่านจุดคัดกรองของเจ้าหน้าที่ที่ห้ามนำอาวุธต่างๆ เข้าไปในพื้นที่ชุมนุมอย่างเด็ดขาด
“ศรีวราห์” ยันแดงฮาร์ดคอร์ร่วม
ที่กองปราบปราม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งจะนอนค้างคืนภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และเคลื่อนขบวนไปทำเนียบในวันที่ 22 พฤษภาคม ว่า เรื่องนี้ได้ตำหนิ ผกก.สน.ชนะสงคราม ไปแล้วว่า ใช้ดุลพินิจในการอนุญาตให้พักค้างได้อย่างไร ซึ่งได้ให้แก้ไขยกเลิกไปแล้ว ทั้งนี้ สำหรับการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้เลือกตั้งเร็วนั้น ขัดกับการชุมนุมทางการเมือง ตามคำสั่ง คสช.ซึ่งไม่สามารถทำได้ หากมีการกระทำใดๆ ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ก็จะพิจารณาดำเนินคดี
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า สำหรับการเดินเท้าของกลุ่มมวลชนดังกล่าว จะลงไปตรวจสอบด้วยตัวเอง เพราะพื้นที่ที่มีการกำหนดจะเดินไปนั้นใกล้กับเขตพระราชฐาน ในระยะ 150 เมตร โดยจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ 3-20 กองร้อย เอาไว้รองรับตามสถานการณ์
"จากการข่าว ขอยืนยันว่ามีกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์อย่างแน่นอน แต่อยู่ที่ว่าเราจะหยุดอยู่หรือไม่ ดังนั้น จึงอยากฝากไปถึงกลุ่มคนเหล่านี้ด้วยว่า อย่าก่อความวุ่นวาย หากวันที่ 22 พฤษภาคม มีการชุมนุม ก็ต้องดูว่าเจ้าหน้าที่ทหารอนุมัติให้มีการชุมนุมหรือไม่ หากไม่อนุมัติก็ไม่สามารถทำได้ และสั่งห้ามเข้าพื้นที่ 50 เมตร รอบทำเนียบรัฐบาล
ทหารแจงสอบคนให้เช่าเครื่องเสียง
พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (ผบ.มทบ.11) และทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีที่นายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชนและนักกิจกรรมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โพสต์ข้อความเปิดเผยว่า นายอุทัย แถวโพธิ์ อายุ 51 ปี ผู้ให้เช่ารถเครื่องเสียงกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้งถูกทหารในพื้นที่ปทุมธานี ซึ่งได้รับคำสั่งพาตัวนายอุทัยเข้า มทบ.11 เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมาว่า ขอชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ได้เชิญนายอุทัยมาสอบถามข้อมูลความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงในการเป็นผู้สนับสนุนการจัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวทางการเมืองในหลายโอกาส ซึ่งนายอุทัยก็ได้ยอมรับว่าให้การสนับสนุนระบบไฟฟ้า ระบบแสงและเครื่องเสียงในการจัดการชุมนุมในหลายครั้งที่ผ่านมา โดยได้รับค่าตอบแทนจากแกนนำการชุมนุมจริง และได้ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อทางราชการเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยขอความร่วมมือและทำความเข้าใจว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน การชุมนุมทางการเมืองและความเคลื่อนไหวควรต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายและไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น ซึ่งอาจเป็นความผิดตามกฎหมายได้ โดยเจ้าตัวตอบรับและแสดงออกถึงความร่วมมือเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (21 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวและไปส่งถึงบ้านแล้วเรียบร้อยโดยสวัสดิภาพ
"สุเทพ” ปัดเป่านกหวีด ปลุกกปปส.
ที่อาคารแปซิฟิก 2 ถนนสุขุมวิท นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตแกนนำกปปส. และอดีตส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากปปส.จะนัดชุมนุมรวมพลังไม่อยากเลือกตั้งในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ ซึ่งกำลังเผยแพร่ในโลกโซเชียลมีเดียว่า แกนนำกปปส.ไม่มีการนัดหมายเพื่อชักชวนคนมาชุมนุมตามที่มีการโพสต์ในโซเชียลมีเดีย และไม่รู้จักกับคนโพสต์ แต่ในการชุมนุมกปปส.มีคนร่วมชุมนุมเป็นหลักล้าน ใครก็อ้างเป็นกปปส.ได้ ตนและแกนนำไม่มีใครที่มีความคิดไม่ให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในบ้านเมือง
ยันไม่เคยบอกหนุนบิ๊กตู่นั่งนายกฯ
“ผมพูดได้เต็มปากเต็มคำในฐานะแกนนำและประธานกปปส. เพราะถือว่าบทบาท กปปส. ยุติบทบาทแล้ว เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช.เข้ายึดอำนาจ ทั้งนี้ จุดยืนกปปส.ชัดเจนว่าเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ให้ดำเนินการให้มีเลือกตั้งไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่ไม่เคยพูดว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ คนต่อไป พูดแต่เพียงว่าสนับสนุนให้บริหารประเทศ” นายสุเทพกล่าว
ลุงกำนันแฉแผนลวงล้มเลือกตั้ง
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ขณะนี้สังเกตว่ามีผู้พยายามสร้างสถานการณ์ เพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น กลุ่มหนึ่งคาดคิดเอาเองว่าหากมีการเลือกตั้งตามโรดแม็พ อาจทำให้ฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันหรือคสช.ได้เปรียบจากการเลือกตั้ง คนเหล่านั้นจึงคิดว่าหากพยายามที่จะไม่ให้มีการเลือกตั้ง เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของคสช.ตกต่ำลง จนคสช.จัดเลือกตั้งไม่ได้ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคิดให้มีรัฐบาลแห่งชาติ ไม่ให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่ความคิดของกปปส. เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดภาวะดังกล่าวขึ้น
ย้ำกปปส.ไม่เป็นเครื่องมือพวกป่วน
“ดังนั้น ขอให้มวลมหาประชาชนติดตามด้วยความรอบคอบระมัดระวัง อย่ายอมเป็นเครื่องมือให้ฝ่ายใด ยืนยันจะไม่มีการชุมนุมใดๆ ของกปปส. อันจะทำให้บ้านเมืองยุ่งเหยิงมากไปกว่านี้ และถ้าไม่มีความจำเป็นเราจะไม่เคลื่อนไหวในนาม กปปส. และเราไม่ต้องการให้เกิดเหตุม็อบชนม็อบ ใครก็ตามที่สร้างสถานการณ์หรือซ้ำเติมสถานการณ์ ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ทำบาปต่อแผ่นดิน” นายสุเทพกล่าว
วอนม็อบหยุดเติมขัดแย้ง
เมื่อถามต่อว่ามองอย่างไรกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้งจะมีการชุมนุมในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องขอโทษที่ต้องบอกว่าถ้าอยากให้มีการเลือกตั้งจริงๆ ให้อยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรก็จะมีการเลือกตั้งอยู่แล้ว ไม่อยากเติมเชื้อไฟเข้าไปอีก และอยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงภาพรวมประเทศ เพราะการออกมาเคลื่อนไหวชุมนุม มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย อาจลุกลามเป็นความไม่สงบในบ้านเมือง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการไปสู่การเลือกตั้งแน่นอน ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยถูกหมายจับดำเนินคดีกรณีเตรียมแถลงการณ์ครบรอบ 4 ปีคสช.นั้น ไม่ขอวิจารณ์ ไม่อยากให้ตัวเองเป็นผู้สร้างปัญหาอีก
“แกนนำแดง”โวยขนอาวุธหนุนม็อบ
ด้าน นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มนปช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวระบุกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์จะผสมโรงม็อบคนอยากเลือกตั้งขนอาวุธหนักเข้ามาว่า เป็นข่าวที่ทั้งโกหก ทั้งมั่ว เพราะถ้ามีแดงฮาร์ดคอร์จริง ป่านนี้ตั้งแต่พวกคุณทำรัฐประหารคงจะมีการรบกันแล้ว แล้วตลอด 4 ปีที่ผ่านมาที่คุณเข้ามานั่งอยู่ตรงนี้พวกคุณทำอะไรกันอยู่ ทำไมไม่ไปตามจับเขา การให้ข่าวแบบนี้เป็นการให้ข่าวที่ไร้ความรับผิดชอบ ไม่น่าจะเป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งที่สูง เพราะข่าวแบบนี้ทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องนั้นเกิดความเข้าใจผิด แล้วทำให้บ้านเมืองไม่สงบ ทั้งยังเป็นข้ออ้างให้คนที่อยากอยู่ในอำนาจต่อ
“มาร์ค” หวั่นม็อบปะทุรุนแรง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์การชุมนุมในช่วงเดือนพฤษภาคมของการเมืองไทยในอดีตที่ผ่านมาว่า ในช่วงเหตุการณ์ปี 2553 จะพูดถึงแค่การเผาบ้านเมืองคงไม่ได้ เพราะต้องยอมรับว่าตอนนั้นมีการสูญเสียด้วย ผ่านตรงนั้นมา 8 ปี แล้ว ถ้าถามว่าปัจจุบันมั่นใจหรือไม่ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เชื่อว่า หลายคนยังหวั่นใจอยู่ว่าอาจเกิดขึ้นอีกได้ เพราะดูสภาพการเมืองหลังการปฏิวัติ 2557 หลายอย่างดูเหมือนสงบ แต่เหมือนกับหลายอย่างยังไม่ได้เคลื่อนตัวในแง่ของเงื่อนไข หรือเชื้อของความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นได้
8แกนนำเพื่อไทยพบตำรวจ
ที่กองปราบปราม 8 แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้แก่ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค, นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค, นายชัยเกษม นิติสิริ อดีตรมว.ยุติธรรม, นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ, นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ, นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์ และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรมว.คลัง เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนที่กองปราบปรามเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาของคสช. หลังสมาชิกพรรคเพื่อไทยตั้งโต๊ะวิจารณ์ผลงาน 4 ปีของคสช. ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 57/57 ห้ามมิให้พรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วดําเนินการประชุม หรือดําเนินกิจการใดๆ ในทางการเมือง, ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ในข้อ 12 ชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป, มาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก
ลั่นไม่มีข้อแถลงโยงไปสู่ยุบพรรค
ขณะที่นายภูมิธรรม กล่าวว่า ข้อกล่าวหาทั้ง 4 ข้อที่แจ้งเอาผิดสะท้อนให้เห็นว่า ฝ่ายความมั่นคงใช้กฎหมายอย่างไม่ยุติธรรมและไม่เสมอภาคหรือไม่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ 5 คนที่เหลือไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่มีสมาชิก 3 คนนั่งแถลงข่าว ขณะเดียวกันก่อนการแถลงได้มีการเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้รับคำตอบมาว่าสิ่งไหนทำได้ สิ่งไหนทำไม่ได้ แต่ตำรวจก็ไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจน ส่วนข้อกล่าวหาที่แจ้งจับจะโยงไปถึงการยุบพรรคหรือไม่นั้น ได้นั่งดูทุกเรื่องที่แถลงยังไม่เห็นมีข้อไหนที่เข้าข่ายความผิดจนนำไปสู่การยุบพรรค และไม่คิดว่ารัฐบาลจะกล้าทำในสิ่งนี้ อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นกับการตัดสินใจของประชาชนเพราะประชาชนคือคนกำหนดทิศทางของประเทศ ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งในวันที่ 22 พฤษภาคม แต่ฝ่ายความมั่นคงออกมาสกัดกั้นถือเป็นการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นของประชาชน
ศาลแพ่งสั่งจำหน่ายคดีสุเทพ
ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดชี้สองสถานในคดีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เป็นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) และพวก รวม 39 คนที่ตกเป็นจำเลย จากกรณีเมื่อปี 2557 จำเลยกับพวกทั้งหมดได้ร่วมขัดขวางการจัดการเลือกตั้งของ กกต. จนทำให้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้
ส่วนการพิจารณาคดีในวันนี้ ศาลได้ชี้สองสถาน เพื่อกำหนดประเด็นการต่อสู้ให้มีความครอบคลุม นอกจากนี้ศาลยังได้สอบถามในเรื่องคดีความที่นายสุเทพถูกฟ้องร้องอยู่ในขณะนี้ ซึ่งมีทั้งคดีกบฏ อังยี่ ซ่องโจร มั่วสุม และชุมนุมขัดขวางการเลือกตั้ง ศาลพิเคราะห์แล้วจึงเห็นควรให้มีการจำหน่ายคดีแพ่งออกไปชั่วคราว เพื่อรอฟังผลของคดีอาญาที่มีคดีกบฏเป็นหลัก และศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐาน(คดีกบฏ) ในวันที่ 25 มิถุนายน 2561 เวลา 09.00 น.
ป.ป.ช.เชือด “เมียอริสมันต์"
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ปช.) สนามบินน้ำ นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการป.ป.ช. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ภรรยานายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ร่ำรวยผิดปกติ 42,816,226 บาท พร้อมรายงานผลไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินต่อไป
(ข่าวหน้า1นสพ.คมชัดลึก)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง