ข่าว

รัฐเร่งจัดแผน"บิ๊กตู่"สัญจร-เมินโดนด่าเดินสายดูดส.ส.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พลังดูดแรงไม่หยุดเปิดโผ 24 อดีต ส.ส.อีสาน-เหนือสนใจเข้าพรรคทหาร ด้านรัฐเมินถูกด่าเดินสายดูด ย้ำไม่ขอปรับแผน"บิ๊กตู่"ลงพื้นที่พบประชาชน

      เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 14 พฤษภาคม ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมงานพระราชพิธีพืชมงคลแรกนาขวัญ พุทธศักราช 2561 เนื่องในวันพืชมงคลว่า ขอให้ทุกคนที่ประกอบอาชีพการเกษตรประสบความสำเร็จในการประกอบการและในด้านการผลิตก็ขอให้ระมัดระวังหน่อย รวมทั้งการเตรียมการรองรับความเสี่ยงในเรื่องน้ำท่วม ฝนแล้งอย่างที่รัฐบาลได้แนะนำไปแล้ว การทำนาขอให้ดูเรื่องการปล่อยน้ำ การทำนาที่ต้องต่างเวลากันบ้าง ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ต่อการเก็บเกี่ยวตามระยะเวลา ช่วงเวลาที่น้ำมากหรือน้ำน้อย

“บิ๊กตู่”ขอสื่อช่วยกระพือ“ไทยนิยม”

    “สิ่งสำคัญวันนี้อยากเป็นกำลังใจให้พี่น้องเกษตรกรทุกคนทุกสาขาอาชีพ ขอให้ทุกคนเรียนรู้และรับฟังในสิ่งที่รัฐบาลทำไว้ให้ อาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่หลายคนต้องการ แต่จะเกิดความยั่งยืนในภายหลังก็ย่อมจะดีกว่าการที่ทำให้รวดเร็วขึ้นแล้วล้มพังลงมาเหมือนเดิม เพราะเป็นเรื่องการเพาะปลูกที่เกินความต้องการของตลาด” นายกฯ กล่าว

    จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามถึงช่วงหน้าฝนจะมีการลงพื้นที่ในจุดไหนบ้าง โดยนายกฯ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว โดยผู้สื่อข่าวได้ถามต่อถึงกรณีผลสำรวจนิด้าโพล ระบุคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้ความหมายของไทยนิยม ยั่งยืน คืออะไร โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับว่า “เมื่อไม่รู้ ก็ทำให้เขารู้จักสิ”

รัฐเร่งจัดแผน"บิ๊กตู่"สัญจร-เมินโดนด่าเดินสายดูดส.ส.

"ยันไม่ปรับแผน "บิ๊กตู่" ลงพื้นที่

    ด้านพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีฝ่ายการเมืองครหาว่าการลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์เป็นการลงไปดูดอดีตส.ส.เข้าพรรคทหาร จะเป็น อุปสรรคต่อการลงพื้นที่ต่อไปหรือไม่ ว่าไม่มีปัญหาเพราะมีกำหนดการวางไว้อยู่แล้วตามตารางว่าเดือนไหนนายกฯ จะลงพื้นที่พบปะประชาชนที่ใดและจังหวัดไหนบ้าง และการลงพื้นที่ก็เพื่อไปแก้ไขปัญหาขัดข้อง รวมถึงดูข้อร้องเรียนให้ประชาชนเพื่อที่รัฐบาลจะได้นำกลับมาแก้ไขปัญหาให้

    อย่างไรก็ตามยืนยันไม่มีการปรับแผนกำหนดการลงพื้นที่นายกฯแน่นอนรัฐบาลไม่จำเป็นต้องมีการปรับแผนการลงพื้นที่ใหม่ เดินตามกำหนดแผนการเดิม และไม่ได้วิตกกังวลอะไรกับเรื่องดังกล่าว ส่วนที่นายกฯ ยกเลิกกำหนดการเดินทางไป จ.สระแก้ว เนื่องจากสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ติดภารกิจไม่ใช่กลัวว่าจะถูกครหาเรื่องนี้

รัฐเร่งจัดแผน"บิ๊กตู่"สัญจร-เมินโดนด่าเดินสายดูดส.ส.

ศุภชัยเชื่อบิ๊กตู่เล่นการเมืองชัวร์

     วันเดียวกัน นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะครบ 4 ปี ว่าต้องมองย้อนกลับไปว่าการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เริ่มต้นมาจากการที่ความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรง คสช.จึงเข้ามาเพื่อเฝ้าระวังไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งของบ้านเมืองขึ้นใหม่รวมไปถึงป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์ความรุนแรงที่อาจถึงขั้นนองเลือดกันบนท้องถนน คสช.จึงเข้ามาวางกฎเกณฑ์ กติกาใหม่ชูการปฏิรูปประเทศ ขณะเดียวกันเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า คสช.คือกลุ่มอนุรักษนิยมเก่ากับกลุ่มอำนาจเก่า พอเข้ามาบริหารประเทศเริ่มต้นที่จะสร้างแนวคิด “บ้านเมืองที่ดีกว่า” จึงมีการออกแบบรัฐธรรมนูญ มีการปฏิรูปประเทศในหลายประเด็น กำหนดยุทธศาสตร์ชาติตามมา

     รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวต่อว่า แต่ดูเหมือนว่าเมื่อมาถึงจุดๆ นี้ จากเดิมทีที่คสช. จะเข้ามาดูแลบ้านเมืองเพื่อให้เดินหน้าตามที่ตัวเองปรารถนาคือบ้านเมืองที่ดี ซึ่งต้องยอมรับว่ามีความพยายามอย่างน่าชื่นชม แต่พอในปีนี้หลายคนคงเกิดความรู้สึกว่าคสช.ที่คิดว่าจากเดิมจะอยู่เบื้องหลัง วางกฎเกณฑ์กติกาให้เดิน ก็กลัวว่าสิ่งที่ตัวเองทำมาจะเสียของก็เลยจะมาเป็นผู้เล่นเอง เพราะไม่แน่ใจว่าจะเป็นผู้ชักใยเบื้องหลังแล้วจะสามารถทำได้ตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งดูได้จากท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ หรือการออกมาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ตลอดจนกระแสข่าวการตั้งพรรคการเมืองเพื่อสนับสนุนคสช.และพล.อ.ประยุทธ์ สิ่งเหล่านี้ทำให้เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์จะเล่นการเมืองแน่นอน

 

"ย้ำจุดยืนหนุน"คนใน"นั่ง"นายกฯ"

     นายศุภชัย กล่าวต่อว่า จึงมีคำถามว่ารัฐธรรมนูญที่ออกกฎหมายทำให้พรรคการเมือง นักการเมืองทำงานลำบาก โดนจับตรึงไว้ แล้วกติกาที่กำหนดไว้บล็อกคนอื่น แล้วพรรคตัวเองก็ต้องมาใช้กติกานี้ด้วย แล้วจะทำอย่างไร ในส่วนประเด็นนายกรัฐมนตรีคนในหรือคนนอกนั้น ขอย้ำจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยว่าเราชูนายกรัฐมนตรีคนในซึ่งเป็นไปตามกติกาและเป็นไปตามลำดับ แต่ถ้าปรากฏว่านายกรัฐมนตรีคนในไม่อาจเกิดขึ้นเราก็ต้องไปที่นายกรัฐมนตรีคนนอกซึ่งก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เพราะถ้ายังหานายกรัฐมนตรีไม่ได้แล้วรัฐธรรมนูญกำหนดให้คสช.บริหารงานไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรี การตัดสินใจเลือกนายกรัฐมนตรีให้เสร็จสิ้นตามรัฐธรรมนูญจึงเป็นสิ่งที่พึงกระทำให้เร็วที่สุด ส่วนพรรคภูมิใจไทยพูดอยู่เสมอว่าเราจะตกลงอะไรก็ต้องว่ากันเมื่อรู้ผลการเลือกตั้งเท่านั้น" นายศุภชัย กล่าว

    เมื่อถามว่า มองว่าการปฏิรูปประเทศของคสช.เสียของและเสียเวลา ตลอด 4 ปีหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า อย่างน้อยๆ ก็ทำให้คนไม่ตีกัน แต่ก็หวังว่าจากนี้ไปการปฏิรูปประเทศตามหัวข้อต่างๆ ของคสช. จะทำได้จริงหรือไม่ ซึ่งเราต้องยอมรับว่าในยามนี้การปฏิรูปประเทศไม่ใช่ของง่าย และถ้าพล.อ.ประยุทธ์ จะมาเล่นการเมืองและตัดสินใจอยู่ในระบอบรัฐสภา คสช.มาอยู่ด้วยกันกับพรรคการเมือง นักการเมืองก็เชื่อว่าจะร่วมกันทำงานได้ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยพร้อมให้ความร่วมมือหากประชาชนและประเทศชาติจะได้ประโยชน์สูงสุด

เด็กภูมิใจไทยรับมีพรรคในดวงใจ

    ด้านนายภิรมย์ พลวิเศษ อดีตส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่ากำลังถูกดูดจากพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคคสช. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นแกนนำว่า ณ เวลานี้ยังไม่ได้เข้าสังกัดพรรคการเมืองใด แต่ยอมรับว่ามีพรรคการเมืองอยู่ในใจแล้วและเป็นพรรคที่มียุทธศาสตร์และนโยบายที่สามารถตอบโจทย์แก้ปัญหาของประชาชนทุกระดับได้อย่างเป็นรูปธรรมที่สำคัญจะเป็นพรรคที่ใช้ยุทธศาสตร์แก้ปัญหาและพัฒนาประเทศนำหน้าการเมืองไม่ใช่เป็นพรรคที่เอานายทุนการเมืองมานำหน้าเหมือนที่ผ่านมา

    “พรรคนี้จะมีผู้ใหญ่ทางการเมืองที่เคารพนับถือเป็นแกนนำและจะยึดหลักการของพรรคคือ สงบ มั่นคง ยั่งยืน ตนจึงเชื่อมั่นว่าพรรคนี้จะเป็นความหวังและเป็นที่พึ่งของประชาชนคนไทยได้อย่างแน่นอน ในส่วนของผมพร้อมด้วยนางอรทัย พลวิเศษ ภรรยา ก็ได้ลงพื้นที่พบปะรับฟังปัญหาของความเดือดร้อนของประชาชนในเขตเลือกตั้งอำเภอบัวใหญ่และอำเภอคงมาโดยตลอดและก็ได้รับปากพี่น้องประชาชนแล้วว่าหากมีโอกาสเข้าไปเป็นผู้แทนราษฎรอีกครั้งปัญหาเหล่านั้นจะได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน” นายภิรมย์ กล่าว

เปิดโผอดีตส.ส.จ่อเข้าพรรคลุงตู่

     แหล่งข่าวแจ้งว่าขณะนี้มีการคาดหมายกันว่าจะมีอดีตส.ส.และอดีต ส.ว.ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือสนใจจะเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐของคสช. ณ วันที่ 12 พฤษภาคม 2561 แล้ว จำนวน 24 คน คือ จ.นครราชสีมา ได้แก่ นายภิรมย์ พลวิเศษ และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ จ.ขอนแก่น ได้แก่ นายปัญญา ศรีปัญญา และนายประสงค์ สีลวัฒน์ จ.ศรีสะเกษ ได้แก่ นายอมรเทพ สมหมาย นายกล่ำคาน ปาทาน และนายพิทยา บุญเฉลียว จ.อุบลราชธานี นายวีระศักดิ์ จีนาภักดิ์ จ.สุรินทร์ นายยรรยง ร่วมพัฒนา จ.อำนาจเจริญ นายวิเชียร อุดมศักดิ์ นายชัยศรี กีฬา และนายบวรศักดิ์ คณาเสน

     จ.หนองบัวลำภู คือ นายสรชาติ สุวรรณพรหม จ.มหาสารคาม คือ นายสุชาติ ศรีสังข์ จ.ร้อยเอ็ด คือ นายเกษม มาลัยศรี จ.หนองคาย คือ นายสมคิด บานไธสง จ.นครพนม คือ นายอรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพย์สิทธิ์ จ.กาฬสินธุ์ นายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง จ.บึงกาฬ นายยุทธพงษ์ แสงศรี จ.ยโสธร นายวิสันต์ เดชเสน จ.อุดรธานี นพ.วิชัย ชัย จิตวนิชกุล จ.ชัยภูมิ นายวัฒนา แก้วศิริ จ.เชียงราย นายบัวสอน ประชามอญ และจ.แม่ฮ่องสอน นายปัญญา จีดาภักดิ์

รัฐเร่งจัดแผน"บิ๊กตู่"สัญจร-เมินโดนด่าเดินสายดูดส.ส.

เลืองตั้งมาเลย์อาจทำตื่นตัว

     นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งมาเลเซียที่นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด ได้รับเลือกเป็นนายกฯ อีกครั้งในวัย 92 ปี คิดว่าประเทศไทยได้บทเรียนอะไรบ้างว่า หลายคนมองเห็นว่าถ้าสามารถทำให้ประชาชนมีความตื่นตัวการไม่ยอมรับหรือต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นการใช้อำนาจรัฐต่างๆ และสามารถใช้สิทธิ์นั้นผ่านกระบวนการการเลือกตั้ง ก็เป็นเรื่องที่บอกถึงความเข้มแข็งของระบอบประชาธิปไตย เพราะของเราที่ผ่านมาปัญหาของการใช้อำนาจในทางมิชอบ แม้มีการเลือกตั้งแล้วก็เป็นที่มาของวิกฤติการณ์การเมือง และประชาชนมีปัญหามาโดยตลอดในการต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้ และยังเป็นเหตุผลที่คสช.มักจะอ้างว่าหากมีการเลือกตั้งแล้วจะกลับไปมีปัญหาวุ่นวายเหมือนเดิมหรือไม่ ถ้าเราสามารถทำได้เหมือนที่มาเลเซียทำครั้งนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี

เชื่อคนจำนวนไม่น้อยหนุน “ชวน”

     เมื่อถามว่าคนขนาดนายมหาธีร์ อายุ 92 ปี เป็นนายกฯ ได้ อย่างนี้คิดว่านายชวน หลีกภัย สามารถเป็นนายกฯ ได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าพูดถึงอายุ นายชวนอายุน้อยกว่าเยอะ แต่ท่านยังเป็นบุคคลที่มีผู้คนเคารพนับถือศรัทธาจำนวนมาก และก็ยังเห็นว่าท่านเป็นนักการเมืองแบบอย่างที่ดีในระบอบประชาธิปไตย ให้ความสำคัญในการซื่อสัตย์สุจริต สนใจปัญหาของประชาชน ท่านทำงานไม่หยุด เดินทางไปทุกพื้นที่

    “ผมเชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยที่สนับสนุนท่าน แต่ที่ผ่านมาท่านเป็นคนที่แสดงออกว่าท่านไม่รับในทำนองนั้น แต่ก็เป็นเรื่องของอนาคตที่ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ ซึ่งในส่วนของพรรค หลังจากคสช.ปลดล็อก ก็ต้องตราข้อบังคับพรรคใหม่ เลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค และเมื่อมีกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรคชุดใหม่แล้ว ถึงจะมาเริ่มพิจารณาเรื่องผู้สมัครส.ส. รวมถึงการเสนอชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกฯ ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการของพรรค จึงยังไม่รู้ว่ารายชื่อ 3 คนที่จะเสนอเป็นนายกฯ มีใครบ้าง แม้แต่ผมก็ไม่รู้ เพราะตำแหน่งหัวหน้าพรรคอาจจะมีคนลงแข่งขันก็ได้ ผมยังไม่ทราบ” นายอภิสิทธิ์กล่าว

รัฐเร่งจัดแผน"บิ๊กตู่"สัญจร-เมินโดนด่าเดินสายดูดส.ส.

"นิพิฏฐ์เชื่อไม่เปลี่ยนหัวหน้าพรรค

    นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมการของพรรคประชาธิปัตย์ในระหว่างที่ยังไม่สามารถประชุมพรรคการเมืองได้ว่า มีการเตรียมข้อบังคับพรรคเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีความเปลี่ยนแปลงจากเดิมคือให้สมาชิกพรรคเลือกหัวหน้าพรรค และยังมีการทำเรื่องไพรมารีโหวตส.ส.เขตและระบบบัญชีรายชื่อด้วย ซึ่งมั่นใจว่าในการเลือกผู้บริหารใหม่จะไม่มีแรงกระเพื่อมภายในพรรค เนื่องจากส่วนใหญ่ยังยืนยันให้นายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคต่อไป และเชื่อว่าสมาชิกพรรคก็จะเลือกนายอภิสิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ปัญหาคือระบบเลือกตั้งใหม่ ส.ส.เขตจะมีความสำคัญค่อนข้างสูง ทำให้ส่วนใหญ่อยากลงส.ส.ในระบบเขตเป็นปัญหาของพรรคใหญ่ในการจัดคนลงสมัคร เนื่องจากไม่มีใครอยากขึ้นบัญชีเพราะมีความเสี่ยงสูงขึ้น และยังต้องทำไพรมารีโหวตด้วย ขณะที่คนใหม่จะเข้าสู่การเมืองยากขึ้น เนื่องจากคนไม่รู้จักและเขตก็เต็มไปด้วยส.ส.เก่า สมาชิกคุ้นเคย ส.ส.เก่า ไม่คุ้นคนใหม่ คนดัง มาแข่งคนเก่ายาก

     “ผมจึงเสนอความเห็นต่อหัวหน้าพรรคให้เติมคนใหม่ในบัญชีรายชื่อ เพื่อให้เห็นว่ามีการถ่ายเทคนใหม่เข้ามาเป็นเลือดใหม่ทางการเมือง ถ้าเอาคนใหม่ไปอยู่เขตก็อาจไม่มีวิธีการปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้าน อย่างไรก็ตามยังมีปัญหาในเรื่องที่สมาชิกที่มายืนยันไม่ได้กระจายทั่วประเทศแล้ว โดยหนักไปในบางพื้นที่ ทำให้การทำไพรมารีโหวตก็มีแนวโน้มจะเลือกคนในพื้นที่ตัวเอง ซึ่งจะทำให้บัญชีรายชื่อกระจุกในบางภาค เช่น แสนคนของสมาชิกประชาธิปัตย์ทั่วประเทศอยู่ที่ภาคใต้สี่หมื่นคน สมาชิกใต้ก็จะเลือกคนที่ตัวเองรู้จัก ทำให้บัญชีรายชื่อในภาคอื่นไม่ได้ ไม่กระจายไปทุกพื้นที่” รองหัวหน้าพรรคปชป. กล่าว

รัฐเร่งจัดแผน"บิ๊กตู่"สัญจร-เมินโดนด่าเดินสายดูดส.ส.

ฟันธงแก้กฎหมายพรรคการเมือง

    นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า มีความมั่นใจว่าจะมีการแก้กฎหมายพรรคการเมืองอีกรอบโดยไม่มีการทำไพรมารีโหวตได้ เนื่องจากต้องมีสมาชิกจังหวัดละ 100 คน รวมทั่วประเทศต้องมีเป็นหมื่น แต่บางพรรคหาไม่ได้ ยิ่งพรรคใหม่ที่สนับสนุนทหารยิ่งยากที่จะหาสมาชิกให้ครบตามจำนวน จึงน่าจะมีการแก้กฎหมายพรรคการเมืองให้สมประโยชน์ต่อพรรคการเมืองใหม่ที่สนับสนุนทหาร ซึ่งช่วงเวลาที่จะนำไปสู่การแก้กฎหมายพรรคการเมืองจะเกิดขึ้นได้จาก 2 ปัจจัย คือ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ขัดรัฐธรรมนูญ ทำให้ต้องกลับมาแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองใหม่ เพราะไม่สามารถปฏิบัติตามกรอบเวลาที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดไว้ได้

     “คสช.อาจใช้ช่วงเวลานี้ประชุมพรรคการเมืองเพื่อสอบถามความเห็นและจะมีการเสนอให้แก้ไขในเรื่องไพรมารีโหวตหรือยกเว้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า หรือการเสนอแก้กฎหมายพรรคการเมืองเกิดขึ้นหลัง กฎหมายเลือกตั้งส.ส.ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และคสช.เรียกพรรคการเมืองหารือตามกรอบเดิมที่กำหนด ในคำสั่งคสช. ที่ 53/2560 แต่ผลลัพธ์ยังคงเหมือนเดิมคือให้พรรคขนาดเล็กและขนาดกลางหรือพรรคใหม่เสนอให้แก้เรื่องไพรมารีโหวตหรืองดเว้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

เห็นด้วย“โนพร็อบเบล็มโมเดล”

    นอกจากนี้นายนิพิฏฐ์ ยังกล่าวถึงแนวคิดของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) ชูการเมืองสูตร พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี เน้นโอบไหล่คนกลุ่มต่างๆ ที่มีความขัดแย้งให้สถานการณ์คลี่คลายลงได้ เป็นสูตรโนพร็อบเบล็ม ว่าเรื่องแนวคิดการเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้านั้นถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง การยุติความขัดแย้งในประเทศไม่ว่าจะเรียกว่าโมเดลอะไรก็ตามตนเห็นด้วย เพราะการจะทำให้ประเทศเดินหน้าก้าวข้ามปัญหาไปได้นั้นเป็นสิ่งที่ดีและสำคัญมาก แต่ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับนายสุวัจน์ทั้งหมด ซึ่งบางประเด็นเชื่อว่าหากมีความเห็นแย้งก็สามารถพูดคุยกันได้ อาทิ กรณีที่นายสุวัจน์บอกให้การเมืองไทยต้องลืมอดีตแล้วเริ่มต้นใหม่ ตนอยากบอกว่า อดีตบางเรื่องก็ควรจะลืม แต่อดีตบางเรื่องก็ควรจะจำเป็นบทเรียนเพื่อไม่ให้ประเทศกลับมาเป็นแบบเดิมอีก โดยเฉพาะบทเรียนที่เกิดจากการทุจริตคอร์รัปชั่น การใช้โครงการประชานิยมจนทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย เป็นต้น

รัฐเร่งจัดแผน"บิ๊กตู่"สัญจร-เมินโดนด่าเดินสายดูดส.ส.

เด็กปชป.ชู ‘ชวน’ หวนนั่งนายกฯ

     วันเดียวกัน ผศ.ดร.พีรยศ ราฮิมมูลา อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค ปชป. เปิดเผยว่า จากที่ประชาชนมาเลเซียเลือกนายมหาธีร์ มูฮัมหมัด อายุ 92 ปี กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งนั้น มีประชาชนในภาคใต้จำนวนมากนึกถึงนายชวน ในวัย 79 ปี ยังสามารถหวนกลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคปชป.และนายกรัฐมนตรีได้ ทั้งนี้ด้วยประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถและความซื่อสัตย์สุจริตและยังเป็นแบบอย่างนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย หากเราสามารถกระตุ้นให้ประชาชนไทยตื่นตัวเกลียดการทุจริตคอร์รัปชั่นและการใช้อำนาจรัฐในทางผิดได้” นายพีรยศกล่าว

    รายงานข่าวจากสาขาพรรคประชาธิปัตย์สงขลาระบุว่า จากการสำรวจอดีตส.ส.ของพรรคในภาคใต้ครั้งล่าสุดยังไม่มีอดีตส.ส.พรรคคนใดที่จะย้ายพรรค เพียงมีกระแสข่าวเท่านั้นว่าจะมีอดีตส.ส.ย้ายพรรค หากมีอดีตส.ส.ย้ายพรรคจริง พรรคปชป.ไม่มีปัญหา ยังมีผู้ที่เสนอตัวลงสมัครในนามพรรคปชป.แต่ละเขตไม่น้อยกว่า 4-5 คน และยังมั่นใจว่าผู้สมัครของพรรคปชป.ยังได้รับการเลือกตั้งมากกว่าเดิมคือ 50 คน ถึงแม้จะมีพรรคการเมืองหลายพรรคพยายามดูดอดีตส.ส.ของพรรค ปชป.ก็ตาม

 

อลงกรณ์เผยเลือกตั้งมีแค่2กลุ่ม

     ขณะที่นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงแนวคิดการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติว่า การจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติมีการพูดกันมาหลายยุคหลายสมัย แต่สิ่งที่จะชี้ขาดว่าจะมีรัฐบาลรูปแบบใดนั้นจะต้องดูผลการเลือกตั้งในอนาคต ส่วนที่รัฐธรรมนูญกำหนดช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี อาจเป็นการสร้างโอกาส ให้เกิดรัฐบาลแห่งชาติ ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่จากสภาวะการเมืองปัจจุบันก็มีโอกาสเกิดรัฐบาลแห่งชาติมากที่สุด แต่จะต้องขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งที่จะเป็นตัวกำหนดรูปแบบรัฐบาล

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ จะจับมือเพื่อสู้กับพรรคคสช. นายอลงกรณ์ กล่าวว่า การจับขั้วระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น เพราะมีความแตกต่างกันในเชิงนโยบายและในประวัติศาสตร์ยังต่อสู้รุนแรง เกิดการร่วมมือยาก แต่มีจุดร่วมบางประการที่เหมือนกัน คือการต่อต้านเผด็จการ พร้อมกันนี้คาดการณ์ว่าการเลือกตั้งที่จะมาถึงจะมีการต่อสู้เพียง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มหนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. กับกลุ่มต้านพล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้น

ยังไม่ฟันธงอนาคตตัวเอง

    นายอลงกรณ์ ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งของประเทศมาเลเซียที่นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด ได้รับเลือกเป็นนายกฯ อีกครั้ง ในวัย 92 ปี นั้น ว่า นายมหาธีร์ ยังสามารถกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ หลายคนก็คิดถึง นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ที่อาจมาเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง มานำประชาธิปไตยไทยและเป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์

   “ผมมั่นใจว่าหากพรรคประชาธิปัตย์มีการปฏิรูปตัวเอง สร้างวิสัยทัศน์ใหม่ก็อาจสร้างปรากฏการณ์แบบนายมหาธีร์ได้ อย่างไรก็ตามสำหรับอนาคตทางการเมืองนั้นยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะกลับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ เพราะจะต้องรอผลการวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.ป.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว.ก่อน เพราะจะมีผลต่อโรดแม็พการเลือกตั้ง แต่ยืนยันส่วนตัวยังเป็นกลางทางการเมือง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด” นายอลงกรณ์ กล่าว

รัฐเร่งจัดแผน"บิ๊กตู่"สัญจร-เมินโดนด่าเดินสายดูดส.ส.

วัฒนายกเลือกตั้งมาเลเซียบทเรียน

     วันเดียวกัน นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และแกนนำเพื่อไทย โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงความเห็นทางการเมืองว่า “เผด็จการต้องขึ้นศาล” ระบุว่า การเลือกตั้งที่มาเลเซียได้สอนบทเรียนสำคัญให้คนไทยที่เคยถูกเผด็จการและสมุนบริวารหลอกต้มเพื่อยึดอำนาจการปกครอง เพราะมาเลเซียและชาติที่เจริญทั้งหลายได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าระบอบประชาธิปไตยสามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่อง การยึดอำนาจครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อบ้านเมือง ใช้งบประมาณมากที่สุดแต่ประชาชนกลับได้รับความทุกข์ยากมากที่สุด อันเนื่องมาจากการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพของเหล่าทหารเกษียณที่อยากมีอำนาจแต่ขาดสติปัญญา

    “ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าข้ออ้างในการยึดอำนาจไม่ว่าจะเป็นการรักษาความสงบ การสร้างความปรองดอง การปฏิรูปและการคืนความชอบธรรมให้แก่ทุกฝ่ายตามที่ปรากฏในประกาศ คสช. ฉบับที่ 1/2557 เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อเข้าสู่อำนาจโดยไม่ต้องเลือกตั้ง ส่วนการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับคนในกองทัพและพรรคพวกไม่ได้รับการสะสาง ป.ป.ช.ถูกใช้เป็นเครื่องมือทำลายฝ่ายตรงข้ามแต่ฟอกขาวให้ฝ่ายเผด็จการ คณะรัฐประหารยังได้ทำลายกลไกในระบอบประชาธิปไตย ทำลายหลักนิติธรรมและละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งสืบทอดอำนาจเผด็จการต่อไปแต่ไม่ยอมรับผิดชอบด้วยการนิรโทษกรรมตัวเองล่วงหน้า” นายวัฒนา กล่าว

    นายวัฒนาย้ำว่าภาระสำคัญหลังการเลือกตั้งคือการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย รวมถึงการปฏิรูปกองทัพเพื่อไม่ให้ผู้หนึ่งผู้ใดใช้กองทัพเป็นเครื่องมือทำลายระบอบประชาธิปไตยอีก ที่สำคัญคือการนำตัวผู้ที่ทำรัฐประหารและสร้างความเสียหายให้บ้านเมืองมาลงโทษ ซึ่งไม่ใช่การแก้แค้นแต่เพื่อหยุดวงจรอุบาทว์และนำหลักนิติธรรมอันเป็นขื่อแปของบ้านเมืองกลับคืนมา ทั้งหมดจะสำเร็จได้ก็ด้วยฉันทามติจากประชาชนผ่านกลไกการเลือกตั้ง จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการยื้อการเลือกตั้งตลอดมา เราจะทนกันต่อไปแบบนี้ใช่ไหม

รัฐเร่งจัดแผน"บิ๊กตู่"สัญจร-เมินโดนด่าเดินสายดูดส.ส.

พท.ยันส.ส.อีสาน 80% ไม่ไป

     ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะอดีต ส.ส.มหาสารคาม กล่าวถึงกรณีกระแสดูดส.ส.ในพื้นที่ภาคอีสาน โดยการเสนอเงินให้มากถึง 20-30 ล้านบาท ว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ร้อยละ 80 เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมซึ่งก็คือเป็นส.ส.ของพรรคพท. การที่มีการติดต่อทาบทามก็ต้องยอมรับว่ามี แต่การตัดสินใจจะย้ายพรรคหรือไม่เขาก็ดูที่ประชาชนเป็นหลัก ซึ่งวันนี้จะเห็นว่าประชาชนยังนิยมและศรัทธาในนโยบายต่างๆ ของพรรคพท. นอกจากนี้ในวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ส.ส.อีสานก็มารายงานตัวการครบถ้วนทุกคน ขาดเพียงนายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีต ส.ส.ขอนแก่น คนเดียวเท่านั้น ตนเห็นว่าจะแย่งกันลงมากกว่าเพราะบางจังหวัดนั้นจำนวนส.ส.ลดลง

จัดตั้งพรรคใหม่แล้ว 47 พรรค

    วันเดียวกัน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา นายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณารับรองคำขอจดจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ของกลุ่มการเมืองต่างๆ ว่าขณะนี้สำนักงานกกต.อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติของกลุ่มการเมืองที่ยื่นคำขอเข้ามา เบื้องต้นขณะนี้มีจำนวน 47 พรรคการเมืองที่ได้ลงนามและออกหนังสือรับแจ้งการจัดตั้งพรรคการเมือง (แบบ พ.ก.7/2) ไปแล้ว ส่วนกลุ่มการเมืองที่ยังไม่ได้ออกหนังสือรับรองนั้น ขณะนี้เรากำลังเร่งทยอยตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติต่างๆ แต่สำหรับบางกลุ่มการเมืองที่ยื่นคำขอเข้ามาแล้วและกกต.แจ้งว่าเอกสารไม่เรียบร้อย ก็ได้แจ้งให้ไปปรับปรุงใหม่และแก้ไขส่งกลับมาใหม่ โดยอยากฝากให้กลุ่มการเมืองที่ กกต.ขอให้กลับแก้ไขหรือปรับปรุงเร่งดำเนินการโดยเร็ว เนื่องจากหลังจากจัดตั้งพรรคแล้วจะมีกระบวนการที่พรรคต้องดำเนินการอีกมาก ทั้งนี้สำนักงานพยายามเร่งดำเนินการตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติต่างๆ ของกลุ่มการเมืองที่ยื่นคำขอเข้ามาโดยเร็วที่สุด โดยหน่วยงานที่ร่วมตรวจสอบก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

สำหรับข้อมูลรายชื่อพรรคที่ออกหนังสือเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองแบบ พ.ก.7/2 จำนวน 47 พรรค ประกอบด้วย พรรคทางเลือกใหม่ กรีน ประชานิยม พลังสยาม พลังชาติไทย เครือข่ายประชาชนไทย เศรษฐกิจใหม่ พลังธรรมใหม่ ประชาชนปฏิรูป สังคมประชาธิปไตยประชาชน ประชาชาติ พลังพลเมืองไทย พลังประชารัฐ ประชาภิวัตน์ ภาคีเครือข่ายไทย ไทยเอกภาพ

รัฐเร่งจัดแผน"บิ๊กตู่"สัญจร-เมินโดนด่าเดินสายดูดส.ส.

เสนอเยียวยาชดเชยเหยื่อถูกโกงเงิน

     ด้านคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังจากข้อสรุปของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พบการทุจริต 67 จังหวัดมีผู้เกี่ยวข้องเป็นเป็นข้าราชการทุกระดับโดยมีความเสียหายไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาทนั้น เงินส่วนนี้เป็นสิทธิ์ของประชาชนผู้ด้อยโอกาสในโครงการเงินสนับสนุนจากรัฐ โดยในส่วนของข้าราชการผู้กระทำความผิดเป็นหน้าที่ของระบบกฎหมายต่อไป แต่ในส่วนของประชาชนซึ่งตกเป็นเหยื่อของขบวนการทุจริตเงินช่วยเหลือนี้ก็ควรจะมีผู้รับผิดชอบ เพราะถ้าหากรอกระบวนการกฎหมายสิ้นสุดก็ใช้เวลายาวนานเกินไปขณะที่ความเดือดร้อนของประชาชนเกิดขึ้นในขณะนี้

    "ดังนั้นจึงอยากเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ นำเรื่องนี้เป็นวาระเร่งด่วนเข้าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบประมาณชดเชยเยียวยาให้แก่ประชาชนตามสิทธิ์ของเขาที่ควรได้ ขณะนี้เห็นอยู่ว่าประชาชนบางส่วนได้รับไปแล้วแต่ในจำนวนประชาชนจังหวัดที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการทุจริตกลับไม่ได้รับ สิทธิ์หายไปไม่มีผู้รับผิดชอบซึ่งรัฐโดยนายกรัฐมนตรีจะละเลยเพิกเฉยเช่นนี้ไม่ได้ ต้องมีหน่วยงานรับผิดชอบเสนอหรือสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ อำนาจคณะรัฐมนตรีสามารถพิจารณาได้ตราบใดที่คณะรัฐมนตรีพิจารณางบประมาณพิเศษให้แก่การจัดแข่งขันกีฬาหรืองบประมาณประชาสัมพันธ์ได้ ย่อมพิจารณาการเยียวยาประชาชนย่อมได้” คุณหญิงกัลยากล่าว

พิมพา จันทร์ประสงค์ เสียชีวิต

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพิมพา จันทร์ประสงค์ อดีตส.ส.นนทบุรี และอดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย และอดีตรมช.คมนาคม ในสมัยรัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา ได้เสียชีวิตแล้วด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ที่โรงพยาบาลโรคทรวงอก ในวัย 64 ปี โดยนางพิมพา มีอาการเจ็บบริเวณอก คนขับรถจึงนำตัวส่ง รพ.บางใหญ่ ต่อมามีอาการหัวใจหยุดเต้นไป 2 ครั้ง หลังแพทย์ปั๊มหัวใจขึ้นมาแล้วได้ส่งต่อไปรักษาที่รพ.โรคทรวงอก เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือขยายเส้นเลือดตีบจนอาการพ้นวิกฤติ แต่มีอาการไตกำเริบ เลือดออกไม่หยุด คณะแพทย์และพยาบาลพยายามช่วยอย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ นางพิมพาได้เสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา

ทั้งนี้ญาติแจ้งว่าในวันที่ 15 พฤษภาคม มีพิธีรดน้ำศพตั้งแต่เวลา 15.00 น. ที่วัดศรีเรืองบุญ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี และมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ วันที่ 26 พฤษภาคม

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ