ข่าว

"เนวิน-อนุทิน"ไม่คุย"บิ๊กตู่"สยบครหาดีลการเมือง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เนวิน – อนุทิน"เปิดช้างอารีน่ารับ "บิ๊กตู่"ประชุมครม.สัญจร" ‪7- 8 พ.ค.นี้‬ ยันไม่ร่วมปิดห้องคุยหวั่นโดนครหา สะพัด"แม้ว-ปู"จ่อมาสิงคโปร์พบแกนนำพท.แก้เกมดูด

 

    ยังเป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิดหลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เตรียมนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สุรินทร์และจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 3/2560 ประชุมชั้น 2 ซึ่งการเดินทางไปในครั้งนี้ของนายกฯถูกตีความว่ามีนัยยะทางการเมืองเพื่อชักชวนให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้ามาร่วมสนับสนุนให้เป็นนายกฯสมัยที่สอง
จับตาบิ๊กตู่ลุยอีสานครม.สัญจร
    เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เตรียมนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สุรินทร์และจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 3/2560 ประชุมชั้น 2 อาคารอเนกคุณาคาร มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ‪ระหว่างวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2561‬ สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อติดตามการดำเนินงานในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างหรือกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ประกอบด้วยจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์
    ทั้งนี้ สำหรับกำหนดการปฏิบัติภารกิจของนายกฯ ตั้งแต่‪วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม 2561 ช่วงเช้า‬เวลา 09.00 น. นายกฯ จะตรวจเยี่ยมชมจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นจุดด่านผ่านแดนถาวรเพื่อการค้าชายแดนไทยกัมพูชาที่มีการเดินทางเข้าออกของประชาชนจากทั้งสองฝั่งคือไทยและกัมพูชาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้การค้าขายชายแดนได้มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนเวลา 11.30 น. นายกฯ พร้อมคณะจะได้เยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณ บ้านท่าสว่าง หมู่1 ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยังคงอนุรักษ์ศิลปการทอผ้าไหมชั้นสูง และยังได้รับเลือกให้เป็นผู้ผลิตผ้าไหมที่ระลึกแก่ผู้นำต่างประเทศที่เข้าร่วมการประชุมเอเปคที่ไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2003


เนวินเปิดช้างอารีน่าเกณฑ์คนรับบิ๊กตู่
    ในช่วงบ่าย นายกฯ และคณะจะเดินทางต่อไปยังจังหวัดบุรีรัมย์ โดยในเวลา ‪15.00 น.‬ นายกฯ จะพบปะกับประชาชน ที่ สนามช้าง อารีน่า และตรวจเยี่ยมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทยในจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกสนามที่ 15 ที่ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต และในช่วงค่ำ นายกฯ และคณะจะเยี่ยมชมถนนคนเดินเซาะกราว ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นถนนสายวัฒนธรรมที่ได้รับรางวัลการบริหารจัดการชุมชนและสิ่งแวดล้อม
    ในวันอังคารที่ 8 พฤษภาคม 2561 เวลา 08.30 น. นายกฯ จะเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เพื่อร่วมประชุมหารือกับหัวหน้าส่วนราชการและรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคธุรกิจในพื้นที่ด้วย ‬ จากนั้น‪เวลา 10.30 น.‬ นายกฯ จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งที่ 3/2560 ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารเอนกคุณาคาร มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ 
    ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะร่วมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ที่สนามช้าง อารีน่า พร้อมประชาชนจำนวน 30,000 คน ที่จะสวมเสื้อทีมฟุตบอลบุรีรัมย์กันอย่างพร้อมเพียง

"เนวิน-อนุทิน"ไม่คุย"บิ๊กตู่"สยบครหาดีลการเมือง
เผยเนวิน-เสี่ยหนู"ไม่คุยที่บุรีรัมย์
    ขณะที่นายอนุทิน  กล่าวถึงการลงพื้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่จ.สุรินทร์-บุรีรัมย์ 7-8 พ.ค.นี้ ของพล.อ.ประยุทธ์ ว่า ในฐานะเจ้าบ้านเมื่อแขกระดับนายกฯ มาเยือน ตนและนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะไปให้การต้อนรับที่สนามช้าง อารีน่า ก่อนมอบพื้นที่ให้นายกฯ และคณะได้พบปะประชาชนประมาณ 3 หมื่นคน และหากประชาชนมีข้อเรียกร้องใดๆ ก็สามารถนำเสนอถึงนายกฯ ได้ในโอกาสนี้
    นายอนุทิน กล่าวอีกว่า การมาครั้งนี้ของพล.อ.ประยุทธ์ ตนและนายเนวิน จะไม่ร่วมปิดห้องพูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ เหมือนในหลายพื้นที่ที่ผ่านมา เนื่องจากเกรงว่าจะถูกข้อครหาจากคู่แข่งทางการเมือง และภาคส่วนต่างๆ อีกทั้ง ไม่มีใครจะมาดีลการเมืองก่อนการเลือกตั้ง
    "การลงพื้นที่ของเขา จะถูกจับตามากกว่าพวกผมอีก เพราะแค่หายไป 5 นาที ก็ถูกจับมาตั้งข้อสังเกตแล้ว" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว

สมคิดยืนยันไม่ได้คิดดูดภูิใจไทย
    เเวลา 11.00 น.  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า ส่วนการลงพื้นที่ไปประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ที่จ.บุรีรัมย์ในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้เพราะจ.บุรีรัมย์และจ.ศรีสะเกษ เป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุดในประเทศไทย สมควรแล้วที่นายกฯจะต้องไป ส่วนจะมีการต้อนรับอย่างไร หรือมีปัญหาอะไรก็นำเสนอมาเช่นเดียวกับหลายจังหวัดที่ผ่านมา ไม่มีอะไรพิเศษ
    เมื่อถามว่า คนจะมองว่า รัฐบาลพยายามไปดูดคนของพรรคภูมิใจไทยหรือก๊วนบุรีรัมย์ นายสมคิด กล่าวว่า “ดูดเนวินหรือ”  ส่วนที่ถามนายเนวิน ชิดชอบ ถือว่ารู้จักกันดีใช่หรือไม่นั้น การเมืองเมืองไทยทุกคนรู้จักกันหมด ทุกพรรครู้จักกันหมด ต้องคิดไปข้างหน้า ช่วยกันทำให้ประเทศเจริญได้อย่างไร อย่าไปคิดว่า มุ้งนั้นมุ้งนี้ ดูดไปดูดมาจะได้มามีอำนาจ คิดอย่างนั้นเป็นความคิดที่เก่ามาก จะไม่เจริญ คิดให้ใหม่ ๆ ขอให้คิดถึงอนาคตให้มาก ๆ ทุกคนต้องทำงานเพื่อประเทศทั้งนั้น  ขอแค่นี้ 

"เนวิน-อนุทิน"ไม่คุย"บิ๊กตู่"สยบครหาดีลการเมือง
ปัดทาบกลุ่มบ้านริมน้ำร่วมก๊วน
    นายสมคิด กล่าวชี้แจงกระแสข่าวที่ระบุว่านายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เดินทางเข้าพบนายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ เพื่อทาบทามให้มาร่วมงานกับรัฐบาลว่า ไม่รู้จักบ้าน แต่รู้จักนายสุชาติ เรื่องนี้ต้องไปถามนายสนธิรัตน์และนายอุตตมเอง เรื่องการเมืองต้องพูดน้อย ๆ บ้านเมืองถึงจะเจริญ ทั้งนี้ ตัวหลักในการขับเคลื่อนการเมืองคือพรรคการเมือง ถ้าพรรคการเมืองมีคุณภาพ เอาเวลาส่วนใหญ่ไปคิดเรื่องนโยบายดี ๆ ไปดึงคนเก่ง คนดีมีความสามารถมาร่วมทำงาน ไม่ว่าจะพรรคใด เมื่อได้รับเลือกตั้งไปแล้ว ก็สามารถเอานโยบายเหล่านั้นมาใช้ในการพัฒนาประเทศได้ 
ไล่เจ้าของวาทะดูดส้วมพัฒนาตัวเอง
    นายสมคิด กล่าวอีกว่าแต่ถ้ามีแต่พรรคการเมืองที่คิดแต่เรื่องการตีอีกฝ่ายหนึ่ง ด่าคนโน้น ด่าคนนี้ แบบนี้ไม่ใช่การเมือง ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น คนก็จะเบื่อหน่ายการเมือง อย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยพูดไว้ว่า เห็นหรือไม่ ใครไปดูดใคร ไม่มีเลย แต่ทำไมคนอยากจะย้ายบ้าน เพราะว่าบ้านอยู่แล้วไม่มีความสุขหรือไม่ มันจึงต้องพัฒนาบ้านให้เป็นบ้านที่คนไทยฝากความหวังไว้ได้
    “ผมจะแนะนำว่า พรรคการเมืองในขณะนี้ที่มีอยู่ กว่าจะถึงเลือกตั้ง พยายามคัดสรรคนดี ๆ ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการคิดนโยบายเตรียมเอาไว้ เมื่อเลือกตั้งแล้วถ้าใครได้เป็นรัฐบาลหรือเข้าร่วมรัฐบาลอย่างไรก็แล้วแต่ จะได้ไปช่วยกันทำให้บ้านเมืองเจริญขึ้น นี่คือสิ่งที่ต้องสื่อความออกไป ไม่ใช่มาดูดนั่นดูดนี่ ไร้สาระ 10 ปีก็อยู่กันแค่นี้ แล้วคนที่บอกว่าดูดส้วม ผมรู้จักดี ต้องพัฒนามากกว่านี้” นายสมคิดกล่าว
กั๊กร่วมงานบิ๊กตู่อ้างอายุเยอะ
    มื่อถามว่า เพราะด้วยเหตุผลนี้หรือไม่ จึงจำเป็นต้องตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาสานต่องานที่รัฐบาลได้ทำ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะดูสถานการณ์ในขณะนี้และอนาคต ความต่อเนื่องในการขับเคลื่อนประเทศ ความสงบของบ้านเมืองเป็นสิ่งจำเป็น ที่ผ่านมาก็เห็นอยู่แล้วว่าผลงานของรัฐบาลเป็นอย่างไรและก็ไปได้ดีเพียงพอ แต่ถ้าใครทำได้ดีกว่า ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะประชาชนมีสิทธิเลือก แต่ที่บอกว่าใครจะมีพรรคหนุนคนนั้นคนนี้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตน วันนี้หน้าที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลเศรษฐกิจ ก็ทำหน้าที่ด้านเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามที่เป็นกันอยู่ทุกวันนี้ ตนไม่เคยตอบโต้ เพราะทุกคนรู้จักกันดี เป็นเพื่อนกันทั้งนั้น วันหนึ่งข้างหน้าต้องทำงานร่วมกัน ดังนั้นเอาเวลาส่วนใหญ่ไปทำสิ่งดี ๆ ดีกว่า
    ส่วนอนาคตทางการเมืองนั้น นายสมคิดกล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต เพราะตอนนี้อายุ 65 ปีแล้ว เมื่อถามอีกว่า ในช่วงเวลานี้ ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนนักการเมืองบ้างหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า “ผมไม่เคยเจอพวกเขาเลย ผมไม่มีเวลาจริง ๆ พอไปต่างประเทศ เมื่อเห็นข่าวก็รู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่เป็นอะไร เมื่อมาอยู่การเมือง หน้าที่คือทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าเท่านั้นเอง และไม่เคยพูดว่า จะไปตั้งพรรคการเมือง บอกแค่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ทำงานต่อ ถ้าท่านต้องการทำงาน ส่วนพรรคไหนจะสนับสนุนหรือทำอะไรก็แล้วแต่เขา ทุกกลุ่มเพื่อนกันทั้งนั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็รู้จักกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นคนดี พรรคเพื่อไทยก็มีคนดีเยอะ ต้องคิดอนาคตข้างหน้าว่า ถ้าต้องทำงานร่วมกัน แล้วจะทำอย่างไร เราต้องก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหลาย เอาบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง 

"เนวิน-อนุทิน"ไม่คุย"บิ๊กตู่"สยบครหาดีลการเมือง
"แม้ว-ปู"มาสิงคโปร์แก้เกมพลังดูด
    ขณะเดียวกันมีรายงานจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ช่วงสุดสัปดาห์นี้ นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมเดินทางมาที่ประเทศสิงคโปร์ โดยจะมีแกนนำพรรคเพื่อไทยคนสำคัญเดินทางไปพบในวันที่ 5 พ.ค. ซึ่งคาดว่าจะพูดคุยกันถึงประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์  โน้มน้าวอดีต ส.ส.ให้หันไปสนับสนุนพรรคการเมืองของ คสช. เพราะในขณะนี้ การดูดอดีต ส.ส.รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังรวมถึงอาจมีการแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับผู้นำพรรคเพื่อไทยคนต่อไปที่จะนำพรรคฯ ต่อสู้ในศึกเลือกตั้ง เนื่องจากการเมืองตอนนี้ เริ่มเข้าสู่โหมดเลือกตั้งจึงต้องดำเนินการให้ชัดเจน.
พท.ปัดยันมีแค่ญาติสนิทไปพบ
    ด้านนายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวนายทักษิณ  จะเดินทางมาประเทศสิงค์โปร์ โดยจะมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และสมาชิกพรรคเพื่อไทยเดินทางไปพบ ว่า  ได้ยินข่าวนายทักษิณจะเดินทางมา โดยจะมาตามคำเชิญของนักธุรกิจที่ให้มาบรรยายเรื่อง สกุลเงินดิจิตอล เรื่องสกุลเงินบิทคอยน์ ส่วนการเดินทางไปพบของอดีตส.ส.นั้นขณะนี้ยังไม่พบว่าจะมีใครเดินทางไป เนื่องจากหลายคนได้พบท่านแล้วในช่วงเทศกาลตรุษจีน 

"เนวิน-อนุทิน"ไม่คุย"บิ๊กตู่"สยบครหาดีลการเมือง
    "ครั้งนี้อาจจะไม่มีใครเดินทางไป หรือหากจะไปคงมีเพียงกลุ่มลูกหลานญาติสนิทเท่านั้น และคงไม่มีการหารือเรื่องการเมือง เรื่องการดูดส.ส. เพราะนายทักษิณเคยบอกกับอดีตส.ส.ที่เดินทางไปพบที่ฮ่องกงในช่วงตรุษจีนว่า จะยุ่งเรื่องการเมืองไม่ได้ เดี๋ยวเป็นช่องทางให้คนไม่หวังดีนำไปร้องแล้วทำให้พรรคถูกลงโทษทางการเมืองได้"นายสมคิด กล่าว 
    นายสมคิด ยังกล่าวถึงกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า อดีตส.ส.กทม.ถูกทาบทามให้ไปร่วมงานกับบางพรรคการเมืองด้วยว่า เป็นเรื่องปกติที่มีความพยายามจะมาทาบทาม เชื่อว่าสุดท้ายแล้วคงไม่มีใครไป 3-4 เดือนก่อนหน้านี้พื้นที่อีสานสมาชิกหลายคนถูกทาบทามเหมือนกัน แต่วันนี้เงียบไปแล้ว เพราะรู้ว่ามาชวนแล้วไม่มีใครไป ยืนยันว่า สมาชิกในพรรคเพื่อไทยยังเหนียวแน่น โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสาน ไม่ไปไหน


มาร์คขอบคุฯสมาชิก130.000คนยืนยัน
    วันเดียวกันนายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดลงทะเบียนยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ระหว่างวันที่ 1-30 เม.ย.ที่ผ่านมา  ว่า  ขอขอบคุณทุกคนที่มายืนยันการเป็นสมาชิกกับพรรค ทุกคนคือเจ้าของพรรคประชาธิปัตย์ตัวจริง รวมถึงขอขอบคุณเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องพยายามทำงานในช่วง 30 วัน จนได้ตัวเลขการยืนยันสมาชิกพรรค เมื่อเช้าวันนี้ (3 พ.ค.) อยู่ที่ 130,000 กว่าคน เพราะจะต้องมีการตรวจสอบและกลั่นกรองก่อนส่งไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างไรก็ตาม เรายังอยากได้สมาชิกมากกว่านี้ แต่มีอุปสรรคปัญหาที่พบ คือ 1. สมาชิกจำนวนมากไม่ทราบ เพราะเราไม่สามารถทำการประชาสัมพันธ์หรือทำกิจกรรม และไม่เคยมีในประวัติศาสตร์การเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่มีคำสั่งให้ไปยืนยันแสดงตน  2.มีสมาชิกบางคนบอกว่าชำระค่าบำรุงพรรคแบบตลอดชีวิตแล้วยังจะมาเอาเงินเขาอีก ซึ่งเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร อธิบายไม่ได้ การเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากไม่ได้มีสิทธิพิเศษอะไรแล้ว ยังทำให้เขาได้รับความเดือดร้อนด้วย หรือบางครั้งคนรู้ว่าใครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เวลามีรัฐบาลที่ไม่มีคุณธรรม คนเหล่านั้นก็ถูกกลั่นแกล้ง

"เนวิน-อนุทิน"ไม่คุย"บิ๊กตู่"สยบครหาดีลการเมือง
เผยรอ"ณัฐพล"แจงชิ่งปชป.หรือไม่
    หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงข่าวที่ว่านายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ อาจจะย้ายพรรค ว่า  นายณัฏฐพลจะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไปหรือไม่นั้น เป็นการตัดสินใจของเขา แต่ตอนนี้นายณัฏฐพลไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค เนื่องจากเคยไปบวช แต่ยังไม่ได้แจ้งว่าจะออกไปอยู่พรรคอื่น มีเพียงการมาปรารว่าเคยพูดคุยกับนายสมคิดรองนายกรัฐมนตรี ที่ชักชวนให้ไปทำงานด้วย แต่นายณัฏฐพลยังไม่ได้ตัดสินใจ โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ หลังจากกลับมาถึงเมืองไทยแล้ว นายณัฏฐพลจะมาพูดคุยกับตนอีกครั้ง  
    ส่วนคนที่ขอย้ายออกจากพรรคแล้วมีเพียง 1.นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตส.ส.กทม.ที่ถูกทาบทามไปเป็นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  2.นายชื่นชอบ คงอุดม อดีตส.ส.กทม. เพราะบิดาของนายชื่นชอบไปเป็นบุคลากรหลักของพรรคท้องถิ่นไท  3.นายธานี เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานี ที่เคยไปบวช และไม่ได้มายืนยันการเป็นสมาชิกพรรค ได้กล่าวลาไปแล้วโดยบอกว่าอาจต้องไปเป็นบุคคลหลักในการไปจดทะเบียนพรรค
    เมื่อถามว่ามีการดูดคนของพรรคประชาธิปัตย์อีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากจะพูดอะไรเพิ่มเติม แต่ทุกสิ่งที่พูดไปเป็นข้อเท็จจริงทั้งนั้น และมีพฤติกรรมมากกว่านี้ แต่ที่ตนบอกหรือไม่บอก แค่อยากจะพูดในเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น เพราะตนไม่ได้พูดในเรื่องปัญหาการดูดในมุมมองที่ว่ามันมากระทบกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่พูดเรื่องดูดในมุมมองที่ว่าพฤติกรรมแบบนี้สมควรหรือไม่สำหรับระบบการเมืองที่เราอยากจะเห็น

"เนวิน-อนุทิน"ไม่คุย"บิ๊กตู่"สยบครหาดีลการเมือง

“นิกร”วอน คสช.งดเว้นไพรมารีโหวต 
    วันเดียวกันนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงยอดการยืนยันสมาชิกพรรคว่า เท่าที่ตรวจสอบล่าสุดชทพ. มียอดสมาชิกกลับมายืนยันประมาณ 3,000 คน คิดเป็น 12 เปอร์เซ็นต์จากยอดที่มีอยู่เดิม 24,710 คน ซึ่งถือว่าแย่มากถ้ามองจากตัวเลขเดิมของตัวเอง แต่ถ้านำยอดที่ได้กลับคืนไปเทียบกับพรรคการเมืองอื่นก็ถือว่า ไม่เลวซะทีเดียว เพราะทุกพรรคตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันหมด ซึ่งจำนวนสมาชิกที่เหลืออยู่ของแต่ละพรรคจะมีผลกระทบอย่างมากต่อการทำไพรีมารีโหวตเพื่อส่งผู้สมัครส.ส.ให้ครบ 350 เขตทั่วประเทศ เพราะการทำไพรมารี่โหวตในการเลือกตั้งครั้งแรกตามที่พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 นั้น จะต้องใช้สมาชิกเป็นตัวกำหนด ทั้งตัวแทนประจำจังหวัดที่จะต้องมีจังหวัดละไม่น้อยกว่า 100 คนขึ้นไป และสาขาพรรคที่จะต้องมีสมาชิกประจำสาขาละไม่น้อยกว่า 500 คนขึ้นไป รวม 4 ภาค ซึ่งในทางปฏิบัติพรรคการเมืองก็จะต้องมีสมาชิกมากกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำดังกล่าวเผื่อไว้อีกประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ด้วย ซึ่งเมื่อนำตัวเลขดังกล่าวมารวมกัน นั่นก็เท่ากับว่า แต่ละพรรคการเมืองจะต้องมีสมาชิกอย่างน้อย 10,000 คนถึงจะส่งผู้สมัครส.ส.ได้ครบ 350 เขตเลือกตั้งได้
    “ที่ผ่านมาเคยเตือนแล้วว่า การทำไพรมารีโหวตมีไว้สำหรับประเทศที่มีระบบสมาชิกพรรคจำนวนมากๆ แต่ตอนนี้สมาชิกแต่ละพรรคแทบจะไม่เหลือกันเลย ยังไม่ต้องนับขั้นตอนการทำไพรมารีโหวต เอาแค่หาสมาชิกให้ครบก็แย่อยู่แล้วจึงอยากให้ผู้มีอำนาจใช้ ม.44 งดเว้นการทำไพรมารีโหวตในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นไปก่อน แต่ถ้าจะงดเว้นให้ โดยยื่นเงื่อนไขว่า จะต้องขยับโรดแมปเลือกตั้งออกไป ผมไม่เอา จะลำบากก็สู้ ได้แค่ไหนก็แค่นั้น เพราะการมีเลือกตั้งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แม้ว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นคงไม่ใช่การเลือกตั้งที่ดี แต่ก็อยากให้มีการงดเว้นให้เพื่อจะได้ไม่โหดร้าย ทั้งกับพรรคการเมืองเก่าและใหม่ ทั้งกับผู้สมัครรับเลือกตั้งและประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจนเกินไป” นายนิกร กล่าว

"เนวิน-อนุทิน"ไม่คุย"บิ๊กตู่"สยบครหาดีลการเมือง

พท.‘เชื่อมีเวลาแก้ไขกม.ส.ส. หรือ ส.ว.
    ขณะที่นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย ในฐานะคณะทำงานติดตามการร่างรัฐธรรมนูญพรรคเพื่อไทย(พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หากศาลมีมติให้แก้ไขกฎหมายประกอบและธรรมนูญว่าด้วยส.ส. หรือ ส.ว. ว่า หากจะแก้ไขกฎหมายส.ว. ก็ยังพอมีเวลา เพราะแม้กฎหมายส.ส.จะประกาศใช้ ก็ยังมีเวลาหน่วงไว้อีก 90 วัน ดังนั้น หลักจึงอยู่ที่การแก้ไขกฎหมายส.ส. เพราะหากช้าเวลาก็จะยิ่งยืดออกไป ยิ่งประกาศใช้ช้าเท่าไหร่ เวลาก็จะต้อง บวก 3 เดือนเข้าไปด้วย คือจะช้ากันไปใหญ่ ดังนั้น หากจะทำอะไรก็ควรรีบทำและไม่ควรแก้ไขอะไรมาก ซึ่งประเด็นที่ยื่นไปให้ศาลวินิจฉัยก็ไม่ใช่เป็นประเด็นที่ซับซ้อนอะไร หากเร่งดำเนินการตนเชื่อว่ายังมีเวลาพอที่จะทำให้ไม่กระทบต่อโรดแมปการเลือกตั้ง

ปูด"บิ๊กตู่"ได้เงิน2ทาง ทั้งนายกฯ-หัวหน้าคสช.
    ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่ชาติ(คสช.) ระบุ ได้เงินเดือนน้อยกว่านายกฯ คนอื่นในอาเซียน ไม่รู้จะไปขึ้นค่าแรงกับใคร ว่า ปกติของการจ้างงาน ผู้ว่าจ้างกับผู้รับจ้าง ต้องยินยอมพร้อมใจรับในเงื่อนไขและรายละเอียดการทำงานกันทั้งสองฝ่าย แต่กรณีของพล.อ.ประยุทธ์ ต้องถามว่าเสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศยินยอมให้เข้ามาทำงานเป็นนายกฯและหัวหน้าคสช.หรือไม่ 
    นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ตำแหน่งนายกฯไทยได้ค่าตอบแทน 125,590 บาท ตำแหน่งหัวหน้าคสช.ได้อีก 125,590 บาท รวม 2 ทาง ได้ไป 251,180 บาทต่อเดือน 4ปี รับไป 12 ล้านบาทเศษหรือไม่ ถ้าเป็นตามนี้ รายได้ของท่านถือเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน เป็นรองแค่สิงคโปร์ ซึ่งไม่ใช่เงินเดือนที่ต่ำสุดในอาเซียนหรือไม่ แต่ที่ต่ำสุดอาจเป็นอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยหรือจีดีพีไทย ที่โตต่ำสุดในอาเซียน.

"เนวิน-อนุทิน"ไม่คุย"บิ๊กตู่"สยบครหาดีลการเมือง
มติ กก.สรรหาเคาะชื่อ5 กกต. 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา ฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้นัดประชุมกรรมการ และได้เรียกบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม รวม 24 คนเข้าแสดงวิสัยทัศน์ ผ่านการสัมภาษณ์ พร้อมลงมติคัดเลือก ตลอดทั้งวัน ของวันที่ 3 พฤษภาคม
    ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. คณะกรรมการสรรหาฯ เผยแพร่มติคัดเลือกบุคคลให้ผ่านเข้าสู่การให้ความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านเอกสารข่าว โดยมีรายชื่อ 5 คน ประกอบด้วย 1.นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ นักวิชาการสาขาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, 2.นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, 3.นายอิทธิพร บุญประคอง อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และอดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา และกรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์, 4.นายพีรศักดิ์ หินเมืองเก่า อดีตผู้ว่าราชการหลายจังหวัด และ 5.นายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)
ศาลฎีกา ยืนยันส่ง2รายชื่อเดิม 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขั้นตอนจากนี้ คณะกรรมการสรรหาฯ จะส่งชื่อให้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เพื่อให้พิจารณานำเข้าที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมสนช. ในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ เพื่อเริ่มขั้นตอนการตรวจสอบประวัติ ผ่านคณะกรรมการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ก่อนจะนำกลับมาให้ที่ประชุม สนช. ลงมติว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่
    ส่วนบุคคลที่ได้รับการเสนอให้แต่งตั้งเป็น กกต. อีก 2 คน ที่มาจากสายศาล นั้น มติของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ยืนยันส่ง ชื่อ นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และนายปกรณ์ มหรรณพ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ซึ่งเป็นบุคคลรายเดิมที่สนช. เคยลงมติไม่ให้ความเห็นชอบในการเลือกผู้สมควรได้รับ

‘กลุ่มอยากเลือกตั้งยันเสาร์นี้ชุมนุมแน่ 
    วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเฟซบุ๊ก กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย Democracy Restoration Group – DRG เผยแพร่กิจกรรมระหว่างกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยและกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เชิญชวนประชาชนแสดงพลัง ณ ลานปรีดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป เพื่อหยุดระบอบคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหยุดยื้อเลือกตั้งนั้น
    นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งว่าจะมีการชุมนุมเกิดขึ้นแน่นอน แต่ยังไม่สามารถบอกจำนวนผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการชุมนุม ภายในงานจะมีการจัดกิจกรรมอภิปรายเพื่อชี้ให้เห็นถึงการสืบทอดอำนาจของ คสช.ว่าเป็นไปอย่างไร กิจกรรมพบปะมวลชน ตลอดจนการจัดตลาดนัดด้วย
    “การชุมนุมครั้งนี้ต้องการเรียกร้องอยู่ 3 ข้อ คือ 1.ต้องการให้มีการเลือกตั้งภายในปีนี้ 2.ยุบ คสช.และรัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นเพียงรัฐบาลรักษาการ และ 3.เรียกร้องให้กองทัพหยุดสนับสนุน คสช. อย่างไรก็ตาม ภายในการชุมนุมวันที่ 5 พ.ค.จะมีการแถลงถึงกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พ.ค. โดยการแถลงจะเปิดเผยถึงแผนการเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเคลื่อนไหว หรือกิจกรรมที่จะทำภายในเดือนพฤษภาคม ก่อนจะเข้าสู่การเปิดกิจกรรมใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 19-22 พ.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นโรดแมปกิจกรรมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โดยเป็นการนัดชุมนุมกันแบบค้างคืนถึง 4 คืน” นายรังสิมันต์กล่าว

"เนวิน-อนุทิน"ไม่คุย"บิ๊กตู่"สยบครหาดีลการเมือง


กลาโห.มแจง“คู่มือควบคุมม็อบ”
    ด้านพล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการในที่ประชุมสภากลาโหม ให้พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) ไปจัดทำคู่มือรับม็อบ ว่า ต้องทำความเข้าใจว่าการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมฝูงชน หรือ ม็อบ เมื่อมีการปะทะนั้น จะมีขั้นตอนการปฏิบัติอยู่แล้ว 7 ขั้นตอนซึ่งมีระบุไว้อยู่แล้ว แต่ที่ พล.อ.ประวิตร สั่งการในที่ประชุมสภากลาโหมนั้น เป็นการมอบหมายให้กองทัพบก ไปตั้งคณะทำงาน เพื่อจัดทำเป็นคู่มือในการดูแลผู้ชุมนุม จะต้องมีรายละเอียดขั้นตอนอย่างไรไม่ให้เกิดการขยายตัวในลักษณะที่เกิดการเผชิญหน้าจนเกิดความรุนแรง จะเป็นลักษณะของการเตือน พูดคุย ทำความเข้าใจในกรอบกฎหมายว่าสิ่งใดทำได้บ้าง และสิ่งใดทำไม่ได้ และการปฏิบัติต้องไม่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อไม่ให้เกิดการกล่าวอ้างได้ เช่น การไปล็อคคอ หรือการปฏิบัติอื่นๆ ที่ต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน
    พล.ท.คงชีพ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นความลับ สามารถเปิดเผยได้ เป็นการทำความเข้าใจร่วมกันกับประชาชน หลักการคือต้องการออกเป็นคู่มือเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ไปศึกษารายละเอียด เพราะเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติ มีทั้งเก่าและใหม่ ซึ่งนายกฯ ไม่อยากให้เกิดข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ผลัดเปลี่ยนเข้ามาตลอดเวลา ซึ่งคนที่มาใหม่ แม้จะผ่านการฝึกมาแล้ว แต่ถ้าไม่รู้ขั้นตอนรายละเอียดทางกฎหมาย ก็จะเป็นเงื่อนไขให้มีการนำไปขยายผลได้ ตรงไหนเป็นช่องว่างหรือการปฏิบัติซุ่มเสี่ยงที่จะเกิดปัญหากระทบกระทั่ง ก็จะระบุเป็นข้อห้ามไว้ ท่านจึงได้มอบหมายให้ ฝ่ายความมั่นคง ไปดำเนินการจัดทำสิ่งนี้ขึ้นมา”


(ข่าวหน้า1นสพ.คมชัดลึก)

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ