ทบ. รอเปิดบ้านต้อนรับทหารใหม่ ผลัดแรก พ.ค.นี้

         29 เม.ย.61- "พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง" รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ในระหว่าง 1-3 พ.ค. นี้ กองทัพบกจะรับชายไทยที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นทหารกองประจำการ ผลัด 1/2561 จำนวน 39,350 นาย เข้ารับราชการที่หน่วยทหารทั่วประเทศ 

          ขณะนี้หน่วยฝึกทหารใหม่ของกองทัพบก ได้เตรียมความพร้อมของสถานที่  บุคลากร สิ่งอำนวยความสะดวก การดูแลทางด้านสุขภาพ การปฏิบัติตามแบบธรรมเนียมทหาร การฝึกที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งการปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติ ทำประโยชน์เพื่อแผ่นดินและส่วนรวม โดยพร้อมดูแลสมาชิกใหม่ของกองทัพอย่างดีที่สุด 

         ทั้งนี้ "พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท" ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)  กำชับให้ผู้บังคับหน่วยดูแลเอาใจใส่ทหารใหม่ในทุกรายละเอียด โดยให้ปฏิบัติตามนโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิตทหารกองประจำการ เพื่อปูพื้นฐานให้พร้อมเป็นกำลังพลของกองทัพบกที่สามารถปฏิบัติภารกิจทางทหารและภารกิจช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญให้หน่วยทหารระมัดระวัง เรื่องสภาพอากาศร้อน และสุขภาพส่วนบุคคลของทหารใหม่ด้วย

        สำหรับทหารใหม่ที่ยังไม่สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สามารถสมัครเรียนในระบบการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ได้ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่รายงานตัวกับหน่วยทหาร โดยต้องเตรียมหลักฐานทางการศึกษา สำเนาทะเบียนบ้าน และภาพถ่ายขนาด 1 นิ้ว เพื่อสมัครเรียนต่อได้ทันที ส่วนสิทธิต่างๆ ตามระเบียบของทางราชการที่ทหารกองประจำการจะได้รับ อาทิ เบี้ยเลี้ยงเงินเดือน 10,000 บาท เครื่องแต่งกาย การรักษาพยาบาล และได้รับการคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันชีวิตที่กองทัพบกจัดทำประกันชีวิตให้เพิ่มเติม

            ที่สำคัญการได้เข้ามารับราชการทหาร จะเป็นโอกาสดียิ่งในฐานะพสกนิกรที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานศาสตร์พระราชา และปฏิบัติงานในฐานะจิตอาสา ในการพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชน 

            "พ.อ.หญิงศิริจันทร์" รองโฆษกกองทัพบก กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในช่วงการฝึกทหารใหม่ "กองทัพบก" ขอความร่วมมือประชาชนที่รับข่าวสาร โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ที่อาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีพยายามรวบรวมและเผยแพร่คลิปเก่า ซึ่งดูเหมือนเป็นเหตุการณ์ที่มีการกระทำที่ไม่เหมาะสมกับทหารกองประจำการในหน่วยทหารนั้น 

           ขอให้ใช้เหตุผลในการพิจารณาอย่างรอบด้าน เพื่อไม่ให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ต่อ เนื่องจากบางเหตุการณ์เกิดขึ้นมานาน 5-10 ปี ผู้กระทำผิดได้รับการพิจารณาโทษตามกฎระเบียบและทางกฎหมายแล้ว อีกทั้งเป็นการกระทำผิดส่วนบุคคล โดยขอให้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ทั้งนี้ ยืนยันกองทัพบกไม่มีนโยบายให้ใช้ความรุนแรงใดๆ กับทหารกองประจำการหรือกำลังพลทุกระดับชั้นในทุกกรณี เพราะกำลังพลทุกคนถือเป็นบุคลากรอันมีค่าของกองทัพที่จะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสม