ข่าว

"ฉัตรไชย-ปกรณ์"ยังผ่านฉลุยศาลฎีกาเลือกเป็นกกต.รอบ 2

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ลงคะแนนเลือก กกต.รอบใหม่ ยังได้ "ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี" หน.ฎีกา – "ปกรณ์ มหรรณพ" พ.ฎีกา รอส่งชื่อเสนอ สนช.เห็นชอบ

         26 เมษายน 2561 ที่ห้องประชุมใหญ่ศาลฎีกา ชั้น 1 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ถ.แจ้งวัฒนะ  "นายชีพ จุลมนต์" ประธานศาลฎีกา ได้เรียกประชุมใหญ่ศาลฎีกา ผู้พิพากษาศาลฎีกา 176 คน  

 

          ทั้งนี้เพื่อลงมติเลือกผู้สมควร ได้รับการแต่งตั้งเป็น  "กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)" สายศาล จำนวน 2 คนตามสัดส่วนที่กำหนดในรัฐธรรมนูญฯ ปี 2560

 

         โดยการลงมติครั้งนี้ เกิดขึ้น ภายหลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ฉบับลงวันที่ 26 ก.พ.61 แจ้งเรื่องการพิจารณา ให้ความเห็นชอบกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่ง สนช.ไม่ให้ความเห็นชอบ นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และนายปกรณ์ มหรรณพ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้ได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 2 คน พร้อมกับผู้ที่ได้รับเลือกจาก กรรมการสรรหาอีก 5 คนด้วย ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา จึงต้องพิจารณาคัดเลือกผู้สมควร ได้รับการแต่งตั้งเป็น กกต. บุคคลใหม่

 

           ในการคัดเลือกครั้งนี้ "นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี" ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา อายุ 64 ปี และ "นายปกรณ์ มหรรณพ" อายุ 62 ปี  ผู้พิพากษาศาลฎีกา ยังคงลงสมัครเสนอตัวคัดเลือกด้วย พร้อมกับผู้พิพากษาอื่นอีก 3 คน คือ "นายเกษม เกษมปัญญา" อายุ 66 ปีผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ภาค 1 และอดีตประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฎีกา (ชั้นตำแหน่งเทียบเท่ารองประธานศาลฎีกา)

 

           นายทวีป ตันสวัสดิ์ อายุ 65 ปี ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาและอดีตประธานศาลอุทธรณ์ภาค 4 (อีสาน) ,นายประพาฬ อนมาน อายุ 68 ปี ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์

 

         

         

          ขณะที่การคัดเลือก ผลปรากฏว่า "นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี" ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา  และ "นายปกรณ์ มหรรณพ" ผู้พิพากษาศาลฎีกา ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ให้เสนอชื่อสมควรเป็น กกต. เพื่อเสนอให้ สนช. เห็นชอบตามขั้นตอนต่อไป

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่เคยมีผู้ท้วงติงในการคัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาครั้งที่ผ่านมาถึงวิธีการลงคะแนนเลือกว่า อาจไม่เลือกเปิดเผยตามที่ ก.ม.ระบุ จนมาสู่การไม่เห็นชอบของสนช.นั้น ในการลงคะแนนเลือกว่าที่ 2 กกต.ใหม่ครั้งนี้

 

          ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบศาลฎีกาว่าด้วยการคัดเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2561 เพิ่มเติมเป็นฉบับที่ 3 เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ในส่วนการลงมติคัดเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็น กกต. ในข้อ 10 ของระเบียบเดิม เป็นว่า "การลงมติเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็น กกต. ตามข้อ 11 ให้กระทำโดยเปิดเผย

 

           ด้วยการทำเครื่องหมายกากบาท (X) อย่างชัดเจน ลงหน้าชื่อตัว และชื่อสกุลผู้ซึ่งตนเลือก จำนวนไม่เกิน 2 คน หรือจำนวนเท่าที่ยังขาดอยู่ในบัตรเลือกที่จัดไว้ซึ่งระบุชื่อตัว และชื่อสกุล ลำดับหมายเลขตามบัญชีอาวุโสในศาลฎีกา แล้วนำบัตรเลือกไปมอบให้คณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติและนับคะแนน เพื่อดำเนินการนับคะแนนต่อไป"

 

         โดยระเบียบศาลฎีกาดังกล่าว ยังระบุว่า ให้เลขานุการศาลฎีกา เป็นผู้เก็บรักษาบัตรเลือก ไว้ไม่น้อยกว่า 1 ปี และหากไม่มีการโต้แย้งการคัดเลือกเป็น กกต. ก็ให้ดำเนินการทำลายบัตรเลือกตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบัญ พ.ศ.2526 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2558

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ