นายกฯ เผย "ไทยนิยม" ยึดมั่น 3 สถาบันหลักของชาติ

          20 เม.ย.61-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว่า ส่วนหนึ่งของความเป็นไทยนิยม หมายถึงการยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของประเทศ ได้แก่ สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทย ให้เกิดความรักใคร่ปรองดองกัน และอยู่ด้วยกันอย่างสันติสุข ต่างก็มีความเชื่อมโยงผูกพันกัน อาทิ พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ และทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก นอกจากนี้ พระมหากษัตริย์ทรงสร้างบ้านแปงเมือง นำความผาสุกมาสู่พสกนิกร สืบเนื่องมาทุกยุค ทุกสมัย ดังนั้น คนไทย ทุกคนควรร่วมกันเพื่อแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอน ของเราอย่างพร้อมเพรียงที่เราเรียกว่าไทยนิยม

 

 

           
 

     

   

 

"บิ๊กตู่" เผยดัน "กองทุนหมู่บ้านฯ" หวัง กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น พัฒนา ปชต.พื้นฐาน ลั่น นโยบายไหนดีต้องสานต่อ นโยบายไหนสร้างความเสียหาย ต้องเข้ากระบวนการศาล

          พล.อ.ประยุทธ์  กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลนี้ได้ริเริ่มโครงการไทยนิยมยั่งยืน โดยจัดสรรเงินงบประมาณจำนวน 150,000 ล้านบาท ในการดำเนินโครงการในหลากหลายมิติ ส่วนหนึ่งเป็นเป็นแผนงาน  โครงการด้านการปฏิรูปโครงสร้าง
การผลิตภาคการเกษตรกว่า 24,000 ล้านบาท มีเป้าหมายแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกร ด้วยการ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ทั้งนี้ โครงการไทยนิยมยั่งยืน มีหลักการสำคัญ 3 ประการนอกเหนือจากการปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคการเกษตร ทั้งระบบดังกล่าวแล้ว ยังมีการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และ การพัฒนาเชิงพื้นที่อีกด้วย

 

         

 

          นายกฯ กล่าวว่า ส่วนการขับเคลื่อนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่งยืน
เป็นมาตรการหนึ่งที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญต่อเนื่อง ภายใต้ปรัชญาในการเสริมสร้างสำนึก ความเป็นชุมชนและท้องถิ่น โดยให้ชุมชนเป็นผู้กำหนดอนาคตและจัดการหมู่บ้านและชุมชน ด้วยคุณค่าและภูมิปัญญาของตนเอง เชื่อมโยงกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน ทั้งชุมชน หน่วยงานราชการ บริษัทเอกชน และประชาสังคม ตามแนวทางประชารัฐกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นและ พัฒนาประชาธิปไตยพื้นฐาน เตรียมพร้อมบทบาทของท้องถิ่นที่จะต้องมีความสำคัญมากขึ้น ในอนาคต

 

       

 

          "นโยบายใดที่หลักการดี แต่การดำเนินการยังไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะปรับปรุงและสานต่อ เท่าที่สามารถจะทำได้ ส่วนโครงการที่สร้างความเสียหายให้กับชาติบ้านเมืองในระยะยาวโครงการที่ถูกทักท้วง ร้องเรียน ก็ต้องนำเข้าสู่กระบวนการของศาล เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและขจัดขบวนการทุจริตให้หมดไป เช่น เงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และไร้ที่พึ่ง ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกองทุนเสมาพัฒนาคุณภาพชีวิต ของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น" นายกฯกล่าว