ข่าว

"บิ๊กตู่" จ้อจุฬาฯ ยันคิดเป็นทหาร ไม่อยากเป็นนายกฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กตู่" จ้อจุฬาฯ ยันชีวิตนี้ตั้งใจเป็นทหารไม่ตั้งใจเป็นนายกฯ ยันแค่วางยุทธศาสตร์ ไม่คิดสืบทอดอำนาจ ระบุอยากเห็นทุกฝ่ายทำงานจับมือกัน เพื่อประเทศเดินหน้า

 

          เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 9 เม.ย. 61 - ที่หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับการขับเคลื่อนประเทศในระยะเปลี่ยนผ่าน" โดยมีคณะอาจารย์ นิสิตนักศึกษาจุฬาฯเข้าร่วม ทั้งนี้ก่อนปาฐกถา นายกฯได้วางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปิยะมหาราช และสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า

          จากนั้นนายกฯขึ้นกล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งรอยยิ้ม จนมีนักท่องเที่ยวต่างชาติแวะเวียนมามากที่สุด ขอให้เราเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับ เช่นเดียวกับที่ตนมาจุฬาฯในวันนี้ จุฬาฯก็เป็นเจ้าบ้านในการต้อนรับตน ซึ่งตนก็ให้เกียรติกับเจ้าบ้านในการพบกันวันนี้ จุฬาเปรียบเสมือนบ้าน เพราะตนมาที่นี่บ่อย เคยมารับลูก รับภริยาบ้าง จึงมีความใกล้ชิดกับจุฬาฯเป็นพิเศษ และการมาพูดในหัวข้อ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับการขับเคลื่อนประเทศในระยะเปลี่ยนผ่าน ก็รู้สึกยินดีที่จะได้สร้างความรู้สึกดีๆต่อกัน ส่วนการเปลี่ยนผ่านนั้นจะทำให้ดีขึ้นหรือเลวลงยังไม่มีใครตอบได้ แต่รัฐบาลนี้ตั้งใจที่จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ อะไรที่เป็นปัญหาความขัดแย้งก็ต้องคลี่คลายไปในทางที่ดี 

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนตัวถือว่าจุฬาฯ เป็นสถาบันการศึกษาที่ทรงเกียรติเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศตั้งเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ปีนี้ถือเป็นปีที่ 101 ของจุฬาฯ การปฏิรูปสำคัญของประเทศ เกิดขึ้นตั้งแต่การเลิกทาส ซึ่งระบบราชการต่างๆ การมีวิสัยทัศน์ก็เป็นสิ่งสำคัญ จะต้องมองไปข้างหน้าอย่ามองวันนี้ หรือมองอดีตเท่านั้น อดีตทำให้เราได้เรียนรู้บางสิ่งทำให้เราเกิดความภาคภูมิใจ บางสิ่งที่ไม่ดีก็อย่าทำอีก แต่เราต้องรู้ว่าสิ่งไม่ดีต้องไม่ทำอีก การทำงานของรัฐบาลนี้จะนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ความมั่นคงคือการสร้างสภาวะแวดล้อมทุกอย่างให้เกิดความปลอดภัย เมื่อเกิดความปลอดภัยเศรษฐกิจก็จะดีขึ้น ไม่เกิดความสับสนอลมานไม่วุ่นวาย หรือเกิดเหตุการณ์ไม่สงบอย่างที่ผ่านมา บ้านเมืองก็จะสงบ ต่างประเทศก็จะเข้ามาท่องเที่ยว

          "ประชาธิปไตยเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่เราใช้ระบบเสรีนิยม ซึ่งในบางตำราการปฏิบัติตัวก็ไม่ได้เขียนไว้แต่เราต้องคิดด้วยตนเองว่า ถึงเวลานี้จะต้องทำอย่างไร ขอฝากนิสิต นักศึกษาทุกคน ว่าความรู้ในตำรา อาจจะใช่หรือไม่ใช่ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลง สถานการณ์ที่ผมมาจุฬาฯในวันนี้ก็ไม่เหมือนเดิม เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงทุกวัน เราจึงต้องเตรียมการในส่วนของตนเอง และวันนี้ไม่ว่าประเทศชาติจะเดินหน้าไปอย่างไร แต่เราก็มีแผนพัฒนาฯทุก 5-10-15 ปี ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่ได้ต้องการแผนพัฒนาฯ 10 ปี 20 ปี ซึ่งผมก็ต้องตั้งคำถามว่าแล้วบ้านเมืองจะเดินหน้าไปอย่างไร เพราะสิ่งทั้งหมดไม่สามารถทำได้ด้วยวันเดียว บางอย่างถ้าเห็นสมควรเปลี่ยนแปลงก็ต้องเปลี่ยนแปลง และระบบของเราเป็นธรรมชาติต้องแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เช่นเดียวกับการที่มีรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่ผ่านมา แม้บางอย่างจะดีแต่ไม่ใช่นโยบายของรัฐบาลเขาก็ไม่ทำ ดังนั้นวันนี้ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ขอให้ร่วมกันทำงาน ไม่เช่นกันก็จะเกิดๆติดๆดับๆ อย่างนี้ไปตลอดเวลา ดังนั้นก็ขอให้กลับไปดูสถานการณ์ทางการเมืองว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปถึงไหนอย่างไร" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

          นายกฯ กล่าวอีกว่า การศึกษาบ้านเราไม่ได้เลวร้ายอะไร ระบบไม่ได้เสียหาย แต่ต้องหาวิธีการที่เหมาะสม นำวิธีการที่มีอยู่แล้วมาปรับเปลี่ยน ให้ตรงกับเป้าหมายของนิสิต นักศึกษา ครู และประเทศให้ทั้ง 3 อย่างตรงกัน เพื่อให้สามารถเดินหน้าไปได้ การปฏิรูปการศึกษาจึงต้องผลิตคนตรงความต้องการของประเทศ ซึ่งทุกคนต้องตั้งเป้าหมายของตนเอง ตนไม่ได้มีความสมบูรณ์พร้อมมาตั้งแต่เด็ก แต่ตั้งความหวังไว้ว่าอยากเป็นอะไรตั้งแต่ตอนนั้น และตนไม่เคยเปลี่ยนใจที่จะรับราชการทหาร แต่ไม่มีความตั้งใจเป็นนายกฯ ทหารเพื่อให้ได้ยศนายพลและเกษียณไป แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ทำให้ตนต้องมายืนตรงนี้ มาพูดให้นิสิตฟัง ดังนั้นขอนักศึกษาตั้งมั่นเพื่อเป็นคนดีและคิดว่าจะทำงานอะไรจะเป็นอะไร ซึ่งหลายคนมีความตั้งใจเป็นทหาร ตำรวจ พยาบาล หมอ เป็นครู ท้ายที่สุดอาจจะไม่เป็นอะไรเลยก็ได้ ฉะนั้นเราต้องมีความมุ่งมั่นและความเพียรพยายามตั้งแต่เด็กจนโต 19-20 ปี ถึงจะจบ รัฐบาลนี้จึงมีความมุ่งมั่นและเตรียมความพร้อมให้ตั้งแต่วันเรียน

"บิ๊กตู่" รับ ขรก. ยังมีทุจริต ชี้ กม.มีเยอะ แต่อยู่ที่ใจใครจะทำ เผยทำงานหนักจนจำตัวเองไม่ได้ 

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แผนแม่บทการใช้จ่ายงบฯสามารถปรับเปลี่ยนได้ หลายคนบอกว่าทำไมไม่ทำตรงนี้ หรือไม่ทำตรงนั้น จะเอาเงินหลวงหรือเงินราษฎร ซึ่งก็ต้องดูที่กฎหมายว่าทำได้หรือไม่ และต้องหาวิธีการที่เหมาะสม สิ่งที่ตนพูดไม่ได้เป็นการท้าทายหรือพาดพิงใคร เรื่องการทุจริตในส่วนของราชการก็ต้องยอมรับว่าก็มี แต่ก็ต้องแก้กันไปซึ่งวันนี้กฎหมายมีเยอะแยะไปหมด อยู่ที่ใจคนจะทำตามไม่โดยกฎหมายมีไว้เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน กฎหมายฉบับใดที่ไม่ทันสมัยก็ต้องแก้ไข ไม่ใช่เอารัฐธรรมนูญมาทะเลาะกัน ทั้งนี้แม้จะมีกฎหมาย แต่การทุจริตก็ยีงมีอยู่ ตนจึงมุ่งเน้นที่จะแก้ไขปัญหาการทุจริตให้ได้ เราต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาต่างๆฟันฝ่าอุปสรรคอย่างเป็นธรรม

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เราต้องสร้างคนให้เป็นคนที่สมบูรณ์จิตใจมีคุณธรรมครองชีวิตแบบมีหลักคิดที่ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นจะใช้ความคิดไปตามโซเชียลมีเดีย วันนี้เราต้องพัฒนาคนของเราไปถึง 4.0 ซึ่งทางรัฐบาลได้ใช้ไทยนิยมเดินไปทุกหมู่บ้านโดยการทำงานเชิงนโยบายถือเป็นอีกเรื่องที่จะลงไปสู่การปฏิบัติซึ่งนโยบายบายของรัฐบาลผู้ขับเคลื่อนคือรองนายกรัฐมนตรี หรือคณะทำงานต่างๆที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อนแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ส่วนผู้ปฏิบัติในพื้นที่คือผู้ว่าราชการจังหวัดสิ่งใดที่ต้องทำในวันนี้คือการสร้างความเป็นธรรมสร้างโอกาสลดความเหลื่อมล้ำให้ได้ ซึ่งวันนี้ทุกคนคือพลังสำคัญไม่ว่าจะเป็นอาจารย์นิสิตนักศึกษาต้องไม่ผูกติดกับสิ่งเดิมๆรัฐบาลเจอปัญหาร้อยแปดพันเก้าที่สลับซับซ้อนอยู่ข้างล่าง ที่ผ่านมาไม่เคยคลี่ออกมาดูแต่รัฐบาลนี้นำมาแก้ปัญหาทั้งหมด หากไม่แก้ปัญหาทั้งหมดจะเกิดกับพวกเราในวันข้างหน้า 

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ ทำงานเยอะมาก ปัญหาก็เยอะ บางวันก็จำอะไรไม่ได้เลย บางครั้งตื่นมายังจำตัวเองไม่ได้ แต่พอแต่งตัวเพื่อที่จะทำงาน ก็นึกได้ว่ายังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ คนไทยต้องอ่านหนังสือให้มากกว่าเดิม ตนเองและรองนายกและรัฐมนตรีก็ต้องอ่านหนังสือ เอกสารท่วมโต๊ะกันทั้งนั้นไม่ได้นั่งสบาย ทุกอย่างต้องตรวจทาน สิ่งที่เราทำวันนี้คือให้ประเทศพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ไปสู่รายได้สูง โดยต้องดูต่างประเทศว่าเขามีการพัฒนาประเทศได้รวดเร็วอย่างไรด้วยถ้าเราคิดแบบเดิมๆก็ไม่ต้องไปไหนเราต้องคิดแบบตะวันตกคิดนอกกรอบทำด้วยความรอบคอบยั่งยืน ประเทศเราต้องพัฒนาคิดแบบ 2 อย่างคือทั้งแบบตะวันตกและแบบตะวันออก การจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ใช่เป็นการทำลายล้าง ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร แต่ทำอย่างไรเราจะไปกับเขาได้

ยันแค่วางยุทธศาสตร์ ไม่คิดสืบอำนาจ 20 ปี ชี้ทุกคนต้องมีวินัย เพื่อให้ประเทศเปลี่ยนผ่านได้ ไม่ใช่เรียกร้องอย่างเดียว

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จนเงินได้แต่อย่าจนความคิด เราต้องช่วยกัน เป็นคนดีมีคุณธรรม อย่าแก้ปัญหาปลายทาง ต้องสร้างความเท่าเทียมทางโอกาส แต่หลายคนไม่สนใจสิทธิตนเองจึงเกิดปัญหาขึ้น ปลูกพืชให้เหมาะสมไม่มากเกินไป ตรงนี้ไม่ใช่ไปรังแกคนจน แต่เป็นไปตามแนวทางประชารัฐ ความขัดแย้งไม่เอา ทุกประเทศมองไทยเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น คนมาเที่ยวมากขึ้นเพราะบ้านเมืองสงบ 

          "ก็เอาสิก็เลือกเอา เลือกตั้งว่าจะไม่พูด ก็คอยดูกันต่อไปแล้วกัน อาจดีก็ได้ แต่อย่ามาโทษผมอีกก็แล้วกัน ต้องไปดูยุทธศาสตร์ 20 ปี มาบอกว่าผมจะสืบทอดอำนาจ จะอยู่ไปทำไม 20 ปี แค่นี้อายุก็ 60 กว่าแก่ตายอยู่แล้ว พักผ่อนบ้างสิ อย่าไปมองอย่างนั้น เพราะมันมีปรับได้ทุกคนขึ้นมาทำ แต่แค่นี้ก็เถียงกันแล้ว ไม่ยอมกันกลายเป็นว่ามาบอกสืบทอดอำนาจ อย่างการปฏิรูปบางอย่างต้องใหม่เลย บางอย่างต้องแก้ปัญหาเดิมด้วยวิธีการใหม่ๆ นั้นคือการปฏิรูปที่ไม่ใช่เข้าห้องน้ำออกมาแล้วเสร็จเลย ต้องทำมากกว่านี้ ฟังความคิดทุกอัน อันไหนทำได้ทำเลย อันขัดแย้งไว้ข้างๆก่อนอะไรจำเป็นออกมาก่อนเพื่อปฏิรูประเทศ ถ้ารอทำทีเดียวไม่มีทางได้ เพราะไทยขัดแย้งกันสูง เราต้องมีภูมิต้านทานที่ดีด้วย" นายกฯ กล่าว

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า เราอย่าสอนให้อยากมีอยากได้ แล้วทำอะไรที่ขัดแย้งกัน ล้มล้างระเบียบต่างๆไม่ได้ ประเทศใดที่ไร้กฎหมาย ก็อยู่ไม่ได้ เพราะวินัยสร้างชาติ สร้างคน เปลี่ยนผ่านให้ได้ ทุกคนต้องเข้าร่วม ไม่ใช่เรียกร้องอย่างเดียว ไม่ใช่ประท้วงขอเท่านี้เท่านั้น โดยไม่สนใจกฎหมายจะว่าอย่างไร ซึ่งตนเป็นประชาชนคนหนึ่ง รู้ว่ามีอะไรอยู่ตรงไหน ใช้ทรัพยากรอย่างไร ทั้งนี้คาดหวังจุฬาฯจะเป็นเรือธงและพาเรือขบวนไปด้วย ต้องผ่านคลื่นลมอีกมากมากมาย แต่ต้องทำให้ดีสมเป็นบุคคลที่มีคุณค่า ไม่อย่างนั้นจะเป็นเพียงกระดาษ ให้คิดแบบตะวันตก แต่ทำแบบตะวันออกโดยไม่ขัดแย้งไม่ตีกัน เพราะคนไทยเป็นคนคิดมาก คิดละเอียดคิดหมด แต่ฝรั่งอะไรที่ดีทำไปก่อนแล้วแก้ เราต่างกันตรงนี้ ถ้าปลดล็อกทำอะไรไม่ได้เป็นแบบเดิม ไม่ได้อะไรซักอย่าง อย่าง อีอีซี ก็ต่อต้าน หลายคนไม่ชอบ ต้องดูว่าวันหน้าจะเอาอะไรมากิน มาดูแลคนจน ต้องมีรายได้ของประเทศ ต้องร่วมมือ อย่าไปมองว่าเป็นการทุจริต ถ้าทุจริตก็จับให้ได้ และที่จับได้ก็ไม่ใช่ใครแต่รัฐบาลนี้จับ เพราะเกิดนานแล้ว ตนมาจุฬฯถึงใส่สีชมพู ตนให้เกียรติทุกคน ต้องให้เกียรติกันเพื่อจะได้เกิดความสามัคคี เพื่อทำให้หลายอย่างปรับเปลี่ยนขึ้นมาได้ ต้องเคารพกฎหมายอย่าให้คนอื่นเดือดร้อน และถึงไม่ผิดวันนี้ก็ผิดวันหน้า เพราะกฎหมายไม่ได้เขียนให้ยกเว้น

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายนายกฯได้แนะนำรัฐมนตรีที่ร่วมมาด้วย และเมื่อถึงการแนะนำตัว พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 แต่ปราฏว่าไม่เห็นตัว นายกฯจึงถามหาว่า "ไหนอยู่ไหนไปรักษาความปลอดภัยอยู่ข้างหลังเหรอ ไม่ต้องหรอกปล่อยเขาไป" ทั้งนี้นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เคลื่อนไหวทำกิจกรรมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ได้ร่วมรับฟังการปาฐกถาในครั้งนี้ด้วย โดยเจ้าหน้าที่แยกให้นั่งฟังอยู่บริเวณชั้นลอยของหอประชุม ขณะที่เฟซบุ๊กสายตรงไทยนิยม ได้ถ่ายทอดสดการปาฐกถาครั้งนี้ มีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมรับฟังและแสดงความเห็นอย่างหลากลาย ทั้งนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด และ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว เป็นต้น.

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ