ข่าว

"วิษณุ"ขยับแก้คำสั่งคสช.-ยอมรับ53/2560มีปัญหา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วิษณุ"รับเตรียมแก้คำสั่ง 53/2560 เผยรับรู้ถึงปัญหา ขณะที่"พรเพชร"จ่อส่งร่างก.ม.ส.ส.ให้ศาลรธน.ตีตวาม 3 เม.ย.นี้ "เพื่อไทย"คึกคักยืนยันสมาชิกวันแรก

 

     เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 2 เมษายน ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 53/2560 เรื่องการดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 231 ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาได้ คำวินิจฉัยมีผลผูกมัดผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว แต่เวลานี้ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัยจึงไม่มีอะไรที่ต้องทำ

“วิษณุ”รับเตรียมแก้คำสั่ง53/60

    ส่วนข้อขัดข้องที่บางฝ่ายยกขึ้นมาจากคำสั่งที่ 53/2560 นั้น ความจริงแล้วพอจะทราบกันอยู่ เพราะมีการหารือเป็นระยะๆ ก่อนที่จะให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดประชุมชี้แจงเพื่อตอบปัญหาของพรรคการเมืองเดิมเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างรัฐบาล คสช. กับ กกต.มาก่อนแล้ว จึงได้ทราบแล้วว่าข้อสงสัยมีอะไรบ้าง และสามารถแบ่งข้อสงสัยได้เป็น 3 ส่วน คือ ข้อสงสัยที่ กกต.สามารถชี้แจงเองได้เพราะเป็นวิธีปฏิบัติที่ กกต.มีอำนาจ ส่วนที่สองคือข้อสงสัยที่มีส่วนยึดมาจากคำสั่งที่ 53/2560 เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องหารือกับ คสช. ซึ่งก็ได้หารือกันและกำหนดแนวทางให้ กกต.ไปชี้แจงต่อแล้ว

"วิษณุ"ขยับแก้คำสั่งคสช.-ยอมรับ53/2560มีปัญหา

    ส่วนสุดท้ายคือส่วนที่น่าจะเป็นปัญหาอยู่จริงในการปฏิบัติจากคำสั่งที่ 53/2560 ซึ่งก่อนหน้านี้ กกต.ได้รายงานปัญหาให้ คสช.ทราบ เมื่อถึงจุดหนึ่งที่รวบรวมคำถามได้ชัดเจน เห็นปัญหาทั้งในวิธีปฏิบัติและตัวบทกฎหมายแล้วก็มีความเป็นไปได้ว่าต้องแก้ไข เช่น การประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองที่ต้องประกอบด้วยหัวหน้าหรือตัวแทนของสาขา ปัญหาคือพรรคที่มีสาขาก็พอจะเรียกประชุมให้ครบองค์ประกอบได้ แต่พรรคที่ยังไม่มี จะมีสาขาได้ก็ต่อเมื่อมีการประชุมใหญ่ แต่ในการประชุมใหญ่ต้องมีหัวหน้าสาขา ในที่สุดจึงเป็นปัญหาว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน เป็นข้อขัดข้องที่ได้จัดเตรียมว่าจะต้องแก้ไข โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ยกร่างเตรียมไว้ก่อนแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะมีการปรับแก้เมื่อใด ถ้ามีจะต้องผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม คสช.ก่อน

แนะเร่งหาเสียง-อย่าห่วงเรื่องอื่น

    นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนกรณีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นั้น แม้จะมีเวลายื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ถึง 12 เมษายน แต่คงไม่รอให้ถึงสิ้นสุด เพราะเวลาทุกนาทีมีประโยชน์ หากจะส่งศาลรัฐธรรมนูญควรทำโดยเร็ว เพื่อจะได้รีบพิจารณาวินิจฉัย และแม้วันนี้นายกฯ จะไม่ได้ส่งร่างกลับไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แต่สมาชิก สนช.สามารถเข้าชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเองได้ในกรอบเวลา 25 วัน ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะกระทบต่อโรดแม็พนั้น ยืนยันว่าไม่กระทบ เพราะมีวิธีบริหารจัดการ แต่ตนยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้

    “เอาเป็นว่าใครเตรียมจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ท่านก็ไปเตรียมหาเสียงให้ทันการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 แล้วกัน อย่างอื่นคนอื่นจะช่วยจัดการให้ ท่านไม่ต้องจัดการอะไร ถ้ามัวแต่นั่งกังวลสงสัยว่าจะเลื่อนเลือกตั้งหรือเปล่า เลยยังไม่หาเสียง หรือยังไม่ได้ตัดสินใจลาออกจากราชการ เดี๋ยวจะไม่ทันนะ รัฐบาลจะพูดเรื่องโรดแม็พต่อเมื่อ เฮ้ย ต้องเลื่อนแล้วเว้ย ถ้ายังไม่เลื่อนก็ยังเป็นไปตามโรดแม็พ” นายวิษณุกล่าว

"วิษณุ"ขยับแก้คำสั่งคสช.-ยอมรับ53/2560มีปัญหา

จ่อส่งศาลรธน.วันนี้ร่างก.ม.ส.ส.

    เวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้กำลังรอร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะส่งมา โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการให้เตรียมเอกสารแนบ คือ คำร้องของ สนช. ที่เข้าชื่อ 27 คน พร้อมหนังสือนำส่งขอให้ศาลวินิจฉัยคำร้องดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อไม่ให้กระทบกับโรดแม็พเลือกตั้ง ดังนั้นทันทีที่ร่างกฎหมายมาถึงก็พร้อมส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญทันทีในเวลาราชการ ภายในวันที่ 3 เมษายน ส่วนประเด็นที่สนช.ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมี 2 ประเด็น คือ 1.การตัดสิทธิ์ผู้ไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งห้ามดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองและท้องถิ่น และ 2.ให้สามารถช่วยผู้พิการกาบัตรเลือกตั้งได้

    “มั่นใจว่า ในขั้นตอนนี้ อยู่ในวิสัยที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐบาล กกต. สามารถร่นระยะเวลาจัดการเลือกตั้งให้น้อยกว่า 150 วันได้ โดย สนช. ไม่สามารถไปกำหนดโรดแม็พเลือกตั้งได้ แต่ส่วนงานของ สนช. ก็ได้ลดเวลาการสรรหา กกต. จาก 90 วัน เหลือ 70 วัน” นายพรเพชร กล่าว

บิ๊กตู่ให้โอวาทข้าราชการพลเรือน

    เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวให้โอวาทในกิจกรรมวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี พ.ศ.2561 ว่า ข้าราชการต้องร่วมมือกันเพื่อเดินหน้าสู่ยุทธศาสตร์ชาติ ต้องหาวิธีตอบสนองนโยบายรัฐบาลให้ได้ รัฐบาลยืนยันว่า ไม่มีนโยบายเพื่อตัวเองและ คสช. วันนี้เป็นการเตรียมการเพื่อสู่การเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ และข้าราชการสำคัญที่สุด เพราะอยู่ในทุกพื้นที่ จึงจะทำอย่างไรให้ได้ประชาธิปไตยที่เป็นสากล โดยต้องเหมาะกับประเทศไทย ไม่ย้อนกลับไปแบบเดิมอีก วันนี้เห็นได้ว่า การเคลื่อนไหวมีมากมายพอสมควร และส่วนตัวก็ไม่ว่าใครผิดหรือถูก แต่ขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลและ คสช.มีความมุ่งมั่นทำให้ประเทศพัฒนา ดังนั้น ทุกคนมีหน้าที่ขับเคลื่อนผลักดันยุทธศาสตร์ชาติให้เป็นรูปธรรม โดยนำแนวพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ซึ่งปัจจุบันได้นำมาประเดิมใช้ในโครงการไทยนิยมยั่งยืน เพื่อเข้าถึงหมู่บ้านและครอบครัว

ยอมรับไทยนิยมชี้นำเพื่อชาติ

    "โครงการนี้ไม่ใช่การหาเสียงหรือประชานิยม แต่เป็นการคิด พูดคุยร่วมกันเพื่อหาข้อยุติ ไม่ใช่พอมีเงินก็แจกประชาชนเป็นกลุ่มๆ เราต้องให้ประชาชนคิดกันเอง ต้องสอนให้คิดเป็น ที่ผ่านมาไม่ได้กล่าวหาใครว่าคิดไม่เป็น แต่เป็นเพราะขาดคนชี้นำ ซึ่งวันนี้รัฐบาลชี้นำจริง แต่ไม่ใช่เพื่อตัวเอง หรือเพื่อรัฐบาลและคสช. แต่ชี้นำเพื่อประเทศไทย วันนี้ไม่ใช่เตรียมการไปสู่อนาคตเพื่อเป็นนักการเมือง หรือเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้จริงๆ ทุกอย่างมันเป็นชะตาฟ้าลิขิตมาทั้งหมด ประเทศไทยเราก็ไม่ลบหลู่ใช่ไหม เขาบอกโชคชะตาฟ้าลิขิตทุกคนกำหนดมาแล้ว ถ้าเราเป็นคนดีลิขิตจะเปลี่ยนไปได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เราต้องการให้พร้อมรองรับการเป็นประชาธิปไตยสากลในวันข้างหน้า และก็ทราบว่ามีผลกระทบต่างๆ มากมาย แต่เราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเราเป็นประเทศที่เลือกประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองที่มี 3 อำนาจ โดยที่รัฐบาลจะใช้อำนาจที่พระราชทานมาอย่างไรไม่ให้เสื่อมเสีย เหล่านี้เป็นสิ่งที่ข้าราชการทุกคนต้องปฏิบัติอย่างราบรื่น ขอให้ข้าราชการมีความมั่นคงต่อไปในระบอบประชาธิปไตยที่มีธรรมาภิบาล และนายกฯ จะพยายามทำให้ทุกคนมีความปลอดภัยในการทำงานให้มากที่สุด แต่ทำอย่างไรทุกคนจะไม่พ่ายแพ้ต่อสิ่งที่มันไม่ดี อย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

เปิดสายตรงไทยนิยม3เม.ย.

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 3 เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นประธานในพิธีเปิดตัวโครงการ “สายตรงไทยนิยม” ซึ่งจะเป็นช่องทางรับเรื่องร้องทุกข์ รับฟังความคิดเห็น และชี้แจงประเด็นสำคัญ ผ่านเว็บไซต์, เฟซบุ๊ก และโมบายแอพพลิเคชั่น ทั้งในระบบไอโอเอสและแอนดรอยด์ โดย พล.อ.ประยุทธ์ตั้งใจให้ “สายตรงไทยนิยม” นี้ เป็นของขวัญวันปีใหม่ไทยแก่ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ

"วิษณุ"ขยับแก้คำสั่งคสช.-ยอมรับ53/2560มีปัญหา

เมิน“แม้ว-ปู”โผล่ญี่ปุ่นบอกช่างเขา

    นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีการปรากฏตัวครั้งล่าสุดของนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศญี่ปุ่น ว่า “ช่างเขาสิ” ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อนั้น ก็ไปถามเขาสิ ก็ทำตามกฎหมายครบถ้วนหมดแล้ว

สั่งกต.ถามข้อเท็จจริงจากญี่ปุ่น

    ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ปรากฏภาพข่าวนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร่วมกิจกรรมในงานเปิดตัวหนังสือของอดีตรัฐมนตรีญี่ปุ่นว่า เท่าที่ทราบข้อมูลเบื้องต้น นายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปในนามส่วนตัว โดยรู้จักและเป็นเพื่อนกับอดีตรัฐมนตรีของญี่ปุ่นที่ได้เขียนหนังสือของตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการตีกอล์ฟ

    ผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางของสองอดีตนายกรัฐมนตรีไทยเข้าประเทศญี่ปุ่นนั้นใช้วีซ่าแบบใด นายดอน กล่าวว่า ไม่ทราบเนื้อหาที่แท้จริงของการขอวีซ่าดังกล่าว เชื่อว่าผู้จัดงานคงเป็นคนดำเนินการให้จนได้รับการอนุญาตวีซ่า

    “หลังจากปรากฏเป็นข่าวออกมา ทางไทยก็ได้สอบถามข้อเท็จจริงไปยังญี่ปุ่น โดยในวันเดียวกันนี้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศที่กำลังประชุมอยู่ที่ญี่ปุ่นก็จะได้พูดคุยถึงประเด็นดังกล่าวนี้เช่นกัน ถึงแม้ในการประชุมจะมีการพูดคุยในหลายๆ เรื่อง แต่ก็จะมีประเด็นเรื่องนี้อยู่ด้วย” นายดอน กล่าว และเมื่อถามว่า จะขอให้ปลัดฯ พูดคุยกับญี่ปุ่นเพื่อขอให้ยกเลิกวีซ่าของนายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือไม่ นายดอน กล่าวว่า วีซ่าดังกล่าวเป็นเพียงครั้งคราว ใช้ไปก็หมด ไม่ใช่วีซ่าระยะยาว

บอก “บิ๊กตู่” เข้าใจรัฐบาลญี่ปุ่นไม่เกี่ยว

    ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ากรณีนี้ไม่เข้าข่ายกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนของญี่ปุ่นกลับไทยใช่หรือไม่ นายดอนกล่าวว่า ก็ออกมาในแนวนั้นถึงได้มีข่าวออกมาอย่างนี้ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นเข้าใจดีว่า ปกติการให้ผู้กระทำผิดกฎหมายของอีกบ้านเมืองหนึ่งเข้าประเทศเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สอบถามอย่างไรบ้าง นายดอน กล่าวว่า “ก็มีอยู่แต่ไม่ได้ปรารภโดยตรง โดยแสดงความห่วงใยมาว่า เรื่องนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นเกี่ยวข้องแค่ไหน แต่เมื่อรับรู้ว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง นายกฯ ก็เข้าใจดี”

"วิษณุ"ขยับแก้คำสั่งคสช.-ยอมรับ53/2560มีปัญหา

“บิ๊กป้อม” ยัน คสช.คือผู้ตรวจทุจริต

     ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยทำโพลล์สำรวจพบการทุจริตคอร์รัปชั่น 3 ปี ยุค คสช.สูงสุดว่า คสช.เป็นผู้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายทุจริตในช่วงที่ผ่านมาย้อนหลังหลายปี ไม่ใช่ว่า คสช.คอร์รัปชั่น ส่วนการตรวจสอบตู้น้ำพลังงานแสงอาทิตย์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นั้น ขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่ภายใน 30 วัน ทั้งกระบวนการจัดหาว่ามีการทุจริตอย่างไร ซึ่งการตรวจสอบทุกอย่างเป็นไปตามมติ ครม.

    เมื่อถามว่า รู้สึกโล่งใจหรือไม่ หลังได้ชี้แจงที่มาของนาฬิกาหรูไปเมื่อวันที่ 1 เมษายน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องนาฬิกาอีกแล้ว ทุกอย่างจบ

เมิน“มาร์ค” ประกาศไม่หนุนทหาร

     พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุน คสช. ว่า เป็นเรื่องของเขา พูดอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น ส่วน คสช.ได้ติดตามความเคลื่อนไหวพรรคการเมือง หลังเปิดให้ยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคอย่างไรนั้น ดูแล้ว ไม่มีอะไรก็ว่าไป ในการที่จะแจ้งลงบัญชีพรรคการเมือง ส่วนที่พรรคการเมืองเรียกร้องให้ปลดล็อกนั้นพูดหลายครั้งแล้ว

   เมื่อถามถึงกรณี นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย เตือน พล.อ.ประยุทธ์ หากเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยหน้า ให้ระวังการอภิปรายในรัฐสภา รองนายกฯ ประวิตร กล่าวว่า “นายกรัฐมนตรีทำดีทุกอย่าง แล้วจะไปอภิปรายอะไรท่าน อนาคตยังไม่เกิด ก็อย่าไปพูด ท่านก็ทำงานเหนื่อยยาก ไม่เห็นมองความดีของท่านบ้าง อยากให้ถามเรื่องดีๆ บ้าง”

คึกคัก “เพื่อไทย” เปิดยืนยันสมาชิก

    เมื่อเวลา 09.00 น. พรรคเพื่อไทยเปิดให้สมาชิกเข้ามายื่นเอกสาร และยืนยันความเป็นสมาชิกเป็นวันแรก บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนจำนวนมากมารอยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคกันตั้งแต่ยังไม่เปิดทำการ ขณะที่พรรคได้จัดเจ้าหน้าที่คอยให้บริการ และมีแกนนำของพรรค และอดีตส.ส. ทยอยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาพบปะและให้ความรู้แก่ประชาชนที่เดินทางมายืนยันสมาชิก อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองหัวหน้าพรรค นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายปรีชาพล พงษ์พาณิชย์ อดีตส.ส.ขอนแก่น นายวีระกานต์ มุสิกพงษ์ แกนนำนปช.

     จากนั้นเวลา 09.44 น. ห้องสมุดชั้น 1 พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวต้อนรับสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่เดินทางมายืนยันสมาชิกที่สำนักงานใหญ่ว่า ขอยินดีต้อนรับทุกท่าน สมาชิกพรรคถือเป็นหัวใจสำคัญของประชาธิปไตย แม้ว่ากระบวนการที่เกิดขึ้นในขณะนี้ยังเป็นกระบวนการที่กะปริดกะปรอยอยู่ก็ตาม ผ่านร้อนหนาวมากว่า 10 ปีจนถึงวันนี้ก็ยังยืนอยู่อย่างมั่นคง แข็งแรง ยึดมั่นในสิ่งที่เราคิด ในสิ่งที่ทำ ทุกคนที่ยังอยู่ก็ยังยึดมั่นและจะทำให้อุดมการณ์ความฝันของประชาชนและอุดมการณ์ที่เคยยึดมั่นให้ปรากฏเป็นจริงให้ได้ ประชาธิปไตยต้องเกิดขึ้นในสังคมไทย ระบบประชาธิปไตยที่ดึงการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกคนเท่านั้นถึงเป็นต้นทุนสำคัญที่จะผลักดันและแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้

ลั่น4เม.ย.จัดกิจกรรมไม่ขอคสช.

    “ถ้าวันนี้เขารีบคืนอำนาจให้ระบบประชาธิปไตยและให้การเลือกตั้งเกิดขึ้น หนทางที่จะทำให้ประเทศคลี่คลาย รวมถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็จะเกิดขึ้น วันนี้เราไม่ต้องการอะไร แต่เรื่องเดียวที่สำคัญที่สุดคือควรปลดล็อกพรรคการเมือง วันนี้เราบอกกับนักการเมืองของเราทุกคนว่ามีภาระหน้าที่ที่ต้องประสานงานกับประชาชน ฉะนั้นผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดทุกท่านสามารถที่จะยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคได้ผ่านตัวแทนของพรรค ในวันที่ 4 เมษายน ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป เราจะเชิญนักการเมืองของพรรคทั้งระบบปาร์ตี้ลิสต์ ระบบพื้นที่ รวมถึงอดีตรัฐมนตรีของพรรคที่ตัดสินใจยังยืนอยู่กับพรรคเพื่อไทยชัดเจนก็จะแสดงตนในวันนั้น และจะมีการจัดงานรดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ด้วย”

    นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า สื่อสงสัยว่าวันที่ 4 เมษายน ทำกิจกรรมการเมืองได้หรือไม่ ต้องขออนุญาต คสช.หรือไม่ ขอบอกว่าไม่ได้ขออนุญาต คสช. เพราะเชื่อว่าในสังคมไทยการดำเนินกิจกรรมทางประเพณีทั้งหมด ดำเนินการได้โดยไม่ต้องขออนุญาต คสช. เพราะถ้าต้องขออนุญาตคสช. ทั้งอณูของชีวิต ทุกเรื่องของชีวิตต้องไปขออนุญาตคสช.หมด คิดว่า คสช.ไม่รู้จักชีวิตของคนทั้ง 60-70 ล้านคนทั้งหมด ซึ่งวันที่ 4 เมษายน เราจัดประเพณีรดน้ำดำหัวมาทุกปี โดยจะขอพรจากผู้ใหญ่ของพรรค 3 ท่านคือ 1.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี 2.นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ซึ่งยืนยันและประกาศชัดเจนว่าตระกูลเทียนทองจะยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย 3.พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ส่วนคนที่ยังไม่มาแสดงตัวอาจจะต้องรอเวลาถึงวันที่ 30 เมษายน ซึ่งบางท่านติดต่อมาแล้วว่ายังอยู่ต่างประเทศ เมื่อกลับมาก็จะรีบมายืนยันตัว ฉะนั้น 30 เมษายน จะชัดเจนแน่นอนว่าคนเก่าคนแก่ที่ยังอยู่กับเรามีใคร

"วิษณุ"ขยับแก้คำสั่งคสช.-ยอมรับ53/2560มีปัญหา

ชพน.ชูพรรคการเมืองจากการเลือกตั้ง

    วันเดียวกัน ที่สำนักงานพรรคชาติพัฒนา(ชพน.) สาขาจังหวัดนครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่เช้ามีประชาชนนับพันคน ซึ่งส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ 24 ตำบล ของ อ.เมืองนครราชสีมา ทยอยเดินทางมายืนยันการมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 24 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันการเป็นสมาชิกต่อหัวหน้าพรรค โดยมี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยแกนนำพรรค อดีตส.ส. ต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการลงนามเอกสารยืนยันการเป็นสมาชิกพรรค

    ทั้งนี้ นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า ขอยึดมั่นอาสาทำงานเพื่อพัฒนาตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างเข้มแข็งตามวิถีทางระบอบประชาธิปไตยต่อไป ไม่มีความหวั่นไหวใดๆ ทั้งสิ้น ขอยืนยันพรรคชาติพัฒนายังสนับสนุนพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ยกเว้นสถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะวิกฤติคับขันไม่สามารถหาทางออกได้ หากเราเป็นฝ่ายค้านก็ยังคงทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ปฏิบัติหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ สร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ประเทศชาติ

‘มาตุภูมิ’ เตรียมยุติบทบาทการเมือง

     วันเดียวกัน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ(มภ.) ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางทางการเมืองว่า ได้มองภาพอนาคตและอดีตนำมาผูกกัน คิดว่าการเมืองไทยยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิมมากนัก การเลือกตั้งคงไม่หนีวิธีการเก่าๆ พรรคมาตุภูมิไม่มีผู้สนับสนุนพรรค การเดินไปข้างหน้าในสภาวะรัฐธรรมนูญใหม่ กติกาการเลือกตั้งใหม่ ทำให้ได้คะแนนเสียงเหมือนเก่าคงยากมากขึ้น ดังนั้น พรรคกำลังทบทวนว่าจะเดินหน้าอย่างไร ได้บอกคณะกรรมการบริหารพรรคว่าคงเดินไปข้างหน้ายาก และคิดว่ามี 2 แนวทางปฏิบัติคือ เลิกไปเลย หรือหยุดกิจกรรมของพรรคชั่วคราว ซึ่งดูแล้วน่าหยุดกิจกรรมชั่วคราว แต่รอคุยกับคณะกรรมการบริหารพรรคอีกครั้ง ส่วนอนาคตทางการเมืองต้องดูการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ปี 62 ว่าการเมืองจะเป็นแบบไหน อย่างไรก็ตาม วันนี้มีหลายพรรคการเมืองมาชวนให้ไปอยู่ด้วย ก็ได้ปฏิเสธไปแต่พร้อมให้คำปรึกษาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเท่านั้น

    “อยากเป็นนักการเมืองเพื่อเข้ามาแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เมื่อเข้ามาแล้ว เห็นว่าไม่ใช่เรื่องง่ายและเกินความสามารถ ทั้งนี้ ยืนยันการตัดสินใจอนาคตของพรรคมาตุภูมิไม่เกี่ยวข้องกับกรณีกลุ่มวาดะห์ตั้งพรรคประชาชาติ เพราะช่วงเลือกตั้งปี 54 มีสมาชิกกลุ่มวาดะห์ลงเลือกตั้งในนามพรรคมาตุภูมิแค่ครั้งนั้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คิดใหม่หลายอย่าง ต้องมองเหตุใดกลุ่มวาดะห์ไม่อยู่พรรคเพื่อไทย” พล.อ.สนธิ กล่าว

โอ๊คแรง-เล่นของสูงซัด“ป๋าเปรม”

     วันเดียวกัน นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้โพสต์ภาพเช็ค 2 ฉบับ และใบนำฝากของธนาคารลงในอินสตาแกรม oak_ptt พร้อมข้อความระบุว่า “วันก่อนมีคนส่งรูปเช็ค 2 ฉบับ และใบนำฝากของธนาคาร มาให้ดู โดยเช็ค 2 ฉบับนี้ ได้สั่งจ่ายเงินเข้าบัญชีคนดังระดับประเทศ และเป็นเงินก้อนเดียวกันกับที่ดีเอสไอกำลังเอาเรื่องพานทองแท้ ข้อหาฟอกเงินในคดีเงินกู้แบงก์กรุงไทย อยู่ ณ เวลานี้ ผมจะขอสรุปสั้นๆ นะครับ

   เช็คฉบับที่ 1 เป็นเช็คสั่งจ่ายโดยระบุชื่อ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จำนวนเงิน 250,000 บาท มีลายเซ็น พล.อ.เปรม เซ็นชื่อกำชับแบบชัดๆ ว่า ให้นำเงินก้อนนี้ไปฝากเข้าบัญชีมูลนิธิของตัวเอง ส่วนเช็คฉบับที่ 2 เป็นเช็คสั่งจ่ายเงินสด ซึ่งเช็คใบนี้ถูกนำไปเข้าบัญชี พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป นายทหารคนสนิท ของ พล.อ.เปรม โดยมีเลขที่เช็คคือหมายเลข 2724851 ซึ่งติดกับเลขที่เช็คที่สั่งจ่ายให้ผม คือหมายเลข 2724852 ลงวันที่สั่งจ่ายวันเดียวกันเป๊ะ แต่ทำไมบุคคลทั้ง 2 กลับไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงิน

ซัด“ดีเอสไอ”สองมาตรฐาน

     ทั้งนี้ ทนายได้ส่งข้อมูลหลักฐานของเช็คทั้ง 2 ฉบับนี้ และข้อมูลอื่นๆ เป็นจดหมายลงทะเบียน ไปถึงคณะกรรมการของดีเอสไอที่มีหน้าที่พิจารณาคดีนี้เป็นรายบุคคลแล้ว จึงถือว่าทุกท่านได้รับทราบข้อผิดสังเกต และได้ทราบประเด็นที่ไม่ชอบมาพากลไปแล้ว

หลังจากนี้ถ้ามีการกระทำอะไรที่เป็นสองมาตรฐาน และไม่ให้ความเป็นธรรมกับผมอีก ผมคงต้องขอสงวนสิทธิ์ในการปกป้องตัวเองจนถึงที่สุด ในทุกตัวบทกฎหมาย ตลอดอายุความที่สามารถจะกระทำได้ จะหาเรื่องเอาคนอื่นเข้าคุก โดยที่เขาไม่ได้กระทำความผิด เล่นกันแรงแบบนี้ คงไม่มีใครปล่อยให้ Free Kick กัน"

คนสนิทป๋าเปรมโต้ข่าวทันที

    เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พล.ท.พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และนายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว เท่าที่ทราบคือเจตนาของผู้บริจาคต้องการบริจาคเงินเข้ามูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แต่ในเช็คได้ใส่ชื่อของ พล.อ.เปรม พล.อ.เปรมจึงได้ส่งเช็คบริจาคเงินดังกล่าวต่อเข้ามูลนิธิฯเรียบร้อย ไม่ได้นำเงินมาใช้ส่วนตัว อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวทางกรมสอบสวนคดีพิเศษคงตรวจสอบแล้ว เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว และยืนยันเงินดังกล่าวได้ส่งต่อเข้าการกุศลจริงๆ พล.อ.เปรมไม่ได้นำมาใช้ส่วนตัว

"วิษณุ"ขยับแก้คำสั่งคสช.-ยอมรับ53/2560มีปัญหา

 

คสช.ชง“ป้องกันทุจริตราชการ”

     ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคสช. กล่าวถึงการประชุม สำนักงานเลขาธิการคสช. มี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคสช. เป็นประธานการประชุมว่า เลขาธิการคสช. ได้กล่าวถึงการปราบปรามการทุจริต ซึ่งเป็นสิ่งที่คสช.ดำเนินการมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เพราะตระหนักดีว่าทุจริตคอร์รัปชั่นส่งผลเสียหายอย่างร้ายแรงต่อประเทศ และความเป็นอยู่ของประชาชน ล่าสุดคสช.ได้เสนอมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในระบบราชการ เพื่อเสริมการทำงานในเรื่องดังกล่าวให้รัฐบาลที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้วให้มีความเข้มข้นยิ่งขึ้น

     พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ พล.อ.เฉลิมชัย ได้สั่งการให้ทุกส่วนงานให้ความสำคัญกับมาตรการดังกล่าว พร้อมนำไปดำเนินการในทุกมิติให้เกิดเป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมโดยด่วน โดยคสช.จะยังคงมุ่งเน้นการรับเรื่องร้องเรียนการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐ “สายด่วน 1299” และเร่งรัดกระบวนการตรวจสอบให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจและปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบ

ผบ.ทบ.เซ็นปรับย้ายโผผู้การกรมฯ

     วันเดียวกัน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ได้ลงนามในคำสั่งกองทัพบก ในการปรับย้ายนายทหาร จำนวน 113 ตำแหน่ง มีตำแหน่งที่สำคัญ อาทิ พ.อ.ณัฏฐพงศ์ อัศวินวงศ์ ผู้บังคับกองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 (ผบ.พัน.ร.มทบ.11) เป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 112 (ผบ.ร.112) พ.อ.มนิต ศิริรัตนากูล เสนาธิการกองพลพัฒนาที่ 1 (เสธ.พล.พัฒนาที่ 1) เป็นผู้บังคับการกรมพัฒนาที่ 1 (ผบ.กรมพัฒนาที่ 1) พ.อ.เวชศักดิ์ ขันธอุบล เสนามณฑลทหารบกที่ 12 เป็น เสธ.พล.พัฒนาที่ 1 พ.อ.อนุชา นพจำรูญศรี เสธ.มทบ.19 เป็น เสธ.มทบ.12 พ.อ.สุชญาณ ศรีตระกูล เสธ.พล.ร.11 เป็น เสธ.มทบ.19 พ.อ.ศตวรรษ อินทร์กง รอง ผบ.ร.111 เป็น เสธ.พล.ร.11

     พ.อ.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.12 รอ.) เป็น รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (รอง ผบ.ร.2 รอ.) พ.อ.ปัญญา ตั้งความเพียร รอง ผบ.ร.12 รอ.เป็น ผบ.ร.12 รอ. พ.อ.สุทธิชัย ศรลัมพ์ รอง ผบ.ร.21 รอ. เป็น ผบ.ร.21 รอ. พ.อ.เศวตฉัตร ศิริรักษ์ ผบ.ร.3 เป็น รองผบ.มทบ.28 พ.อ.บุญสิน พาดกลาง เสธ.พล.ร.3 เป็น ผบ.ร.3 พ.อ.ยงยุทธ ขันทวี รอง ผบ.ร.13 เป็น เสธ.พล.ร.3 พ.อ.สมบัติ จินดาศรี ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 6 (ผบ.ม.6) เป็น รองผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 (ผบ.พล.ม.3 )

     พ.อ.ชายธนัญชา วาจรัต ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 13 (ผบ.กรม ทพ.13 ) เป็น ผบ.ม.6 พ.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ปาณิกบุตร รองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 7 (รอง เสธ.พล.ร.7) เป็น ผบ.ร.17 พ.อ.เดชา ศรีมงคล รองผบ.รพศ.2 เป็น ผบ.รพศ.2 พ.อ.กอบกิจ ชูประสิทธิ์ เสนาธิการกองพลปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (เสธ.พล.ปตอ.) เป็น รอง ผบ.พล.ปตอ. พ.อ.นรินทร์ ชุ่มกมล ผู้บัญชาการศูนย์ป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบกที่ 3 (ผบ.ศปภอ.ทบ.3) เป็น เสธ.พล.ปตอ. พ.อ.นิพนธ์ ฤทธาพรม ผอ.ส่วนปฏิบัติการ ศปภอ.ทบ.เป็น ผบ.ศปภอ.3 ฯลฯ

ออเจ้า!บุกทำเนียบพบนายกฯวันนี้

     วันเดียวกัน นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า ในวันที่ 3 เมษายนนี้ ก่อนการประชุมครม. กระทรวงวัฒนธรรมจะนำคณะผู้จัดและดารานักแสดงจากละคร “บุพเพสันนิวาส” ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อรณรงค์ส่งเสริมภาพยนตร์และละคร ที่เกี่ยวกับการเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และภาพยนตร์ที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศ รวมถึงให้ความรู้ประวัติศาสตร์ไทย เพราะละครเรื่องนี้สอนหลายเรื่องให้คนไทยได้เรียนรู้ทั้งประวัติศาสตร์ ภาษา อาหาร วิถีการใช้ชีวิตและการแต่งกายสมัยอยุธยา พร้อมกันนี้ รัฐบาลจะมีการส่งเสริมให้มีการสร้างละครอิงประวัติศาสตร์ในลักษณะเช่นนี้อีก เพื่อเป็นองค์ความรู้ทางด้านศิลปวัฒนธรรมให้แก่ลูกหลานคนไทยต่อไป

ทั้งนี้ ดารานักแสดงพระนางทั้ง 3 คู่ที่จะมาพบนายกฯ ประกอบด้วย “หมื่นสุนทรเทวา” โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ “แม่หญิงการะเกด” เบลล่า ราณี แคมแปน “คอนสแตนติน ฟอลคอน หรือ ออกหลวงสุรสงคราม” หลุยส์ สก๊อต “ท้าวทองกีบม้า หรือ แม่มะลิ” ซูซี่ สุษิรา แน่นหนา “หมื่นเรืองราชภักดี” ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย และ “แม่หญิงจันทร์วาด” มะปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล

(ข่าวหน้า1 นสพ.คมชัดลึก)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ