ข่าว

"ชาติไทยพัฒนา" ยันนโยบายพรรค "ไม่รบกับใคร"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"นิกร" ยืนยันสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาไม่สนข่าว "กลุ่มพิจิตร" ย้ายซบภูมิใจไทย ย้ำพรรคไม่มีนโยบายรบกับใคร แบะท่าร่วมรัฐบาลทุกฝ่าย

   ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวที่พรรคชาติไทยพัฒนา ต่อการเข้ายืนยันสมาชิกของพรรค เมื่อเวลา 11.00 น. นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคและที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เข้ากรอกเอกสารยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคแบบถาวร พร้อมชำระค่าบำรุงพรรคตลอดชีพ จำนวน2,000 บาทกับเจ้าหน้าที่

"ชาติไทยพัฒนา" ยันนโยบายพรรค "ไม่รบกับใคร"
                ทั้งนี้ภายหลัง นายนิกร ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ที่พรรคเริ่มให้สมาชิกพรรคเดิมยืนยันการเป็นสมาชิกพรรค ยังไม่พบปัญหาหรืออุปสรรคใด ขณะที่แกนนำคนสำคัญของพรรค อาทิ นายธีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรค, นายวราวุธ ศิลปอาชา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค, นายภราดร ปริศนานันทกุล, นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล อดีต ส.ส.อ่างทอง จะเข้ายืนยันสมาชิกในวันที่ 4 เมษายน ส่วนแกนนำอื่นๆ ของพรรคที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัดจะเข้ายืนยันผ่านสาขาของพรรค หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อนุญาตให้ยืนยันสมาชิกพรรคผ่านสาขาพรรคได้  ทั้งนี้จากสมาชิกพรรคที่กกต.ตรวจสอบแล้วของพรรค มีในกทม. จำนวน 181 คน และต่างจังหวัด จำนวน 24,710 คน ทั้งนี้เหตุผลสำคัญที่แกนนำคนสำคัญยังไม่ทยอยยืนยันแบบคึกคักเมื่อเทียบกับพรรคการเมืองอื่นๆ เพราะตนเชื่อว่ายังมีเวลาจนถึง วันที่ 30 เมษายน  ไม่ใช่เพราะขณะนี้พรรคชาติไทยพัฒนาไร้แกนนำที่เข้มแข็ง อย่าง นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรค
                "พรรคจะยืนยันสมาชิกให้ครบจำนวนที่กฎหมายกำหนดพอให้ส่งสมัครรับเลือกตั้งได้ โดยใช้สาขาพรรคเป็นที่รับการยืนยัน ได้แก่ จ.สุพรรณบุรี, จ.อ่างทอง, จ.นครราชสีมา, จ.ปัตตานี และ จ.อุบลราชธานี ทั้งนี้มีจังหวัดเป้าหมายที่ต้องยืนยันสมาชิกพรรคให้ครบจำนวนที่มีอยู่เดิม คือ จ.สุพรรณบุรี ที่มีสมาชิก 4,000 คน, จ.อุทัยธานี ที่มีสมาชิก 7,000 คน" นายนิกร กล่าว
                นายนิกร ยังปฏิเสธที่จะยืนยันต่อกระแสข่าวที่อดีตส.ส.กลุ่มพิจิตของพรรคชาติไทยพัฒนา เตรียมย้ายไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย โดยขณะนี้นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ อดีต ส.ส.พิจิตร ยังเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา และหากจะย้ายสังกัดต้องรอการปลดล็อคทางกฎหมายหรือรอจนกว่าจะถึงวันที่ 30 เมษายน
                "พรรคชาติไทยยังยึดหลักการที่ว่าไม่เร่งรัด หรือบีบบังคับใคร การอยู่กับพรรคให้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ ดังนั้นใครจะอยู่หรือจะไปขึ้น ไม่เป็นปัญหา และไม่กระทบต่อสถานะของพรรคที่เป็นพรรคขนาดกลาง  และด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังฝุ่นตลบ เชื่อว่าอาจต้องรอเวลาซึ่งพรรคขอใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวแต่อย่าลืมว่าพรรคเราเป็นพรรคที่ร่มเย็น มีนโยบายไม่รบกับใคร" นายนิกร กล่าว
                ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ว่าไม่รบกับใครเพราะพร้อมร่วมรัฐบาลกับทุกฝ่ายใช่หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า เป็นเหตุผลสำคัญที่เราไม่รบกับใคร.
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ