ข่าว

งงเด้!“คืนผู้สูงอายุสู่สังคม”ผลงานเด่นรัฐบาล“บิ๊กตู่”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“บิ๊กฉัตร”แถลงผลงานรัฐบาลด้านสังคม "คืนผู้สูงอายุสู่สังคม"-“เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิ์ทุกที่”เข้ารักษารพ.ใกล้ที่สุดไม่ต้องสำรองจ่าย 72 ชั่วโมงแรก

 

       วันนี้ (21 มีนาคม 2561) ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล กทม. พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขร่วมกันแถลงผลงานสำคัญด้านสังคมของรัฐบาล

         พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในปี 2564 มีสัดส่วนผู้สูงอายุร้อยละ 20 ของประชากร ด้วยวิสัยทัศน์“ผู้สูงวัยเป็นหลักชัยของสังคม”ตามยุทธศาสตร์ 3SคือStrongสุขภาพแข็งแรงSecurityมั่นคงปลอดภัย และSocial Participationมีส่วนร่วมในสังคม บูรณาการความร่วมมือ 4 กระทรวง คือ กระทรวงมหาดไทย(มท.) กระทรรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) และกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นำนโยบายสู่การปฏิบัติ สร้างกลไกการทำงานให้เอื้อต่อการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

 

งงเด้!“คืนผู้สูงอายุสู่สังคม”ผลงานเด่นรัฐบาล“บิ๊กตู่”

พล.อ.ฉัตรฉัย  สาริกัลยะ

         พล.อ.ฉัตรชัย   กล่าวอีกว่า ในปี 2561 รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ 1,159.2 ล้านบาท มากกว่าปีที่ผ่านมา 259 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง (Long Term Care : LTC)ได้รับการดูแล 193,200 คน ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมา และได้จัดอบรมผู้จัดการดูแลผู้สูงอายุ 7,391 คน ผลิตผู้ดูแลผู้สูงอายุ 50,146 คน มีตำบลที่เข้าร่วมโครงการ 4,512 ตำบล ช่วยให้ผู้สูงอายุพ้นจากภาวะติดเตียง ติดบ้าน กลับเข้าสู่สังคมได้มากขึ้น

          "ทั้งนี้ยังเกิดนวัตกรรมโดดเด่นเป็นต้นแบบสำหรับพื้นที่อื่น เช่น การบริหารทุ่งตะโกโมเดล จ.ชุมพร การใช้หมอครอบครัวดูแลผู้สูงอายุของ อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ การดำเนินงานLTCเข้มแข็งโดยการมีส่วนร่วมจากภาคีเครือข่ายองค์กรในชุมชน ต.กุง อ.ศิลาลาด จ.ศรีสะเกษ สำหรับในเขตเมืองทีมหมอครอบครัว ทีมสหวิชาชีพที่เข้มแข็งดูแลผู้สูงอายุของศูนย์บริการสาธารณสุข52 สามเสนนอก กทม."พล.อ.ฉัตรชัย ระบุ

          ด้านศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับนโยบาย“เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิ์ทุกที่” (Universal Coverage for Emergency Patients : UCEP)เป็นครั้งแรกที่คนไทยทุกสิทธิ์การรักษาสามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินที่มีมาตรฐานในโรงพยาบาลของรัฐทุกสังกัด และโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่ใกล้ที่สุดหรือไปถึงเร็วที่สุด

 

 

งงเด้!“คืนผู้สูงอายุสู่สังคม”ผลงานเด่นรัฐบาล“บิ๊กตู่”

ศ.เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร

         "โดยไม่ต้องสำรองจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลในช่วง 72 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นจะได้รับการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลต้นสังกัดหรือโรงพยาบาลที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิต ลดความพิการ และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม"รมว.สธ.ระบุ

           รมว.สธ. กล่าวอีกว่า ผลการดำเนินงานตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อ 1 เมษายน 2560 จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 มีผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ 14,180 ราย เป็นผู้ป่วยในพื้นที่ กทม.ร้อยละ 45ส่วนใหญ่ร้อยละ 88 เป็นผู้ป่วยที่ไม่ได้มาจากการบาดเจ็บ 5 อันดับแรก คือ กลุ่มอาการหายใจลำบาก/ติดขัด กลุ่มอาการเจ็บแน่นทรวงอก/ หัวใจ

         " มีปัญหาทางด้านหัวใจ กลุ่มอาการอัมพาต (กำลังกล้ามเนื้ออ่อนแรง)เฉียบพลัน กลุ่มอาการไม่รู้สติ/ ไม่ตอบสนอง/ หมดสติชั่ววูบ และกลุ่มอาการหัวใจหยุดเต้นเป็นสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติร้อยละ 64 สวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการร้อยละ 17 ประกันสังคมร้อยละ 13 และอื่น ๆ ร้อยละ 5 คิดเป็นเงินที่จ่ายในระบบUCEP246 ล้านบาท    หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้สิทธิUCEPโทร. 02 872 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง"รมว.สธ. กล่าวในที่สุด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ