"เลขาสภาฯ" แจงของบ 8 พันล้านบาท ทำระบบไอซีที เหมาะสม-ปรับให้ทันสมัย แถลงยิบรายละเอียดส่วนใช้งบประมาณ เสนอของบประมาณ จาก ครม.
12 มี.ค.61-"เลขาสภาฯ" แจงของบ 8 พันล้านบาท ทำระบบไอซีที เหมาะสม-ปรับให้ทันสมัย แถลงยิบรายละเอียดส่วนใช้งบประมาณ เสนอของบประมาณ จาก ครม. ด้าน "รองเลขาฯ" ยืนยันไม่ล็อคสเปค – แม้ใช้วิธีคัดเลือกพิเศษ
นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ย่านเกียกกาย แถลงยืนยันต่อการเตรียมเสนอของบประมาณจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มูลค่า 8,658 ล้านบาท เพื่อใช้ในส่วนทำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและส่วนที่เกี่ยวข้องในโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ย่านเกียกกายมีความเหมาะสม แม้งบประมาณที่เตรียมเสนอขอดังกล่าวจะเพิ่มจากการศึกษามาก่อนหน้านี้ ที่ประเมินในจำนวน 3,586 ล้านบาท ก็ตาม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้ศึกษาใหม่และปรับปรุงแบบให้มีความทันสมัย อย่างไรก็ตามยืนยันงานส่วนดังกล่าวจะปฏิบัติตามกฎหมายและทำตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด และจะไม่ยอมให้กลุ่มอิทธิพลจากส่วนงานต่างๆ เข้าแทรกแซงหรือล็อบบี้การทำงานอย่างแน่นอน สำหรับขั้นตอนการของบประมาณนั้นอยู่ระหว่างให้ ครม. พิจารณา และจัดสรรให้ตามความจำเป็น เบื้องต้นทางสภาฯ มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องใช้ ดังนั้นอาจไม่ต้องรอรอบของการเสนอของบประมาณ ดังนั้นส่วนงบประมาณที่ให้ อาจเป็นงบกลาง
ทางด้านนายโชติจุฑา อาจสอน กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา CAMA ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การศึกษาระบบไอซีทีแบบเก่าได้ศึกษาตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งพบความไม่ทันสมัย ดังนั้นในปี 2557 จึงได้ศึกษาใหม่โดยว่าจ้างบริษัท เมอร์ลินส์ โซลูชั่นส์ อินเตอร์แนชั่นนัล จำกัด ออกแบบและได้นำคำแนะนำจาก 3 อนุกรรมการของรัฐสภา และ นักวิชาการจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุมทหารลาดกระบัง พิจารณาประกอบ และสรุปเป็นรายการงานและงบประมาณซึ่งเป็นส่วนที่เติมเต็มจากงานที่เคยตัดออกจากงบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 18,000 ล้านบาท งานโสตทัศนูกรณ์ เทคโนโลยีสารสนเทศกระจกโดยรอบโดมห้องประชุม, ระบบปรับอากาศ, ระบบควบคุมไฟอัตโนมัติ ระบบรักษาความปลอดภัย ดังนั้นการออกแบบใหม่ต้องเติมส่วนที่ตัดออกไปด้วย โดยงานระบบรักษาความปลอดภัย มีวงเงิน 586 ล้านบาท , ระบบไอซีที มีวงเงิน 2,759 ล้านบาท แบ่งเป็น งานระบบเครือข่ายสื่อสาร จำนวน 815 ล้านบาท, เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย และซอฟแวร์สนับสนุน จำนวน 1,448 ล้านบาท, เครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วงและโทรทัศน์ วงเงิน 324 ล้านบาท และระบบสารสนเทศ 170 ล้านบาท
นายโชติจุฑา กล่าวต่อว่า ขณะที่งานระบบที่ไม่ใช่ส่วนของไอที (นอนไอที) คือ ระบบไฟฟ้า วงเงิน 276 ล้านบาท, งานรักษาความปลอดภัยในอาคาร วงเงิน178 ล้านบาท , งานประกอบอาคาร 594 ล้านบาท , งานจัดสร้างศูนย์ข้อมูลหลัก สำรอง 895 ล้านบาท และงานโสตฯ วงเงิน 2,244 ล้านบาท
ขณะที่นายประสิทธิ์ อนันตวิรุฬห์ รองเลขาธิการ รับผิดชอบสำนักการคลังและงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวด้วยว่าส่วนการหาบริษัทที่รับจ้างทำงานส่วนดังกล่าว คณะทำงานเลือกใช้วิธีคัดเลือกพิเศษ คือ ส่งจดหมายเชิญชวนไปยังบริษัทที่มีคุณสมบัติตามสเปคที่กำหนด เพื่อให้ส่งรายการตามความต้องการของคณะกรรมการฯ ซึ่งส่วนดังกล่าวจะมีคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างที่ประกอบด้วยส่วนของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ และบุคคลภายนอก ทั้งนี้กระบวนการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการภายหลังจากที่ได้รับอนุมัติกรอบวงเงินจาก ครม. ที่จะแบ่งส่วนการใช้จ่ายผูกพัน 3 ปีงบประมาณ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2561 โดยเหตุผลที่เลือกใช้วิธีคัดเลือกพิเศษ เพราะเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องหาผู้รับจ้างให้ได้อย่างช้าไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือนเมษายน ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อการขนย้ายสำนักงานรัฐสภา ถ.อู่ทองใน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง