"วัฒนา" เผย บินพบ "แม้ว" ไม่ได้คุยการเมือง

นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทยที่ต่างประเทศ เพื่อเข้าเยี่ยมและอวยพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่จีน เนื่องจากนายทักษิณคือผู้ใหญ่ที่ตนให้ความเคารพ ทั้งนี้การเข้าพบดังกล่าวไม่ได้หารือหรือพูดคุยเรื่องประเด็นการเมือง เพราะนายทักษิณรู้เรื่องดังกล่าวไม่ดีเท่าตน เพราะตนอยู่เมืองไทย

นายวัฒนา ยังกล่าวถึงประเด็นการเลือกผู้นำในพรรคและบุคคลที่พรรคจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ตามบัญชีของพรรคการเมืองว่า​ ประเด็นของหัวหน้าพรรคนั้น จะดำเนินการได้ ในวันที่ 1 เมษายน  ตามที่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อนุญาตให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องได้. ดังนั้นบุคคลที่จะเป็นหัวหน้าพรรคนั้นตนมองว่าต้องได้รับการยอมรับจากสมาชิกพรรค ซึ่งการยอมรับนั้นจะพิจารณาจากการร่วมต่อสู้กับพวกเผด็จการ ดังนั้นหากบุคคลใดที่ไม่เคยร่วมต่อสู้อาจไม่ได้รับการยอมรับจากสมาชิก ขณะที่การหาบุคคลเพื่อสนับสนุนเป็นนายกฯ ตามบัญชีของพรรคนั้น อาจเกิดขึ้นผ่านการสำรวจความเห็นของประชาชน ว่า บุคคลที่พรรคจะเสนอนั้นได้รับความนิยมมากน้อยแค่ไหน และหากพบความต้องการพรรคจะชูบุคคลนั้นให้อยู่ในบัญชีนายกฯของพรรค ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจเป็นคนละกรณีกับคนที่พรรคสนับสนุนก็ได้ ขณะที่ชื่อของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ แกนนำกลุ่มกทม. ของพรรคนั้น เป็นบุคคลที่พรรคยอมรับแต่จะถึงขั้นการชูเป็นนายกฯของพรรคหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับประชาชนด้วย

"การเลือกตั้งผ่านบัตรเลือกตั้งใบเดียวนั้น มีความสำคัญต่อการเลือกบุคคลที่พรรคจะชูให้เป็นนายกฯ เพราะหากประชาชนไม่นิยมก็อาจไม่ได้รับเลือก อย่างไรก็ดีประเด็นนี้นายทักษิณไม่ได้บอกอะไร มีเพียงผมคือนายวัฒนาบอกเท่านั้น ขณะที่การเคลื่อนไหวทางการเมืองที่หลายฝ่ายจับตาว่าอาจเป็นคนตระกูลชินวัตรนั้น ผมมองว่าไม่ว่าสกุลชินวัตร หรือสกุลเมืองสุขล้วนมีเสรีภาพที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องการเมืองได้ทั้งสิ้น แต่เขาจะเข้าไปมีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหนเท่านั้น และจะได้รับการยอมรับมากน้อยแค่ไหน จากการร่วมต่อสู้กับประชาชน" นายวัฒนา กล่าว

นายวัฒนา ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของพรรค ในวันที่ 1 เม.ย.​ที่ คสช. อนุญาตให้ทำส่วนของขั้นตอนธุรการ ว่า กิจกรรมเตรียมพร้อมของพรรคจะมีเรื่องการประชุม, จัดตั้งสาขา เลือกหัวหน้า กรรมการบริหาร และเลขาธิการพรรค รวมถึงเรื่องสมาชิกและเก็บค่าบำรุงพรรค ดังนั้น คสช.​ต้องปลดล็อคเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการดังกล่าว ไม่ใช่ให้พรรคต้องเข้าขออนุญาตทำกิจกรรม ซึ่งตนเชื่อว่าหากคสช. ไม่ยอมปลดล็อคคำสั่งที่เป็นอุปสรรคจะได้เห็นภาพประชาชนออกมาบนถนนแน่นอน.