ข่าว

"บิ๊กตู่" ย้ำ "ไทยนิยม" สำคัญสำหรับวางรากฐานอนาคต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"นายกฯ" เผย การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ต้องยึดมั่นความเป็นชาติอย่างลึกซึ้ง ชี้ "ไทยนิยม" สำคัญสำหรับวางรากฐานอนาคต ขอให้เข้าใจ ไม่ได้กระตุ้นศก.จนไม่ลืมหูลืมตา

          2 ก.พ. 61 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว่า การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน เราจำเป็นต้องตระหนัก และยึดมั่นในความเป็นไทย ความเป็นชาติอย่างลึกซึ้ง ขณะเดียวกันก็ต้องเปิดกว้างรับความเปลี่ยนแปลงของโลก อย่างรู้เท่าทัน จึงจะได้ชื่อว่าเรามีภูมิคุ้มกันตามศาสตร์พระราชา เป็นส่วนหนึ่งของโครงการไทยนิยม ที่ตนกล่าวถึงบ่อยครั้งในช่วงนี้ เนื่องจากมีความสำคัญมากในการวางรากฐานอนาคต หากคนไทยลืม หรือไม่เข้าใจรากเหง้าของตนแล้ว ก็จะเหมือนการสร้างขื่อ แป หลังคาบ้าน บนเสา บนพื้นบ้านที่รากฐานสั่นคลอน ที่พร้อมจะล้มครืนลงได้ง่าย

         พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนด้วยหลักคิดไทยนิยมนั้น เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเสริมสร้างความเข้มแข็งในมิติสังคม ที่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับความเข้มแข็งในมิติเศรษฐกิจของประเทศ การแก้ปัญหาความยากจนของประเทศที่ผ่านๆ มา มีปัญหาหลัก 2 ประการที่เราต้องยอมรับ คือ 1.การพัฒนาทางเศรษฐกิจที่อาจจะละเลยในเรื่องการพัฒนาทางสังคมไปด้วยนะครับ และ 2.การแก้ปัญหาที่ขาดความเข้าใจที่ลึกซึ้ง จนเราไม่รู้ว่าอะไรคือความจน ไม่รู้ว่าใครบ้างที่จนจริง คนเหล่านั้นอยู่ที่ไหน ปัญหาของเขาคืออะไรกันแน่ เราก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน

         “มาตรการต่างๆ ออกมาหรือนโยบายสาธารณะที่ออกมา ก็อาจจะเป็นลักษณะเหมารวม หว่านแห เน้นสูตรสำเร็จที่ไม่มีจริง ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาที่แตกต่างของแต่ละครัวเรือนได้ นำไปสู่การใช้งบประมาณที่ไม่มีประสิทธิภาพ บางครั้งก็เลยเถิดไปสร้างกระแสประชานิยมที่ผิดๆ ก็ยิ่งแย่ไปใหญ่ สำหรับโครงการไทยนิยมยั่งยืน ที่รัฐบาลกำลังทำอยู่นั้น ผมขอย้ำและทำความเข้าใจอีกครั้งว่ารัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังเพื่อผลประโยชน์อื่นใดกับรัฐบาลเลย เป็นเรื่องของการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ก็คือ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” นายกฯ กล่าว

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลจัดทำโครงสร้างการทำงานมาอย่างต่อเนื่องจะเห็นได้ว่า 3 ปีที่ผ่านมา มีตั้งแต่ระดับนโยบาย ระดับนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ขับเคลื่อนนะครับ และระดับพื้นที่ เพื่อจะขับเคลื่อน และสร้างการรับรู้ถึงงานและนโยบายของคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ที่เรียกว่า กขป. และ คณะกรรมการบริหารราชแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปของประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และ การสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) เช่นยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูป สัญญาประชาคม หน้าที่พลเมือง ประชาธิปไตย การเลือกตั้ง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การแก้ไขปัญหาความยากจน ปัญหายาเสพติด เป็นต้น แต่ตนเห็นว่าปัญหาที่ผ่านมา เรายังขาดกลไกขับเคลื่อนสำคัญในระดับพื้นที่ ข้าราชการทุกกระทรวงต้องเข้าใจงานในลักษณะบูรณาการ

           “ผมอยากให้เข้าใจว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมดังกล่าว ไม่ใช่ว่ารัฐจะเร่งรัดกระตุ้นเศรษฐกิจแบบไม่ลืมหูลืมตา โดยไม่คำนึงถึงวินัยทางการคลัง ผมจึงอยากให้ทุกท่าน รับรู้และเข้าใจว่าการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ ผมตั้งใจเป็นอย่างยิ่ง ที่จะวางรากฐานที่สำคัญให้กับประเทศ วางระบบและแนวทางการปฏิรูป ให้นโยบายต่างๆ โดยเฉพาะนโยบายเชิงโครงสร้าง ที่จะยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และ เพิ่มรายได้ให้กับประเทศ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะยาว ที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการจัดทำและให้ความเห็น" นายกฯ กล่าว

         นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเป็นเรื่องง่าย และทำได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ที่จะ ปรับถาง สร้างทางเดินใหม่ให้กับประเทศ ทั้งในเรื่องการปฏิรูปกฎหมายต่างๆ และการจัดตั้งหรือปฏิรูปองค์กร ที่มีความสำคัญของรัฐ แต่รัฐบาลมีความตั้งใจจริง และ หลายฝ่ายก็ได้ร่วมมือร่วมใจ สิ่งเหล่านี้ แม้ตนอยากทำให้ทุกท่านได้เห็นเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ว่ามันจะนำไปสู่ความสำเร็จอย่างไร แต่มันคงไม่ง่าย ไม่เร็วดั่งใจคิด เพราะเป็นนโยบายระยะยาวเป็นรากฐานรองรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ให้ประเทศก้าวไปได้อย่างมั่นคง

         "ผมไม่ได้ต้องการให้ใครมาชื่นชม หรือสรรเสริญเยินยอในความพยายามนี้ เพียงแต่ขอให้รับรู้ และเห็นในความตั้งใจ เพื่อช่วยกันสานต่อ ช่วยกันผลักดัน คนละไม้ละมือ หากเห็นจุดที่ทำให้ดีขึ้นได้ก็ช่วยกันเสนอแนะ ทั้งหมดนี้ ไม่ใช่ทำเพื่อผม แต่เป็นเพื่อประเทศ และลูกหลานของเราในอนาคต" นายกฯ กล่าว.

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ